- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 08 April 2016 18:31
- Hits: 3788
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: ทยอยซื้อหุ้นสื่อสาร ธนาคาร แนวรับสำคัญ 1340
SET Index: 1363.66 ฟื้นตัวกลับขึ้นมาเหนือระดับ 1360 จุดหลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1350 จุด แต่เราคาดว่า การปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1370 จุดลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แนวโน้มของ SET Index จะมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบ 1340 หรืออาจทดสอบ 1320 จุด แต่เนื่องจากหุ้นในกลุ่มธนาคาร และสื่อสารปรับตัวลดลงมากเกิดไปในระยะสั้น จึงแนะนำให้ทยอยเข้าซื้อหุ้นบางส่วนไปก่อน ในขณะที่ความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1340 จุด น่าจะมาจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน แต่เป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้นเพิ่ม
แนวต้าน : 1365 และ 1368
แนวรับ : 1360 และ 1357
ADVANC = 157 / 160, KBANK = 156 / 158, DTAC = 33.50 / 34.50, BBL = 164 / 166, INTUCH = 53.50 / 54.50
Minor International (MINT TB; THB 36.00) – ซื้อ
แนวต้าน : 38.00 และ 39.00
แนวรับ : 36.00 และ 35.75
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากแรงขายทำกำไร แต่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมาก หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ ซึ่งเราคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบ 43.00
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวลดลงทดสอบระดับ 50
แนะนำซื้อ MINT โดยมีแนวรับที่ 36.00 และ 35.75 และมีแนวต้านที่ 38.00 และ 39.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 34.00 ลงไป
Jasmine International (JAS TB; THB 3.62) – ซื้อ
แนวต้าน : 3.84 และ 3.96 / เป้าหมาย 4.30
แนวรับ : 3.62 และ 3.60
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 3.70 ซึ่งเป็นแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลงในระยะสั้นแต่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมาก หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อไนหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ JAS โดยมีแนวรับที่ 3.62 และ 3.60 หรือซื้อเพิ่มทะลุผ่าน 3.72 และมีแนวต้านที่ 3.84 และ 3.96 เป็นจุดขายทำกำไรในระยะสั้น
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.56 ลงไป
SET50 Index Futures
S50M16 ปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 850 ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาในระยะสั้น ซึ่งเป็นแนวรับที่ระดับ 61.80% ของการปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบที่ผ่านมา หลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคต่อเนื่องที่ค่อนข้างแรง ทำให้การฟื้นตัวในระยะสั้น น่าจะมีแนวต้านสำคัญที่ 875 แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 850 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 830-833 เป็นจังหวะเข้าซื้ออีกครั้ง
แนวต้าน : 860 และ 864
แนวรับ : 858 และ 855
คำแนะนำ: เราแนะนำให้รอ Open Long ใน S50M16 ที่แนวรับ 850-852 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวในระยะสั้นไปทดสอบ 864 และ 870
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า S50M16 ปรับตัวลดลงหลุด 848 ลงไป
JASM16
เคลื่อนไหวในกรอบแคบหลังจากฟื้นตัวต่อเนื่องเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงในระยะสั้น ซึ่งเราคาดว่า น่าจะเป็นการปรับฐานก่อนที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 3.70 และ 3.75 ถ้าสามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 4.00 และ 4.50 เป็นเป้าหมายขายทำกำไร
แนวต้าน : 3.60 และ 3.70
แนวรับ : 3.47 และ 3.44
คำแนะนำ: เราแนะนำให้กลับเข้าไป Open Long ใน JASM16 ที่แนวรับ 3.50-3.52 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.70 และรอ Long เพิ่มถ้าปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านที่ 3.75
ITDM16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวในระยะสั้นหลังจากปรับตัวลดลงเข้าใกล้แนวรับที่ 7.00 การปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญของกรอบแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นที่ 7.20ลงไป ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบ 6.90 ดังนั้น การฟื้นตัวต่อเนื่องไปทดสอบ 7.25-7.30 ควรใช้เป็นจังหวะ Open Short
แนวต้าน : 7.20 และ 7.30
แนวรับ : 7.00 และ 6.90
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ STOP LOSS สถานะ Long ใน ITDM16 ออก หลังจากหลุดแนวรับสำคัญที่ 7.25 ลงไป เน้นการ Open Short โดยมีแนวรับถัดไปที่ 6.90
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า ITDM16 ปรับเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 7.32 กลับขึ้นไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ทรงและซึมลง
สภาวะที่ตลาดหุ้นเริ่มมีแรงขายหุ้นหลักๆ ในกลุ่ม ธนาคาร สื่อสารและพลังงาน ส่วนหุ้นในกลุ่มอื่นๆ ปัจจัยหนุนแทบไม่เหลือ จะมีอยู่บ้างก็มีในกลุ่ม โยงท่องเที่ยวและค้าปลีก ซึ่งตอนนี้ราคาหุ้นส่วนใหญ่ขึ้นมารับข่าวมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐในช่วงสงกรานต์ อย่างไรก็ตามหากเราไม่พิจารณาเป็นรายกลุ่ม แต่กลับมาพิจารณาถึงค่า Earning momentum ratio หรือแนวโน้มการปรับเพิ่มและลดค่า EPS ของหุ้นใน SET 50 เราจะพบว่าส่วนใหญ่ถูกปรับลด Earning ลง แต่ที่ถูกปรับขึ้นและเด่นมากๆ คือ JAS ROBINS TU ดูรูปด้านซ้าย แม้ JAS จะถูกนักวิเคราะห์ปรับค่า EPS ขึ้น แต่ความเสี่ยงในตอนนี้คือ อาจถูกทางการฟ้องร้องค่าเสียหาย จากการไม่มาจ่ายชำระค่าใบอนุญาต 4G ตามกำหนดเวลา
หากไม่ดูค่า Earning momentum ratio ที่อาจจะยังผันผวนได้ต่อ แต่กลับมาดูหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง (Dividend yield%) ดูจากรูปด้านขวา ที่เราแสดงค่า Dividend yield 12 เดือนล่วงหน้าของ SET 50 เราจะพบว่าหุ้นที่ให้ Dividend yield สูงๆ จะอยู่ในกลุ่ม สื่อสาร(ADVANC และ INTUCH ให้สูงกว่า 6%) อสังหาริมทรัพย์ (LH PS) นอกนั้นจะเป็นหุ้นในกลุ่มพลังงาน
ทิศทางดัชนี SET ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ถึงสัปดาห์หน้า จะเข้าสู่ช่วงหยุดยาว ซึ่งปริมาณการซื้อขาย น่าจะเบาบางลง เนื่องจากนักลงทุนอาจลดความเสี่ยงในการถือครองหุ้น แต่ในสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป จะเข้าสู่ช่วงการเริ่มประกาศผลการดำเนินงาน Q1/16 ของหุ้นในสหรัฐ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคาร ดังนั้นผลการดำเนินงาน Q1/16 จะเป็นตัวแปรหลักของตลาดหุ้นสหรัฐ โดยล่าสุดจากการสำรวจของ Thomson Reuters พบว่าอัตราการขยายตัวของค่า EPS จะติดลบ 7% เทียบ Q4/15 ที่ติดลบ 2.9%
ทิศทางดัชนี SET หลังลงมาแรง 2 วันอาจจะเริ่มมีการรีบาวน์ขึ้นมาได้ แต่คงเป็นระยะสั้นๆ เพราะมองทิศทางราคาน้ำมันน่าจะยังผันผวนในทางลงมากกว่าในทางขึ้น แต่หากราคาน้ำมันจะสามารถขึ้นได้ต่อ ไม่ว่าจะรับข่าวดีเรื่องการประชุมในวันที่ 17 เม.ย.หรือไม่ กรอบที่จะขึ้นยังอยู่ที่ 43-45 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ ส่วนใบอนุญาต 4G ที่ทาง ADVANC สนใจในราคา 7.56 หมื่นล้านบาท ที่กดราคาหุ้นให้ปรับตัวลงแรงมาแรง 2 วัน น่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวแล้วหลังราคาลงมาตอบรับแล้ว สุดท้ายกลุ่มธนาคารพาณิชย์ คาดจะเริ่มซึมตัวลง จนกว่าจะประกาศผลการดำเนินงาน
วันนี้คาดว่าตลาดเปิดมาจะมีการปรับลดลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับลดลงแรงจากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง โดยคาดว่าดัชนีจะปรับตัวลงต่อไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1350 จุด แล้วน่าจะมีแรงซื้อกลับในระยะสั้น กลยุทธ์การลงทุนในยามที่ตลาดผันผวนเป็นขาลงเรายังแนะนำให้ขายหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ต่อจากผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะชะลอตัวลงบวกกับการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงก็จะส่งผลลบต่อความสามารถในการทำกำไรในอนาคตด้วย ในขณะที่กลุ่มพลังงานคาดว่าจะรีบาวน์ได้ไม่ไกลเนื่องจากเชื่อว่าการประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในวันที่ 17 เม.ย. จะออกมาสร้างความผิดหวังให้กับตลาดและน้ำมันจะปรับลดลงไปต่ำกว่า 35 ดอลลาร์/บาร์เรล ดังนั้นหากกลุ่มพลังงานปรับขึ้นมาแนะนำ ทยอยขายทำกำไรระยะสั้น ส่วนกลุ่มสื่อสาร (ICT) อย่าง ADVANC INTUCH คาดว่าจะมีการรีบาวน์กลับในวันนี้ หลังราคาปรับลดลงมากจนอัตราเงินปันผลกลับมาสูงที่ 5.8-6.4% ในขณะที่กลุ่มที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้อีกกลุ่มจะเป็นกลุ่มสินเชื่อที่ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลง (ส่งผลให้ต้นทุนเงินกู้ต่ำลง ในขณะที่เศรษฐกิจแย่ก็จะมีคนมาใช้บริการสินเชื่อจำนำรถเพิ่มขึ้นก็จะช่วยเพิ่มรายได้และกำไรให้กับบริษัท) อย่าง SAWAD MTLS (ราคาเป้าหมาย 58 บาทและ 21 บาท) ในขณะที่หุ้นที่ยังคง laggard หุ้นในกลุ่มค้าปลีกอย่าง CPALL (ราคาหุ้น CPALL +4.1% ใน 2 เดือน ในขณะที่กลุ่มค้าปลีก +7.6%) ก็น่าสนใจโดยราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER ต่ำเพียง 23.8 เท่าเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 27 เท่าและกลุ่มค้าปลีกที่ 27.2 เท่า โดยเราให้ราคาเป้าหมายที่ 51 บาทวันนี้เราให้แนวรับที่ 1343-1350 และแนวต้านที่ 1360-1365 จุด
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,363.66 จุด เพิ่มขึ้น 6.97 จุด (+0.51%) มูลค่าการซื้อขาย 21,281.20 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้รีบาวด์ หลังปรับตัวลงแรงเมื่อวานนี้ โดย SET สามารถยืนเหนือระดับ 1350 จุด ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ ตามตลาดดาวโจนส์ เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก บ้านเราเช้านี้มีแรงหนุนจากกลุ่มสื่อสาร และหุ้นขนาดใหญ่อย่าง AOT
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย เรามองว่าตลาดมีการรับรู้ปัจจัยลบดังกล่าวไปพอสมควรแล้ว และ SET เริ่มปรับตัวลงมาที่แนวรับใหญ่ในกรอบขาขึ้น หากยืนได้ก็จะเปิดโอกาสให้สามารถเข้าซื้อเก็งกำไรเล่นรอบได้ โดยมีเป้าขายทำกำไรที่ระดับ 1376 จุด ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน โดยมองกลุ่ม พลังงาน โรงแรม วัสดุก่อสร้าง จะนำตลาด แต่ในทางกลับกัน หากยืนไม่ได้ SET ก็จะเข้าสู่กรอบแนวโน้มลงเต็มตัว โดยจะมีแนวรับถัดไปที่ 1320 จุด และ 1300 จุด ขณะที่ภาพใหญ่ SET ถูกกดดันจากกลุ่มธนาคารและสื่อสาร จากปัจจัยเรื่องการลดดอกเบี้ยเงินกู้และการประมูล 4G ประกอบกับตลาดหุ้นไทยเริ่มหมดปัจจัยหนุนในระยะสั้น และเราคาดว่าอาจจะต้องเจอกับการทยอยปรับลดประมาณการณ์กำไรสุทธิลงรอบใหม่ในหุ้นกลุ่มธนาคารและสื่อสาร ซึ่งจะมีผลให้ PE SET จะเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันที่ประมาณ 15.5 เท่า
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
Minor International (MINT TB; THB 36.00) - ซื้อ
Jasmine International (JAS TB; THB 3.62) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]
