- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 08 April 2016 18:49
- Hits: 4833
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ทดสอบแนวรับ 1350 หาจังหวะสะสมหุ้นเป็นรายตัวเมื่อดัชนีย่อลง
ตลาดไทยวันนี้มีแนวโน้มจะย่อลงได้ต่อ ปัจจัยกดดันจากภายในประเทศ ได้แก่ การเข้าสู่ช่วงหยุดสงกรานต์ SET Index จึงเสี่ยงต่อการถูกขายทำกำไรมากขึ้น และกลุ่มแบงก์ที่ยังคงได้รับผลกระทบจากการทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ย MLR ของแบงก์ใหญ่ๆ และกลุ่มสื่อสารที่ช่วงนี้มีปัจจัยลบคือ ประเด็น License 4G คลื่น 900MHz ประกอบกับ Valuation ของหุ้นกลุ่มสื่อสารหลายตัวมี upside น้อยมากในเชิงพื้นฐาน ทางด้านปัจจัยต่างประเทศการที่ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยช่วงนี้ แถมความกังวลเรื่องการฟื้นตัวอย่างล่าช้าของเศรษฐกิจโลกและราคาน้ำมันยังไม่สามารถกลับมายืนเหนือ 40 เหรียญ/บาเรล ได้นั้น ล้วนส่งผลกระทบต่อ sentiment ทำให้บรรยากาศการลงทุนเป็นลบโดยรวมในช่วงนี้
แนวรับ/แนวต้าน : 1350/1380 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%
กลยุทธ์ : เก็บสะสมหุ้นที่ราคาไม่แพงและมีพื้นฐานดี มี story หนุนเป็นรายตัว และคาดจะรายงานงบออกมาดีในปีนี้
หุ้นแนะนำ
1. EPG target 16 (Theme ผลประกอบการรายงานออกมาดี)
แนวโน้มงบปี 59 (period เม.ย.58-มี.ค.59) เติบโตต่อเนื่องและไตรมาสล่าสุด (ม.ค.59-มี.ค.59) คาดจะออกมาดีมาก โดยกำไรคาดจะโตกว่า 30%qoq และ 150%yoy
ธุรกิจผ่านช่วง low season ไปแล้วและลุ้นคว้างานฉนวนกันความร้อนสำหรับสุวรรณภูมิและดอนเมือง ซึ่งจะเปิดประมูลเร็วๆนี้
แผนเปิดตลาดเพิ่มในเออีซี ทั้งเวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย จะช่วยเพิ่มยอดขายจากประเทศในกลุ่มอาเซียนจาก 5% เป็น 10% ในปีนี้ปีนี้จะไม่มีการบันทึกค่าใช้จ่ายการปิดโรงงานของ TJM ในจีน ทำให้ธุรกิจ ARK ของ EPG สดใสขึ้น
ธุรกิจ AFC และ EPP ของ EPG จะได้ประโยชน์จากอัตรากำไรที่อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องจากต้นทุนโดยเฉพาะต้นทุนเม็ดพลาสติกที่ยังอยู่ในระดับต่ำ
2. STA target 14 (Theme ราคายางฟื้นตัว)ราคายางโลกเข้าสู่ช่วงร้อนแรงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน กำไรของ STA มี correlation เชื่อมโยงกับราคายางมากถึง 80% จึงได้ผลบวกอย่างสูงตั้งแต่เดือน มี.ค.59 ประเทศไทยจะจับมือกับอินโดนีเซียลดการผลิตและส่งออกยางพาราจนถึง ส.ค.59 ซึ่ง 3 ประเทศรวมกันมียอดผลิตยางพารารวมเกือบ 70% ของผลผลิตยางพาราทั้งโลก ดังนั้น การจับมือกันควบคุมปริมาณการผลิตจะมีผลให้ราคายางพาราปรับขึ้นต่อตั้งแต่เดือน เม.ย.59 เป็นต้นไปช่วงไตรมาส 2 หลายพื้นที่ในประเทศไทยเข้าสู่ช่วงยางผลัดใบ ทำให้ปริมาณ supply ยางพาราลดลงและหนุนราคายางพาราขึ้น
3. ASEFA target 7 (Theme การประมูลงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐและเอกชน) กำลังจะย้ายฐานการผลิตจากบางบอนมารวมในเขตโรงงานใหม่ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตถึง 50% และลดต้นทุนด้านการขนส่งคาดรายได้ปี 59 โต 20% ส่วน gross margin และการควบคุมค่าใช้จ่าย SG&A ดีขึ้นจากปีก่อน ส่งผลให้กำไรมีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่เปิดสาขาใหม่ 10 สาขาไว้ให้บริการหลังการขาย ทำให้มีรายได้จากการให้บริการมาเสริม ซึ่งธุรกิจนี้มีอัตรกำไรข้างต้นสูงถึง 55%จำนวนงาน Backlog ในมือมากถึง 1.7 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกรับรู้เป็นรายได้ในปี 59 นี้ และช่วยให้รายได้โตตามเป้า
ข่าวการประมูลงานโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลทั้งงานรถไฟฟ้า และการเชื่อมสายไฟลงใต้ดิน ช่วยหนุน sentiment นอกจากนี้ยังมีการประมูลงานภาคเอกชน ทั้งงาน data centers, 4G, และพลังงานทดแทน ซึ่งล่าสุด ASEFA ยื่นประมูลไป 2-3 พันล้านบาทและจะทยอยประกาศผลการชนะการประมูลในช่วงไตรมาส 2 นี้ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยช่วยหนุนราคาหุ้น
นักวิเคราะห์ : ยศพณ แสงนิล, CFA Email : [email protected] Tel: 02 659 8154