- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 07 April 2016 16:49
- Hits: 833
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: ทดสอบแนวรับสำคัญ 1370 มีโอกาสฟื้น
SET Index: 1376.73 ฟื้นตัวในระยะสั้นเหนือระดับ 1375 จุดหลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคหลุดระดับ 1400 จุด แต่เราคาดว่า การปรับตัวลดลงในระยะสั้นไปทดสอบแนวรับสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1370 จุด น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวหลังจากหุ้นในกลุ่มธนาคาร และสื่อสารปรับตัวลดลงมากเกิดไปในระยะสั้น ในขณะที่ความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1340 จุด อาจจะมาจากการปรับตัวลดลงของหุ้นในกลุ่มพลังงาน แต่เป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้นเพิ่ม
แนวต้าน : 1380 และ 1384
แนวรับ : 1375 และ 1372
ADVANC = 159 / 162, JAS = 3.64 / 3.70, AOT = 384 / 388, KBANK = 158 / 160, INTUCH = 54.00 / 55.00
Krungthai Card (KTC TB; THB 88.50) - ซื้อ
แนวต้าน : 90.50 และ 92.50
แนวรับ : 88.50 และ 88.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐาน ในขณะที่โครงสร้างในระยะยาวมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันไปทดสอบระดับ 100
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ KTC โดยมีแนวรับที่ 88.50 และ 88.00 และมีแนวต้านที่ 90.50 และ 92.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 85.50 ลงไป
Total Access Communication (DTAC TB; THB 33.75) - ซื้อ
แนวต้าน : 35.50 และ 37.00
แนวรับ : 33.75 และ 33.50
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่องเข้าใกลแนวรับสำคัญของเส้นแนวโน้มขาขึ้นหลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคหลุดแนวรับสำคัญที่ 40.00 ลงไปต่อเนื่อง แต่เราคาดว่า การปรับตัวลดลงในระยะสั้น น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวทางเทคนิคที่แนวรับสำคัญ
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยทดสอบระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 40
แนะนำซื้อ DTAC โดยมีแนวรับที่ 33.75 และ 33.50 และมีแนวต้านที่ 35.50 และ 37.00 เป็นจุดขายทำกำไร
ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 33.00 ลงไป รอซื้อเพิ่มที่แนวรับ 32.00 และ 31.00
SET50 Index Futures
S50M16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคในระยะสั้นหลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคหลุดแนวรับสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 885 ลงไป แต่เราคาดว่า การปรับตัวลดลงในระยะสั้นไปทดสอบ 865 และ 862 น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 874-876
แนวต้าน : 870 และ 874
แนวรับ : 866 และ 864
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน S50M16 ที่แนวรับ 866 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวในระยะสั้นไปทดสอบ 874 เพื่อ Open Short อีกครั้ง
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า S50M16 ปรับตัวลดลงหลุด 861.50 ลงไป
JASM16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นต่อเนื่อหลังจากเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคที่บริเวณแนวรับสำคัญ 3.10 แต่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมาก จึงทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.70-3.74 และมีแนวต้านสำคัญที่ 4.00 และ 4.50 เป็นเป้าหมายขายทำกำไร
แนวต้าน : 3.60 และ 3.70
แนวรับ : 3.52 และ 3.50
คำแนะนำ: เราแนะนำให้กลับเข้าไป Open Long ใน JASM16 ที่แนวรับ 3.50-3.52 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.70 และรอ Long เพิ่มถ้าปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านที่ 3.74
ITDM16
ปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรที่บริเวณแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 7.60 ซึ่งเราคาดว่า การปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญของกรอบแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น แต่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมาก น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวในระยะสั้นที่แนวรับสำคัญ 7.30 กลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.60
แนวต้าน : 7.50 และ 7.60
แนวรับ : 7.30 และ 7.25**
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ขายทำกำไรสถานะ Short ใน ITDM16 ที่แนวรับ 7.30 และเปลี่ยนเป็นสถานะ Long โดยมีแนวต้านที่ 7.50 และ 7.60
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า ITDM16 ปรับลดลงหลุดระดับ 7.25 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...จะผันผวน
ช่วงที่ราคาน้ำมันกำลังอ่อนตัวลง โดยกรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันน่าจะอยู่ที่ 35-30 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ หลังตลาดเริ่มกังขาเรื่องการประชุมในวันที่ 17 เม.ย. ที่ทางซาอุดิอาระเบีย บอกว่าต้องให้ทางอิหร่านเข้าร่วมด้วย ซึ่งอิหร่านเองยืนยันมาตลอดว่าจะไม่เข้าร่วม ดังนั้นในการประชุม คงไม่มีเห็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันในช่วงสั้น อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันสามารถดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ จากตัวเลขสต๊อกน้ำมันของสหรัฐกลับลดลงเหนือความคาดหมาย ซึ่งน่าจะเกิดในช่วงสั้น ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน อาจต้องกลับไปดูหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการอ่อนตัวของราคาน้ำมัน อย่างกลุ่ม ขนส่งที่โยงท่องเที่ยว ส่วนกลุ่มเดินเรือ ดัชนีกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นมา เป็นผลมาจากดัชนี BDI ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดและยังไปไม่ได้ไกล ส่วนผลของน้ำมันคงมีส่วนไม่มาก
หากมาดูความสัมพันธ์ระหว่างดัชนีกลุ่มขนส่ง 10 บริษัท คือ TTA PSL THAI AOT AAV BEM BAFS BTS และ NOK เทียบกับราคาน้ำมันตั้งแต่ต้นปี 2010 ถึงปัจจุบัน โดยดูความถี่เป็นรายวัน เราจะพบว่าความสัมพันธ์ในทางตรงข้าม คือ ราคาน้ำมันปรับตัวลง ราคาหุ้นขนส่งจะปรับตัวขึ้น และทางตรงข้าม จากรูปด้านซ้าย คือ ผลของความสัมพันธ์ โดยเส้นเฉลี่ยกลาง คือเส้นที่ข้อมูลทั้ง 2 มีความสัมพันธ์มากที่สุด ส่วนเส้นบน คือค่า +1SD และเส้นล่างคือ -1SD จากรูปเราจะพบว่า ราคาน้ำมันที่ระดับต่ำกว่า 40 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ ดัชนีกลุ่มขนส่งควรจะอยู่ที่กรอบ 240-260 จุดแต่หากใช้ค่า+1SD ดัชนีกลุ่มจะขึ้นไปในกรอบ 280 จุดซึ่งก็คือ ดัชนีที่ยืนในปัจจุบัน นั่นเอง (ดูรูปด้านขวา)
เรามองว่าเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ดัชนีกลุ่มขนส่ง 10 บริษัท ปรับตัวขึ้นไปถึง 280 จุด ส่วนหนึ่งมาจากหุ้นเดินเรือ ที่ระยะหลังขึ้นมาอย่างโดดเด่น หลังมองว่าดัชนี BDI ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว หากไม่รวมหุ้นดังกล่าวดัชนีกลุ่มคงยังไม่ถึง 280 จุด อย่างไรก็ตามในช่วงที่ราคาน้ำมันจะอ่อนตัวลงรอบใหม่ การท่องเที่ยวจะเข้าสู่ช่วงเทศกาลหยุดยาวและมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ ทำให้เรามองว่าดัชนีกลุ่มขนส่งน่าจะยังมีทิศทางที่ดีและขึ้นได้ต่อที่ระดับ 300 จุด แล้วหลังจากนั้นน่าจะมีแรงขายทำกำไร
สภาพตลาดโดยรวม หลังราคาน้ำมันผันผวน ผลการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์และการประมูลคลื่น 4 G ส่งผลให้เกิดแรงขายหุ้นพลังงาน ธนาคารพาณิชย์และสื่อสาร เรามองว่าความผันผวนจะยังมีอยู่ แม้ราคาน้ำมันจะดีดตัวกลับช่วงสั้นๆ อย่างไรก็ตามหุ้นที่ยังพอต้านกระแสได้ ยังคงเป็น โรงพยาบาล นาโนไฟแนนซ์ โยงท่องเที่ยวและหุ้นปันผล โดยการเข้าลงทุนในกลุ่มเหล่านี้ น่าจะต้องรอให้ดัชนีลงไประดับหนึ่งก่อน แล้วค่อยเลือกหุ้น เพราะโดยปกติช่วงดัชนีลงแรงๆ มักจะพาหุ้นทุกกลุ่มลงหมด จนกว่าการลงของดัชนีค่อยบรรเทาลง ซึ่งรอบนี้รามองดัชนีจะหลุด 1350 จุด
วันนี้มองดัชนี SET จะรีบาวน์ได้ในช่วงเปิดตลาด จากแรงหนุนหุ้นกลุ่มพล้งงาน แต่ตลาดยังต้องเผชิญกับแรงขายหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์และสื่อสาร ซึ่งส่งผลให้ดัชนี SET อ่อนตัวลงมา โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1380-1385 จุด ส่วนแนวรับที่ 1365-1360 จุด
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,376.73 จุด เพิ่มขึ้น 3.14 จุด (+0.23%) มูลค่าการซื้อขาย 22,726.68 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้รีบาวด์ ตามทิศทางของตลาดต่างประเทศ หลังเฟดส่งสัญญาณยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ บ้านเรามีแรงซื้อเก็งกำไรในกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ขณะที่ยังถูกกดดันจากกลุ่มธนาคาร และสื่อสาร ติดตามการประชุมกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC (17 เม.ย.)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย ต้องระวังแรงขายทำกำไรท้ายตลาด ภาพรวมยังมีแรงขายกดออกมาต่อเนื่องในจังหวะที่ SET พยายามดีดตัวขึ้น เพื่อกลับไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ที่บริเวณ 1378 จุด ทำให้มองว่าอาจจะต้องระวังแรงขายในช่วงท้ายอีกรอบ โดยปัจจัยเรื่องการลดดอกเบี้ยเงินกู้จะยังกดดันหุ้นกลุ่มธนาคารต่อไปและถือว่ายังไม่ใช่จังหวะซื้อ ในขณะที่กลุ่มสื่อสาร น่าจะเริ่มยืนได้แต่ก็จะแกว่งตัวออกข้างมากกว่าดีดตัวกลับแต่ถือเป็นจังหวะในการสะสมเล่นยาว ในขณะที่กลุ่มพลังงานยังเน้น Trading เล่นรอบ โดยให้ดูค่าเงินดอลลาร์เป็นตัวชี้ หากเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นจะต้องขายทำกำไรกลุ่มพลังงาน และสินค้าโภคภัณฑ์ออก สำหรับระยะสั้น หาก SET กลับไปยืนเหนือแนวรับ 1378 จุด ไม่ได้ มีโอกาสลงต่อไปที่แนวรับด้านล่างที่ 1350 จุด เน้นเก็งกำไรรายตัวที่งบQ1/16 จะออกมาดี เราแนะนำ JMART(รับ 9.00 ต้าน 9.60 บาท), TWPC(รับ 7.6 ต้าน 8.30)
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
Krungthai Card (KTC TB; THB 88.50) - ซื้อ
Total Access Communication (DTAC TB; THB 33.75) - ซื้อ
Turnover List Preview (Cash Balance) : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : INET*, SCI*, SCN* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]