- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 01 April 2016 17:36
- Hits: 10392
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ตั้งรับ
คาดหุ้นไทยปรับตัวลงถึงทรงตัว เหมือนกับตลาดหุ้นโลกและภูมิภาคส่วนใหญ่ ก่อนการประกาศตัวเลขการว่าจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ และตัวเลขสำรวจ PMI ภาคอุตสาหกรรม และบริการของหลายประเทศรวมทั้ง จีนและสหรัฐในวันนี้ ตัวเลขเหล่านี้จะให้ภาพเศรษฐกิจโลกที่ชัดเจนขึ้น ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ส่วนใหญ่เป็นบวกไม่ว่าจะเป็นแผนของรัฐบาลที่จะเพิ่มการลงทุนพื้นฐานในอีก 5 ปี ข้างหน้าเป็น 3.6 ล้านล้านบาทจากเดิม 1.8 ล้านล้านบาท รายงานเศรษฐกิจจาก ธปท. ระบุเศรษฐกิจไทยดีขึ้นในเดือน ก.พ. และ กทท เตรียมแผนหนุนท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นสู่ภัยแล้ง อย่างไรก็ตามคาดว่าปัจจัยต่างประเทศจะมีน้ำหนักมากกว่าปัจจัยในประเทศวันนี้
หุ้นเด่นวันนี้ : EPG (ราคาปิด 13.40 บาท; NR; ราคาเป้าหมาย Bloomberg 16.00 บาท)
เราเชื่อว่า บมจ. อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป ซึ่งประกอบธุรกิจแปรรูปพลาสติกและโพลีเมอร์เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงรายใหญ่ในระดับโลก ยังคงมีความน่าสนใจในแง่ของการเติบโตทางธุรกิจ เช่นเดียวกับราคาหุ้นที่มีความน่าสนใจเช่นกันหลังจากผ่านการปรับฐานมาแล้วระยะหนึ่ง ผลบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ตกต่ำประกอบกับนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นโดยตัวบริษัทเองที่สามารถตอบสนองความต้องการใช้ที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้า ได้สะท้อนออกมาอย่างเห็นได้ชัดในผลประกอบการงวด 9M59 (มี.ค. 58 – ธ.ค. 58) ที่สามารถฝ่าภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมาได้ โดยรายงานกำไรสุทธิเติบโตถึง 137% YoY ซึ่งมาจากทั้งยอดขายที่เติบโตสูงขึ้นและอัตราการทำกำไรที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ทิศทางผลการดำเนินงานนับจากนี้ไปยังคงสดใสจากแผนการขยายตลาดในเชิงรุกและการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งนับว่ามีความพร้อมอย่างมากหลังจากได้ระดมทุนจากการทำ IPO เมื่อปลายปี 57 จากประมาณการของ Bloomberg consensus คาดว่าจะเห็นการปรับตัวสูงขึ้นของกำไรสุทธิต่อหุ้นปี 59 (สิ้นสุด มี.ค. 59) ถึง 97% YoY มาอยู่ที่ 0.53 บาท ก่อนที่จะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในปี 60 อีก 25% YoY มาอยู่ที่ 0.61 บาท และในปี 61 อีก 20% YoY มาอยู่ที่ 0.80 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PEG ปี 60 ที่ 0.88 เท่า แสดงถึงโอกาสที่หุ้นจะปรับตัวสูงขึ้นได้อีก ในส่วนของ Price Pattern ของ EPG มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal โดยเมื่อพิจารณา Price Pattern ของ EPG ที่ได้สามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือเป้าหมายเบื้องต้นที่ 13.10 บาทไปแล้ว คาดว่า Price Pattern ของ EPG น่าจะได้เห็นการปรับตัวขึ้นต่อไปเพื่ดทดสอบเป้าหมายถัดไปที่ 13.60 บาท และเป้าหมายสำคัญที่ 14 บาท ตามลำดับ โดย EPG มีจุด Stop Loss ในรอบนี้อยู่ที่ 12.80 บาท (แนวต้าน: 13.50, 13.60, 13.70; แนวรับ: 13.30, 13.20, 13.10)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
งบใช้จ่ายในโครงสร้างพื้นฐานอาจเพิ่มขึ้นเท่าตัว จากแหล่งข่าวของรัฐบาลกล่าวว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอีกเท่าตัวจากงบบัจจุบันที่ 1.8 ล้านล้านบาทเป็น 3.6 ล้านล้านบาท เพื่อเป็นการชดเชยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นมาตลาดสองทศวรรษและเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แหล่งข่าวยังแจ้งว่าสภาพัฒน์ยังในระหว่างพิจารณาทบทวนแผนการลงทุนทั้งในระบบรางและถนนซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในสองสามเดือนข้างหน้า (The Nation)
เศรษฐกิจไทยมีเสถียรภาพมากขึ้นในเดือน ก.พ. ตามรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย เศรษฐกิจในเดือน ก.พ.มีเสถียรภาพมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบเดือนต่อเดือน โดยเฉพาะโมเมนตัมของเศรษฐกิจที่ถูกกระตุ้นโดยภาคการท่องเที่ยวและการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ แม้ว่าการซื้อสินค้าคงทนจะลดลงหลังมีการเพิ่มภาษีรถยนต์แต่การใช้จ่ายในสินค้าและบริการอื่นเพิ่มสูงงขึ้น เช่นเดียวกับการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยของรายได้ที่ไม่ใช้ภาคเกษตร (The Nation)
ททท.จะกระตุ้นการท่องเที่ยวในฤดูนอกการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะอัดเคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวอีก 5 เดือนข้างหน้าระหว่าง พ.ค.-ก.ย. ทั้งนี้ ททท. ยังกังวลต่อภาวะภัยแล้ง ณ ปัจจุบันอาจส่งผลลบต่อเศรษฐกิจในประเทศ (The Nation)
ประมูล 4จีรอบใหม่ 24 มิ.ย. กสทช.ได้มีมติวานนี้ว่าการประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ์รอบใหม่จะจัดในวันที่ 24 มิ.ย. โดยมีมติให้ราคาตั้งต้นเท่ากับราคาที่ JAS ชนะประมูลที่ 7.57 หมื่น ลบ. และจะเคาะเพิ่มได้ทีละ 152 ลบ. ราคาตั้งต้นและการวางเงินประกันก่อนประมูลสุดท้ายจะขึ้นอยู่กับการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะในช่วง 5-28 เม.ย. โดยจะมีตัวเลือก 3 ระดับคือ 7.018, 7.372 และ 7.59 หมื่น ลบ. ผู้ประมูลจะต้องวางค้ำประกัน 3.78 พัน ลบ.ก่อนประมูลและหากผิดนัดชำระจะต้องถูกริบเงินค้ำประกันและจ่ายชดเชย 1.135 หมื่น ลบ. (Bangkok Post) ความเห็น: ทุกอย่างขณะนี้ขึ้นกับการรับฟังความคิดเห็น ถ้าราคาตั้งต้นออกมาเท่ากับ 7.018 หมื่น ลบ. ก็มีสิทธิที่ค่ายมือถือจะเข้าร่วมประมูล
ADVANC (182 บาท, ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 213 บาท) ยื่นหนังสือด่วนร้องขอให้ กสทช. ยืดกำหนดระยะเวลาย้ายลูกค้า 2จี 900 เมกะเฮิร์ตซ์ออกไปอีกจาก 14 เม.ย. เป็น 30 มิ.ย. โดยระบุว่าต้องใช้เวลามากกว่านี้ในการย้ายลูกค้าที่มีไปอีกเครือข่ายหนึ่ง (Bangkok Post) ความเห็น: ถ้าสุดท้ายแล้วสามารถยืดเวลาได้ ก็จะใช้ต้นทุนในการย้ายน้อยลง
TU (20.90 บ., ซื้อ, AWS 59 TP 22.00 บ.) ได้ตั้งงบสำหรับวิจัยและพัฒนาสินค้าเพิ่มเติมจำนวน 600 ลบ. ในระหว่างสามปีข้างหน้าตามแผนงานปี 58 โดยงบประเมาณครึ่งหนึ่งจะใช้ในปีนี้และครึ่งปีหน้าเพื่อคิดค้นพัฒนาสินค้าใหม่ภายใต้ศูนย์นวัตกรรม Global Innovation Incubator (GII) TU ได้ตั้งเป้ารายได้จากศูนย์ดังกล่าวที่ 10 ลบ. ในปีนี้ขณะที่ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีจะเติบโตได้ 15% (Bangkok Post)
TRUE (7.60 บาท) จะออก TSR 8.39 พันล้านหน่วย โดยมีราคาใช้สิทธิที่ 7.15 บาท อัตราการจัดสรรที่ 2.932445 หุ้นเดิมต่อ 1 TSR โดย TSR 1 หน่วยแปลงเป็นหุ้นได้ 1 หุ้น วัน XT (ไม่ได้รับสิทธิ) คือ 19 เม.ย. วันที่ใช้สิทธิยังไม่ได้กำหนด (SET)
ต่างประเทศ
ประเด็นที่จับตามองวันนี้คือรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐประจำเดือนมี.ค. ซึ่งสะท้อนถึงเศรษฐกิจสหรัฐอย่างชัดเจน จากผลการสำรวจของรอยเตอร์ส ตัวเลขการจ้างงานฯ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 205,000 ตำแหน่งในเดือนนี้หลังจากเพิ่มขึ้น 242,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปี (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 เดือนเทียบกับเงินสกุลอื่นเมื่อวันพฤหัส และขาดทุนในอัตราร้อยละรายไตรมาสมากที่สุดในรอบกว่า 5 ปีหลังจากความเห็นเชิงผ่อนคลายเศรษฐกิจจากนางเจเน็ท เยลเลน เงินยูโรแข็งค่าขึ้นติดต่อกัน4 วันเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและแตะที่ระดับ 1.1411 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นครั้งแรกที่ก้าวกระโดดเหนือ 1.1400 ดอลลาร์สหรัฐในช่วง 5 เดือนครึ่ง ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปิดที่ 94.319 จุด ต่ำสุดนับแต่กลางเดือนต.ค. ปีก่อน (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบในไตรมาสแรกเมื่อวันพฤหัส หลังจากที่ทะยานขึ้นในช่วง 7 สัปดาห์โดยเนื่องจากถ้อยแถลงเชิงผ่อนคลายเศรษฐกิจจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดในสัปดาห์ซึ่งทำให้ลดความคาดหวังว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและนักลงทุนบางรายได้ทำกำไรจากการที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา (Reuters)
ดัชนี PMI ภาคการผลิตในชิคาโกเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่คาดในเดือนมี.ค. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในชิคาโกประจำเดือนมี.ค. อยู่ที่ 53.6 จุด ดีกว่าประมาณการเฉลี่ยของตลาดมากซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 50.0 จุด และสูงกว่าตัวเลขในเดือนก.พ. ซึ่งอยู่ที่ 47.6จุด (Reuters)
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ยังคงต่ำกว่าเกณฑ์ซึ่งหมายถึงตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง จำนวนผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น 11,000 รายอยู่ที่ 276,000 ราย ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 มี.ค. นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการฯ จะทรงตัวอยู่ที่ 265,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่า 300,000 รายเป็นเวลา 55 สัปดาห์แล้ว ยาวนานที่สุดนับแต่ปี 1973 (Reuters)
การปรับลดอัตราการจ้างงานในสหรัฐลดลงในเดือนมี.ค. ติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง Challenger, Gray & Christmas ซึ่งให้บริการจัดหางานหลังถูกเลิกจ้างแจ้งว่าบริษัทซึ่งมีถิ่นฐานในสหรัฐประกาศลดการจ้างงาน 48,207 ตำแหน่งในเดือนนี้ ลดลง 21.7% จากเดือนก.พ. การปรับลดอัตราการจ้างงานได้ชะลอตัวนับแต่ที่เพิ่มขึ้นในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ตลอดช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทในสหรัฐประกาศลดตำแหน่งงานลง 184,920 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้น 31.8% จากไตรมาส 4/58 เนื่องจากมีการเลิกจ้างพนักงานของบริษัทในกลุ่มพลังงานเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีการลดตำแหน่งงานในกลุ่มค้าปลีกและคอมพิวเตอร์อีกด้วย (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดีปรับตัวลดลง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง การปรับตัวลงดังกล่าวนำโดยหุ้นสื่อสารสัญชาติฝรังเศสและหุ้นธ.พ. อิตาลี โดย Orange และ Bouygues ได้เลือกกำหนดการสรุปดีลการควบรวมกิจการออกไปจากเดิมที่มีกำหนดในวันพฤหัสบดี ขณะที่หุ้น ธ.พ. อิตาลีปรับตัวลดลงหลังจากที่ UniCredit ซึ่งเป็นผู้รับประกันการออกหุ้นกู้ 1.76 พันล้านยูโรให้กับ Banca Popolare di Vicenza อาจจะเลื่อนการจัดจำหน่ายออกไปก่อนจนกว่าภาวะตลาดจะฟื้นตัวดีขึ้น (Reuters)
เอเชีย :
จับตาจีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการวันนี้ โดยคาดการณ์กันว่าตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือน มี.ค. จะออกมาอยู่ที่ 49.3 เทียบกับ 49.0 ในเดือน ก.พ. ที่เป็นระดับตำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2554 อ้างอิงจากโพลสำรวจของ Reuters (Reuters)
S&P ปรับลดมุมมองความน่าเชื่อถือจีนเป็นลบ เนื่องจากคาดว่ากระบวนการปฏิรูปของรัฐบาลจีนจะใช้เวลานานกว่าคาด (Reuters)
ความเชื่อมั่นผู้ผลิตรายใหญ่ในญี่ปุ่นอ่อนแอในงวด 1Q59 Tankan survey ของ BOJ รายไตรมาสรายงานความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของผู้ผลิตรายใหญ่ในญี่ปุ่นสำหรับงวด 1Q59 ลดลงทำระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี และประเมินว่าจะลดลงต่อเนื่องในไตรมาสหน้า (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันเสถียรมากขึ้นวันพฤหัส ตามที่เป็นบวกมากสุดรายเดือนในรอบเกือบปีและยังบวกในรอบไตรมาสด้วย หนุนโดยดอลลาร์ที่อ่อนค่าและตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบพร่องลง ณ จุดส่งมอบสำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสหรัฐ Brent ส่งมอบ พ.ค.ปรับเพิ่ม 34 เซนต์ (+0.8%) ปิดที่ 39.60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ก่อนหมดอายุในฐานะสัญญาเดือนใกล้ Brent มิ.ย. ที่จะเป็นสัญญาเดือนใกล้อันใหม่ ปรับเพิ่มขึ้น 0.3% อยู่ที่ 40.33 ดอลลาร์ ราคาน้ำมันสหรัฐบวก 2 เซนต์สู่ 38.34 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
สต็อกน้ำมันที่ Cushing ถอยร่นมาจากจุดสูงสุดสองสัปดาห์ติดต่อกัน โดยตัวเลขทางการสหรัฐวันพุธชี้ให้เห็นว่ามีตัวเลขสต็อกน้ำมันพร่องลงไป 2.72 แสนบาร์เรลสำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 มี.ค. อย่างไรก็ดีสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐโดยรวมเพิ่ม 2.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้วสู่ 534.8 ล้านบาร์เรล จุดสูงสุด 7 สัปดาห์ติดต่อกัน (Reuters)
ราคาทองเพิ่มขึ้นในวันพฤหัส จากดอลลาร์และตลาดหุ้นล่าถอย ขณะที่ราคาในตลาดโลหะปรับเพิ่มขึ้นในรายไตรมาสครั้งใหญ่ที่สุดในรอบสามสิบปี จากการคาดการณ์ต่อการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐมีโอกาสน้อยลง ราคาทองคำในตลาดจรเพิ่มขึ้น 0.6% เป็น 1,232.06 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และราคาทองตลาดฟิวเจอร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 7 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์เป็น 1,235.60 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331