- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 04 April 2016 17:29
- Hits: 1380
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ไซด์เวย์ การขึ้น XD และหุ้นน้ำมันถ่วงดัชนีฯ
KGI คาด SET วันจันทร์แกว่ง/ลบกรอบแคบ (ศุกร์ที่แล้วปรับฐาน ตามคาด) หุ้นใหญ่อย่าง INTUCH* และ SCC* ขึ้น XD วันนี้ ผนวกหุ้นน้ำมันอาจถ่วงดัชนีฯ หลังราคาน้ำมันลง 3.7% เมื่อวันศุกร์ (และเช้านี้ลง 1.0%) หลังซาอุฯ แถลงจะไม่ตรึงปริมาณผลิตน้ำมันหากอิหร่านไม่ร่วมโครงการนี้ด้วย นอกจากนี้จิตวิทยาระยะสั้นของหุ้นธนาคารอาจอ่อนลง ตามแนวโน้มกำไรไตรมาสแรกที่ยังไม่โดดเด่น อย่างไรก็ดีคาด SET ไม่ลงแรงหลังทุนต่างชาติยังซัพพอร์ทตลาด หลังตัวเลขจ้างงาน มี.ค. สูงกว่าคาด (+2.15 แสนคน VS ตลาดคาด 2.0 แสน) แต่อัตราว่างงานที่ 5.0% สูงกว่าที่คาดที่ 4.9% ส่งผลให้ดัชนีฯ ค่าเงินดอลลาร์ฯ น่าอยู่ในฝั่งอ่อนค่าต่อในช่วงสั้นๆ ภาพรวมหุ้นใหญ่น่าจะแกว่งตัว คงแนะนำเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางเป็นสำคัญ ส่วนปัจจัยสัปดาห์นี้รอประชุม ครม. วันพรุ่งนี้ (คาดมีการพิจารณารถไฟฟ้าสายสีส้ม)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร KTC*, ASEFA / สะสม IFEC
KTC* (เป้าพื้นฐาน 125 บาท) 1) รูปแบบราคาแกว่งขึ้นทดสอบแนวต้าน 88 บาท (แนวต้าน Uptrend line channel + SMA200 วัน) หาก Breakout ผ่านได้ ประเมินกรอบแนวต้านถัดไปที่ ?95 บาท และถัดไปที่ ?100 บาท 2) ประเมินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (กินอาหาร ท่องเที่ยว ช่วงสงกรานต์ ลดหย่อนภาษี) จะเป็น Sentiment บวกต่อยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต และพรุ่งนี้ คาด ครม พิจารณามาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศเพิ่มเติม 3) จากประมาณการฯของฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน PE ปี 2559 ต่ำเพียง 9.2 เท่า และ Dividend yield 4.9%
ASEFA (เป้าพื้นฐาน 7 บาท) 1) วันศุกร์รูปแบบราคาเริ่มฟื้นตัว ดีดพ้นแนวต้านสั้นที่เราประเมินไว้ที่ 5.85 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ?6.2 บาท และถัดไปที่ ?6.7 บาท 2) ในเชิงพื้นฐานยังคงประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 โตเด่น (ไตรมาส 4/58 เป็น Low season + ราคาเหล็กปรับขึ้นแรงตั้งแต่ต้นปี เป็นบวกต่อธุรกิจรื้อถอนโรงไฟฟ้า) และขยายกำลังการผลิต +50% เสร็จในไตรมาส 1/59 รองรับ Mega trend ของอุตสาหกรรมฯระบบไฟฟ้า (รถไฟฟ้า, พลังงานทดแทน, 4G + Data Center เป็นต้น)
IFEC (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) 1) รูปแบบราคาระยะสั้น แกว่งตัว Sideway บีบในกรอบ 3 เหลี่ยม 7.0 - 7.15 บาท (สำหรับกราฟรายสัปดาห์ Break ผ่านเทรนไลน์ขาลงขึ้นมาได้แล้ว) แนะนำ "สะสม" ในกรอบแนวรับ - แนวต้านดังกล่าว กรณีที่ดีดพ้นแนวต้านสั้น 7.15 บาทได้ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน ?7.9 บาท และแนวต้านถัดไปที่ ?9 บาท 2) ในเชิงพื้นฐาน i) ล่าสุดเซ็นสัญญา LOI (คือ หนังสือตอบรับที่จะซื้อ PPA โซลาร์ฟาร์ม 69MW จากบริษัทญี่ปุ่น) เรายังไม่รวมในประมาณการฯ ii) ธุรกิจ รร ดาราเทวี คาด Hair cut หนี้จบในเดือน เม.ย. (ศาลฯนัดฟังคำตัดสิน 5 เม.ย.)
หุ้นในกระแส
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากน้ำมัน "ลง" (สายการบิน, พลาสติก) ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้ว เริ่มพักฐานตามคาด (-6.7% WoW) คาดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มสายการบิน อาทิ AAV*, THAI* และหุ้นกลุ่มที่มีเม็ดพลาสติกเป็นต้นทุน อาทิ EPG, TPBI เป็นต้น
หุ้นกลุ่มสินค้าเกษตร (CPF, TFG, GFPT) ราคาหมูหน้าฟาร์มสัปดาห์ที่ผ่านมาเฉลี่ยที่ 67 - 72 บาท/กก (ปรับขึ้นเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 65 - 69 บท/กก) และราคาไก่เนื้อหน้าฟาร์มแม้จะยังทรงตัวที่ 37 บาท/กก แต่ราคาลูกไก่เนื้อ (ซีพี) ในเดือน มี.ค.ที่ปรับขึ้นเฉลี่ยตัวละ 1 บาท (จาก 10.25 บาท/ตัว เป็น 11.25 บาท/ตัว) เป็นการส่งสัญญาณแนวโน้มราคาไก่เนื้อที่มีโอกาสปรับขึ้นได้ แนะนำ "เก็งกำไร" หุ้นในกลุ่มฯ อาทิ CPF*, TFG, GFPT
Theme สุวรรณภูมิ เฟส 2 + โครงการรถไฟฟ้า&รางคู่: เราประเมินการเปิดขายซองประมูลโครงการสุวรรณภูมิเฟส 2 จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อหุ้นในกลุ่มรับเหมาฯ และวัสดุฯ โดยจะเป็นการปลดล๊อกให้มีการประมูลโครงการรถไฟฟ้า และรถไฟรางคู่เส้นต่างๆตามมา แนะนำเก็งกำไร 1) หุ้นกลุ่มรับเหมาฯตัวหลัก (CK*, STEC*, ITD*) 2) งานเสาเข็ม (SEAFCO, PYLON, TMC) 3) วัสดุฯ + เหล็ก + ระบบไฟฟ้า (SCC*, TMT, ASEFA, EPG*)
กลุ่มพลังงานทดแทน (IFEC, SUPER, PSTC, UWC, ASEFA, QTC) แนะนำ "สะสม" หุ้นในกลุ่มฯ กกพ. เผยเตรียมเปิดรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติจับสลากโครงการโซลาร์ส่วนราชการวันที่ 18 เม.ย. และจับสลากวันที่ 21 เม.ย. นี้ อย่างไรก็ดีในกรณีเลวร้ายการจับสลากล่าช้า หุ้นที่วางแผนลงทุนพลังงานทดแทนในต่างประเทศไว้ล่วงหน้าแล้วอย่าง IFEC, GUNKUL*, TSE จะเด่นกว่าหุ้นที่รอการปลดล๊อกในไทยเพียงอย่างเดียว ขณะเดียวกันการให้ปรับสัญญาซื้อขายไฟของโรงไฟฟ้าชีวมวลจาก Adder เป็น FiT จะเป็นบวกต่อ UWC, IFEC (สัญญา FiT สำหรับโรงไฟฟ้าชีวมวล กำไรดีกว่า)
หุ้นมีข่าว
(+) TRUE* - เพิ่มทุน 7.15 บาท (โพสต์ทูเดย์) TRUE ประกาศออกใบแสดงสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนโอนสิทธิ์ได้ หรือ TSR จำนวน 8.39 พันล้านหน่วย โดยจะจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราส่วน 2.93: 1 และกำหนดราคาใช้สิทธิที่ 7.15 บาท 1 TSR ได้ 1 หุ้นใหม่ ขณะที่ นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และซีอีโอของ TRUE กล่าวว่าเครือเจริญโภคภัณฑ์พร้อมจะใช้สิทธิในกรณีที่มีหน่วยเหลือ ข่าวนี้สอดคล้องกับสมมติฐานของเรา ยังคงแนะนำ "ถือ" ราคาเป้าหมาย 6.90 บาท (fully-diluted หลัง TSR ใช้สิทธิ์หมด จะอยู่ที่ 6.95 บาท)
(0) RATCH* ขาย 2 โรงไฟฟ้า ฟันกำไร 126 ล้าน (โพสทูเดย์) RATCH ขายโรงไฟฟ้าประดู่เฒ่าและโรงไฟฟ้าเสาเถียร-เอ ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 2.65MW และ 3.60MW เรามองว่ารายการดังกล่าวไม่ได้สร้างให้เกิดผลกระทบที่มีนัยสำคัญแก่บริษัท เนื่องจากกำลังการผลิตรวมของ 2 โครงการ (6.25MW)คิดเป็นเพียง 0.001% ของกำลังการผลิตรวมในปัจจุบันของบริษัทที่ 6,117MW นอกจากนี้มูคค่าที่เราประมฺนใน 2 โครงการนี้เพียง 0.07 บาท ซึ่งไม่มีผลต่อราคาพื้นฐานปัจจุบันของเราที่ 59.0บาท อย่างไรก็ตามบริษัทจะมีกำไรจากการขายสินทรัพย์ในครั้งนี้ที่ 126ล้านบาท และบันทึกในปี 2559 นี้ โดยเข้ามาช่วยเสริมฐานกำไรเดิมเพียงเล็กน่อย (เราคาดว่ากำไรปกติจากการดำเนินงานของ RATCH ในปี 2559 จะออกมาที่ 6,856ล้านบาท) คงคำแนะนำ ซื้อ ที่มูลค่าพื้นฐาน 59.0 บาท
(+KTC*) สงกรานต์ดันยอดรูดปรื้ด Q2 เด้งขึ้น 10-20% (ฐานเศรษฐกิจ) ธุรกิจบัตรเครดิต-สินเชื่อส่วนบุคคล เฮรับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นภาคท่องเที่ยว/สงกรานต์ ดันยอดรูดปรื้ด-กดเงินสด Q2 เด้งขึ้น 10-20% ค่าย "เคทีซี" จัดแคมเปญลดดอกเบี้ยสูง 70% ดูดลูกค้าใหม่ ส่วน "ไทยพาณิชย์" คาดช่วงมาตร การ 9 วัน ยอดใช้จ่ายหมวดร้านอาหารพุ่ง 20% จากยอดปกติไตรมาสละ 600-700 ล้านบาท ฟาก "กสิกรไทย-ซีไอเอ็มบีไทย" ชี้ความต้องการสินเชื่อดีดขึ้นกว่าไตรมาสแรก 10-20% เหตุวันหยุดเยอะ-ใกล้เปิดเทอม
(+) BANPU* ดันลูกเข้าตลาด เปิดฉากพลังงานตปท. มุ่งเป้า4300เมกะวัตต์ (ทันหุ้น) BANPU เร่งเครื่องระดมทุนเตรียมส่ง BPP ขาย IPO ตุนเม็ดเงินรองรับแผนขยายโรงไฟฟ้าระยะยาว 10 ปี อัพกำลังผลิตถึง 4300 เมกะวัตต์ พร้อมเดินหน้าลงทุนโรงไฟฟ้าเพิ่มทั้งในและต่างประเทศเน้นพลังงานทดแทนเป็นหลัก แย้มปีนี้พร้อมรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าหงสา ตามสัดส่วนถือหุ้น
(+) EAยิ้มโซลาร์ฯพิษณุโลก ขายไฟแล้วหนุนQ2สวย (ข่าวหุ้น) "EA" สิ้นสุดภารกิจโซลาร์ฟาร์ม ลั่นโครงการที่พิษณุโลก 90 MW เริ่ม COD เป็นทางการแล้ว 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ดันกำลังผลิตไฟฟ้ารวมในมือพุ่ง 278 MW ทันที บันทึกรายได้ตั้งแต่ Q2 เป็นต้นไป เดินหน้าลงทุนพลังงานลมต่ออีก 126 MW
(+) 'LIT'ผนึกกำลัง5บมจ. ลุยปล่อยสินเชื่อSME (ทันหุ้น) "ลีซ อิท" ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ 5 บมจ. ทั้งใน SET และ mai ประกอบด้วย "SOLAR-K-ATP30-NCL-BSM" ร่วมเซ็น MOU โครงการเติมทุนหมุนเวียนคู่ค้า ในงาน "SET100 ผนึกกำลังประชารัฐ" ลุยปล่อยสินเชื่อเพิ่มสภาพคล่องให้เอสเอ็มอีที่เป็นคู่ค้าของ 5 บมจ. ให้เข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายและรวดเร็ว โดยไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
CPALL* (เป้าพื้นฐาน 56 บาท) พิจารณาที่แนวต้านสั้น 46 บาท ผ่านได้จะเป็นการยืนยันสัญญาณซื้อรอบใหม่ โดยประเมินแนวต้าน 49 บาท แนวรับ 44.5 บาท ... พรุ่งนี้ คาด ครม พิจารณามาตรการกระตุ้นการบริโภคเพิ่มเติม
BH* (เป้าพื้นฐาน 252 บาท) 1) ประเมินรูปแบบราคามีโอกาสฟื้นตัวหลัง Sideway บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (?206 บาท) ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา (Stop loss ถ้าหลุด 205 บาท) 2) ยังแนะนำคงสถานะกลยุทธ์ Pair trading โดย Long BH* + Short BDMS*
CPN* (เป้าพื้นฐาน 65 บาท) 1) สำหรับนักลงทุนที่ซื้อตามที่เราแนะนำก่อนหน้า แนะนำ "Let profit run" ขยับจุด Trialing stop ขึ้นเป็น 51 บาท 2) ยังแนะนำคงสถานะกลยุทธ์ Pair trading โดย Long CPN* + Short ROBINS*
TMC (เป้าพื้นฐาน 3.0 บาท) รูปแบบราคาฟื้นตัว ประเมินทดสอบแนวต้านหลัก ?2.30 บาท (หากผ่านได้ ประเมินแนวต้านถัดไป ?2.5 บาท) แนวรับ 2.26 บาท (EMA 200 วัน) และ 2.20 บาท
BTS* (เป้า Consensus 10 บาท) ประเมินราคามีโอกาส Sideway พักฐานในกรอบ 8.85 - 9.0 บาท แนะนำ "สะสม" หากผ่านแนวต้าน 9.0 บาทได้ประเมินมีกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 9.3 บาท (Stop loss 8.7 บาท)
EPG* (เป้า Consensus 16 บาท) หากวันนี้ดีดพ้นแนวต้าน 13.4 บาท มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 14.5 บาท ประเมินแนวรับ 13.0 บาท ... แนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q58/59 (ปิดงบ มี.ค.) จะกลับมาโตเด่น +30% QoQ และ +150% YoY
MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 33.5 บาท) สำหรับนักลงทุนที่ซื้อตามที่เราแนะนำก่อนหน้า (28 มี.ค.) รอขายทำกำไรที่แนวต้าน 31.5 บาท และ 33.5 บาท
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
กลุ่มค้าปลีกฯ น้ำหนักการลงทุน "มากกว่าตลาดฯ" ประเมินแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่จะออกมาอย่างต่อเนื่องนับแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป จะทำให้ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกกลับมาสดใสและทำให้กำลังซื้อกลับเข้ามาในระบบอีกครั้ง ในเชิงพื้นฐานเลือก ROBINS* เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มฯราคาเป้าหมาย 60 บาท.
KBANK* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 187 บาท คาดกำไรไตรมาส 1/59 = 9.2 พันล้านบาท +67% QoQ, -26% YoY (มีรายการพิเศษบันทึกผลขาดทุนพิเศษจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ด้าน IT 2.4 พันล้านบาทในไตรมาสนี้)
นักวิเคราะห์: อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]