- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 07 April 2016 16:35
- Hits: 805
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET ลงแรงทำให้มีลุ้นรีบาวด์สลับ แต่คาดกรอบบวกยังจำกัดก่อนลงต่อ
กลยุทธ์ : ก่อนวันหยุดวานนี้ SET ปรับตัวลงแรงพอควร ทำให้คาดว่าอาจมีจังหวะดีดกลับไปเคลื่อนไหวด้านบวกได้บ้าง ตามภาวะตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเช้านี้ แต่ FSS ยังคาดว่ากรอบบวกจะยังค่อนข้างจำกัด และมีสิทธิปรับตัวลงต่อได้อีก โดยเฉพาะสัปดาห์หน้า SET จะติดช่วงหยุดยาวด้วย ดังนั้นยังแนะนำให้ระวังแรงขายช่วงบวก และน่ารอเลือกหุ้นเพื่อทยอยเข้าซื้อในช่วง SET กลับไปปรับตัวลงต่ออีกครั้งมากกว่าเช่นเดิม
หุ้นเด่นทางเทคนิค : EPG, JSP, SAMART(buy back)
แนวโน้ม : เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา(5 เม.ย.) SET ปรับตัวลงแรงพอควร จากแรงขายในหุ้นกลุ่มแบงก์ หลังธนาคารพาณิชย์ต่างๆ มีการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงเพียงด้านเดียว ทำให้นักลงทุนวิตกว่าจะกระทบต่อผลประกอบการในช่วงถัดไป รวมทั้งยังมีแรงขายในหุ้นกลุ่ม ICT โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ในกลุ่ม และแรงกดดันกับหุ้นกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่อ่อนแอลงอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเช้านี้บรรยากาศการลงทุนน่าจะดูดีขึ้นบ้าง หลังตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ค่อนข้างสดใส โดยส่วนใหญ่เปิดบวกตามตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรป ที่เมื่อคืนนี้ขานรับรายงานการประชุมเฟดรอบที่ผ่านมาที่ระบุว่าเฟดยังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ และการรีบาวด์กลับขึ้นไปเคลื่อนไหวใกล้ 39 ดอลลาร์/บาร์เรลอีกครั้งของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม SET อาจจะบวกได้ไม่ดีเท่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้านนัก เนื่องจากในช่วงวันหยุดของบ้านเราวานนี้ (6 เม.ย.) ตลาดหุ้นเอเชียหลายแห่งปรับตัวลงพอควร จากความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังค่อนข้างไร้ทิศทาง ทำให้จังหวะรีบาวด์ขึ้นมาเช้านี้ยังไม่ได้แตกต่างจากระดับปิดก่อนวันหยุดของไทยเท่าใดนัก ทำให้ FSS คาดว่า SET จะยังมีกรอบบวกจำกัด และมีลุ้นแกว่งตัวลงต่อเนื่องได้อีก โดยเฉพาะในสัปดาห์หน้า SET จะติดช่วงวันหยุดยาวท้ายสัปดาห์ด้วย ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้รอเลือกหุ้นทยอยซื้อช่วง SET ลบดีกว่า
แนวรับ 1372-1366 , 1360-1357 จุด
แนวต้าน 1376-1380 , 1383-1385 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$157 ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$208 ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$81.6 ล้าน ส่วนตลาดหุ้นไทยก่อนปิดทำการเนื่องในวันจักรี มีเม็ดเงินไหลออก US$49 ล้านจากแรงขายในหุ้นกลุ่มสื่อสารและธนาคาร แนวโน้มกระแสเงินทุนในภูมิภาคมีทิศทางไหลเข้าตามสภาพคล่องในตลาดการเงินที่ยังอยู่ในระดับสูงและอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่อยู่ในระดับต่ำ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) ค่าเงินในเอเชียแข็ง Sentiment เป็นบวกกับหุ้นในระยะสั้น Fed Minutes ส่งสัญญาณว่า Fed ยังไม่รีบขึ้นดอกเบี้ยเพราะกังวลการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับตัวเลข Caixin PMI ของจีนเดือน มี.ค. ดีขึ้นตาม PMI ของทางการที่รายงานไปตั้งแต่ 1 เม.ย. (แต่ SET ไม่ตอบรับ) ขณะที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 5% หลังสต๊อคน้ำมันดิบสหรัฐฯลดมากกว่าตลาดคาด และกลุ่มโอเปกระบุว่าการประชุม 17 เม.ย. นี้จะตกลงได้แม้อิหร่านไม่เข้าร่วม เราคิดว่า Flow ของต่างชาติที่เริ่มขายทั้งหุ้น ฟิวเจอร์ส และพันธบัตร 2 วันที่ผ่านมาจะยังไม่รีบกลับมาไหลเข้า
(-) การลดดอกเบี้ย MLR กระทบ BBL และ TMB มากสุด ปัจจุบันมี SCB, KBANK, BBL, KTB ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ MLR โดย SCB ปรับลด 0.15% ส่วนแบงก์อื่นลด 0.25% การปรับลด MLR จะกระทบ TMB และ BBL มากสุดเพราะมีสัดส่วนสินเชื่อกลุ่มธุรกิจและ SME มากสุด 80% และ 70% ตามลำดับ เราพบว่าในกรณีปรับ MLR ลง 0.25% จะกระทบกำไรของ TMB 8% และ BBL 6% ส่วน SCB กระทบน้อยสุด เรายังคงแนะนำชะลอการซื้อแบงก์ใหญ่ไปก่อน เพราะมีแนวโน้มปรับกำไรของกลุ่มปีนี้ลง 5-10%
(-) BBL ลดดอกเบี้ย MLR 0.25% เหลือ 6.25% มีผล 6 เม.ย. เบื้องต้นเราคาดว่าจะปรับกำไรปีนี้ของ BBL ลง 5% กลายเป็นกำไร flat Y-Y จากเดิมคาด +5% Y-Y และน่าจะกระทบราคาพื้นฐานจากเดิม 195 บาทเหลือ 190 บาท ทำให้ราคาหุ้น BBL มี upside เหลือน้อยสุดในกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่ ลดคำแนะนำเป็นถือ จากซื้อ ส่วนกำไร 1Q16 จะมีค่าใช้จ่ายพิเศษซึ่งเราคาดว่าเป็นค่าใช้จ่ายค้ำประกันไทยทีวี ทำให้ -2.6% Y-Y แต่ +18.6% Q-Q เพราะตั้งสำรองลดลงจาก 4Q15
(-) กลุ่มสื่อสาร ราคาประมูลคลื่น 900MHz รอบใหม่ที่ตั้งต้นที่ 75,654 ล้านบาท ไม่ว่า ADVANC หรือ DTAC ได้ไป (บอร์ดกสทช.มีมติไม่ให้ TRUE ประมูล) จะกดดันกำไรใน 1-2 ปีนี้อย่างหนักเพราะค่าเสื่อมของใบอนุญาตที่เพิ่มขึ้นปีละ 5 พันล้านบาท คิดเป็นประมาณ 10% ของกำไรในปีนี้ของ ADVANC และ 50-60% ของกำไร DTAC เราอาจได้เห็นกำไรของทั้งกลุ่มมือถือในปีนี้หดตัวกว่า 50% Y-Y จากปัจจุบันที่เราคาด -42% Y-Y ทั้งนี้ กสทช.คาดได้ข้อสรุปก่อน 14 เม.ย. กรณี ADVANC ขอซื้อคลื่นต่อจาก JAS เรายังแนะนำเลี่ยงหุ้นมือถือเพราะ downside risk ที่เปิดกว้างมากไป และราคาหุ้นเพิ่งปรับลงเฉลี่ย 19% จากจุดไฮที่ผ่านมา ขณะที่ก่อนหน้านั้นราคาปรับขึ้นมาถึง 45-54%
(0) BM เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กต่างๆอย่างหลากหลาย เช่นรางเดินสายไฟฟ้า ตู้สื่อสาร ตู้ไฟฟ้า ตู้โลหะ และแผงควบคุมไฟฟ้า และเป็นผู้จำหน่ายท่อร้อยสายไฟฟ้า กำไรปี 2015 ฟื้นตัวสูง +49% จากปีก่อนหน้าที่ถูกกระทบจากการเมือง และได้ประโยชน์จากราคาวัตถุดิบเหล็กที่ลดลงเร็ว เราคาดกำไรปีนี้ +26% ปีหน้า +17% ตามการเร่งตัวของโครงการภาครัฐ การลงทุนขยายโครงข่าย 4G และการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร (ใช้เครื่องจักรแทนแรงงานมากขึ้น) เราประเมินมูลค่าหุ้นตามปัจจัยพื้นฐานปีนี้ 3.42 บาท (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ BM)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกได้นำโดยหุ้นในกลุ่มการแพทย์และพลังงาน หลังมีการเปิดเผยรายงานการประชุม FED ซึ่งระบุว่าจะยังไม่เร่งรีบขึ้นดอกเบี้ย
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกได้เช่นกันจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น รวมถึงตัวเลข PMI ภาคบริการของจีนในเดือนมี.ค.ที่ออกมาดีกว่าตลาดคาด
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้โดยนักลงทุนตอบรับเชิงบวกต่อรายงานการประชุม FED ที่ระบุว่าจะไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย
(0) ค่าเงินบาทแกว่งตัวค่อนมาทางแข็งค่าได้เล็กน้อย ล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 35.15-35.25 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. พุ่งขึ้น 1.86 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 37.75 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ปรับตัวลดลงมากกว่าที่ตลาดคาด
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 5.80 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,223.80 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมีแรงขายทำกำไรออกมาหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นในวันก่อนหน้า รวมถึงตลาดหุ้นทั่วโลกที่กลับมาปรับตัวบวกได้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
5-28 เม.ย. - ไทย: กสทช.เปิด Public hearing การประมูลคลื่น 900MHz รอบใหม่
7 เม.ย. - สิงคโปร์: 1Q16 GDP (ตลาดคาด +1.6% Y-Y เทียบ 4Q15 ที่ +1.8% Y-Y)
8 เม.ย. - ตลาดหุ้นอินเดียปิดทำการ
10-เม.ย. - จีน: ยอดสินเชื่อรายเดือน (มี.ค.)
13-15 เม.ย. - ตลาดหุ้นไทยปิดทำการวันสงกรานต์
13-เม.ย. - ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการ เนื่องในวันเลือกตั้งทั่วไป
- จีน: ดุลการค้า (มี.ค.) (ตลาดคาดส่งออก +8.5% Y-Y บวกครั้งแรกในรอบ 9 เดือน)
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (มี.ค.), Fed Beige Book
- ยูโรโซน: Industrial Production (ก.พ.)
14-เม.ย. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
- IMF: ทบทวนประมาณการ GDP โลก
15-เม.ย. - จีน: 1Q16 GDP (ตลาดคาด +6.7% Y-Y เทียบ 4Q15 ที่ +6.9% Y-Y)
18 เม.ย. - ไทย: กกต.ประชุมเพื่อกำหนดวันประชามติ, กกพ.ประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติโซลาร์ฟาร์มราชการและสหกรณ์
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch