WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSS copyบล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน



SET ไหลลงเร็ว คาดมีลุ้นแรงซื้อกลับ ดังนั้นเลือกหุ้นทยอยซื้อได้…

  กลยุทธ์ : SET ยังมีปัจจัยลบกดดันพอควร ทำให้คาดว่าดัชนียังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อได้อีก อย่างไรก็ตาม FSS คาดว่าหลัง SET ปรับตัวลงสักระยะ น่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาช่วยหนุนให้ตลาดแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้นและมีลุ้นกลับเข้าสู่การแกว่งตัวบวกได้อีกครั้งในช่วงถัดไป โดยสภาพคล่องในตลาดที่ยังมีอยู่มากจากเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ เราจึงแนะนำเลือกหุ้นทยอยซื้อเมื่ออ่อนตัว


  หุ้นเด่นทางเทคนิค : SVI, EA, SPCG(buy back)
  แนวโน้ม : ช่วงบ่ายวานนี้ SET ยังมีแรงขายกดดันต่อเนื่องอีกครั้ง หลังจากช่วงครึ่งวันเช้าดัชนีแกว่งทรงตัวได้บ้างจากแรงรับที่มีเข้ามา แต่ความวิตกเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของแบงก์ และความอ่อนแอของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังทำให้ SET มีแรงขายออกมาอีกครั้ง ขณะที่เช้านี้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศยังไม่สดใส เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยมองว่าการที่เฟดยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยช่วงนี้เพราะภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ซบเซาทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลงได้อีก รวมทั้ง ECB ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อต่ำและแนวโน้มการลงทุนที่อ่อนแอในยูโรโซนด้วย ส่งผลให้ทั้งตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ปิดปรับตัวลงเกือบ 1% กดดันให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดปรับตัวลงกันพอควร ขณะที่ในบ้านเรายังมีแรงขายในหุ้นกลุ่มแบงก์และ ICT กดดันตลาดอยู่ด้วย ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวลงต่อเนื่องได้อีก อย่างไรก็ตามการปรับตัวลงค่อนข้างเร็วและแรงของ SET น่าจะช่วยกระตุ้นแรงซื้อกลับให้มีเข้ามาช่วยหนุนตลาดได้อีกครั้งในช่วงถัดไป รวมทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกในช่วงสัปดาห์นี้เริ่มมีจังหวะแกว่งทรงตัวให้เห็นบ้างแล้ว ทำให้มีโอกาสฟื้นตัวเพื่อรอลุ้นผลประชุมร่วมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในวันที่ 17 เม.ย.นี้ได้ ดังนั้น FSS แนะนำให้เลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อสะสมได้อีกครั้งในช่วง SET ไหลลง
  แนวรับ 1355-1352 , 1350-1347 , 1343-1338 จุด
  แนวต้าน 1360-1365 , 1370-1375 จุด

     Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคแต่เบาบาง US$27 ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$242 ล้าน และอินโดนีเซีย US$51.6 ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไต้หวัน US$182.6 ล้าน และไทย US$80.7 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคแต่อาจชะลอลงเพราะความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกสูงขึ้นตามรายงานผลการประชุม Fed รวมถึงผลการประชุม ECB ที่แสดงความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจในยูโรโซนเช่นกัน

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (-) ค่าเงินเยนแข็ง-หยวนอ่อน เงินเยนแข็งค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์ตั้งแต่ Fed ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย เป็นลบกับตลาดหุ้นญี่ปุ่น ส่วนค่าเงินหยวนเช้านี้อ่อนต่อเล็กน้อยมาอยู่ที่ 6.4733 หยวน/ดอลลาร์ เศรษฐกิจจีนและความผันผวนของค่าเงินหยวนยังคงเป็นความเสี่ยงของตลาดโลก
  (+) กลุ่มไฟแนนซ์ได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาลง เพราะต้นทุนการกู้ยืมจะลดลง โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีเงินกู้ยืมระยะสั้นในอัตราส่วนสูง เรายังชอบ MTLS (ราคาพื้นฐาน 25 บาท) มากสุดในกลุ่มเพราะมีเงินกู้ระยะสั้นในสัดส่วนที่สูงสุดในกลุ่ม ความต้องการสินเชื่อในตลาดรากหญ้ายังมีอยู่มาก ขณะที่ยังคุม NPL ได้ดีมาก และไม่ถูกกระทบจากภัยแล้ง และเราชอบ GL (ราคาพื้นฐาน 25 บาท) จากกำไรเติบโตที่สูง
(-) ADVANC ศาลปกครองนัดไต่สวนวันนี้ 13.30 น. กรณี ADVANC ยื่นฟ้องกทค.ขอขยายเวลาเยียวยาคลื่น 900MHz ออกไปอีก จากที่จะหมดอายุ 14 เม.ย. นี้ ส่วนกสทช.จะหารือกับนายวิษณุ เครืองาม กรณี ADVANC ขอรับซื้อคลื่น 900MHz ต่อจาก JAS เราคิดว่าหุ้นกลุ่มมือถือยังไม่น่าสนใจลงทุนจากการลงทุนที่สูงจะฉุดกำไรของทั้งกลุ่มในปีนี้
(0) KTB การประชุมนักวิเคราะห์วานนี้โทนเป็นลบ ใกล้เคียงกับ KBANK และ BBL ที่รายงานไปก่อนหน้านี้คือ NPL ยังเพิ่มขึ้น คุณภาพหนี้ยังอ่อนแอ ทำให้ KTB จะตั้งสำรองเพิ่มกว่าปกติและยังมีรายจ่ายพนักงานเพิ่มขึ้นกดดันกำไร 1Q16 ที่เราคาด -11.7% Q-Q, -24.6% Y-Y การลดดอกเบี้ย MLR 0.25% จะกระทบกำไรตั้งแต่ 2Q16 เราปรับลดกำไรปีนี้ลง 5.5% เหลือ +7% Y-Y จากเดิมคาด +13% Y-Y ปรับราคาพื้นฐานปีนี้ลงเหลือ 19.50 บาทจาก 21 บาท แต่ราคาหุ้นปรับลงมาอยู่แถวแนวรับและมี Dividend yield 4.4% (จ่าย 0.76 บาท/หุ้น XD 10 พ.ค.) จึงคงคำแนะนำซื้อ
(+) BIG งาน BIG Cemera Festival 2016 ที่เพิ่งจบไป (31 มี.ค.-6 เม.ย.) ได้ยอดขาย 140 ล้านบาท +40% Y-Y บันทึกเข้ามาใน 2Q16 ส่วนกำไรใน 1Q16 คาดว่าจะทำได้ 170 ล้านบาท +133% Y-Y โดยมี loss carry forward ที่จะใช้ทั้งหมดคราวเดียว 38 ล้านบาท หากหักรายการดังกล่าวออก กำไรปกติยังโตถึง 81% Y-Y (แต่ -14.6% จาก 4Q15 ซึ่งเป็น high season) และยังมีปันผลของปีก่อนอีก 0.06 บาท/หุ้น (Yield 2.6%) XD 27 เม.ย. เรายังแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 2.50 บาท
(+) THCOM เราคาดกำไรปกติ 1Q16 -15.5% Q-Q, +37.6% Y-Y หนุนโดยไทยคม 7 ที่มี Utilization rate 100% เต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก ล่าสุด Forever Group (ผู้ประกอบการทีวีดาวเทียมในพม่า) ตกลงเช่าช่องสัญญาณเพิ่มจาก 3 Transponder เป็น 8 Transponder ดีต่อ Presale ของไทยคม 8 ที่เตรียมยิงขึ้นสู่วงโคจร มิ.ย. นี้ที่ปัจจุบันมี presale 17% (สมมติฐานของเรา 40%) เรายังคงคาดกำไรปกติปีนี้ +2.9% Y-Y การเติบโต Y-Y ส่วนใหญ่อยู่ใน 1H16 แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 38.50 บาท

  (-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดร่วงแรงพอสมควรโดยถูกกดดันจากความกังวลเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจโลกรวมรวมถึงประสิทธิผลของธนาคารกลางต่างๆที่กระตุ้นเศรษฐกิจ
  (-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบค่อนข้างแรงเช่นกันโดยตอบรับเชิงลบต่อรายงานการประชุม ECB รวมถึงแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ผันผวน
  (-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวลดลงเช่นกันตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นจากความกังวลเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
  (0) ค่าเงินบาทแกว่งทรงตัวออกข้าง ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 35.14-35.23 บาท/ดอลลาร์
  (-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. ลดลง 0.49 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 37.26 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยมีรายงานว่าท่อส่งน้ำมันที่ปิดไม่ได้ส่งผลต่อการขนส่งน้ำมันไปยังฐานเก็บมากเท่าที่คาด รวมถึงอิรักที่ส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น
  ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. พุ่งขึ้น 13.70 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,237.50 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง รวมถึง FED ที่ส่งสัญญาณว่ายังระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

5-28 เม.ย. - ไทย: กสทช.เปิด Public hearing การประมูลคลื่น 900MHz รอบใหม่
8 เม.ย. - ตลาดหุ้นอินเดียปิดทำการ
10-เม.ย. - จีน: ยอดสินเชื่อรายเดือน (มี.ค.)
13-15 เม.ย. - ตลาดหุ้นไทยปิดทำการวันสงกรานต์
13-เม.ย. - ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการ เนื่องในวันเลือกตั้งทั่วไป

- จีน: ดุลการค้า (มี.ค.) (ตลาดคาดส่งออก +9.7% Y-Y บวกครั้งแรกในรอบ 9 เดือน)

- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (มี.ค.), Fed Beige Book

- ยูโรโซน: Industrial Production (ก.พ.)
14-เม.ย. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม

- สิงคโปร์: 1Q16 GDP (ตลาดคาด +1.6% Y-Y เทียบ 4Q15 ที่ +1.8% Y-Y)

- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)

- IMF: ทบทวนประมาณการ GDP โลก
15-เม.ย. - จีน: 1Q16 GDP (ตลาดคาด +6.7% Y-Y เทียบ 4Q15 ที่ +6.9% Y-Y)
17 เม.ย. - การประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน OPEC และ Non-OPEC ที่เมืองโดฮา

Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!