WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSS copyบล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน



คาด SET ยังผันผวนและย้อนลบได้อีก ดังนั้นน่ารอทยอยซื้อลบต่อไป...

      กลยุทธ์ : หลังจาก SET ยังมีแรงขายในช่วงบวกกดดันอยู่ โดยตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนเพิ่มด้วย ดังนั้น FSS จึงยังคาดว่า SET มีสิทธิที่จะแกว่งลบต่อเนื่องได้อีก ซึ่งเราแนะนำให้ทยอยขายทำกำไรลดพอร์ตในช่วงตลาดบวก โดยเฉพาะถ้าดัชนีเข้าใกล้ 1420 จุดหรือสูงกว่าขึ้นไป จากนั้นให้ถือเงินสดไว้ก่อน เพื่อรอเลือกหุ้นทยอยซื้ออีกครั้ง เมื่อ SET ปรับตัวลงต่ำในช่วงถัดไป

  หุ้นเด่นทางเทคนิค : BIG, PLAT, EARTH(short)
  แนวโน้ม : SET กลับมาแกว่งตัวด้านลบอีกครั้งวานนี้ แม้ว่าจะปรับตัวลงไม่มาก แต่ก็แสดงถึงแรงขายที่ยังมีออกมากดดันให้เห็นอยู่ ขณะที่เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงกันเป็นส่วนใหญ่จากแรงขายในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก หลังเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งยังได้รับแรงกดดันจากการที่ยูโรสแตท รายงานว่าดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(CPI) ของยูโรโซนร่วงลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ด้วย ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐก็ปิดเป็นลบ ซึ่งแม้ว่าจะไม่มากนัก แต่ดัชนีดาวโจนส์ก็แกว่งตัวผันผวนในด้านลบเกือบทั้งวัน จากรายงานที่ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด ทำให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังมากขึ้นในการซื้อขาย เพื่อรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในค่ำวันนี้อีกครั้ง นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เคลื่อนไหวทรงตัวอยู่ ก็ยังเป็นไปในทิศทางที่อ่อนแอ เนื่องจากนักลงทุนยังไม่มั่นใจว่าการประชุมร่วมของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 17 เม.ย.นี้จะสามารถหาข้อยุติในการแก้ปัญหา Oversupply ในตลาดน้ำมันได้หรือไม่ ส่งผลให้ยังมีแรงกดดันต่อตลาดหุ้นเอเชียในเช้าวันนี้ที่ส่วนใหญ่เปิดทำการในด้านลบ ซึ่ง FSS คาดว่าน่าจะกระทบกับบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยพอควร ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาช่วยหนุนตลาดเพิ่ม ทำให้เรายังคาดหมายว่า SET จะอยู่ในช่วงแกว่งพักตัวลงต่อได้อีกตามคาดเดิม จึงยังน่ารอซื้อช่วง SET ลบเช่นเดิม

  แนวรับ 1402-1398 , 1394-1390 จุด
  แนวต้าน 1410-1413 , 1418-1423 จุด

      Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคแต่เบาบางลงเหลือ US$63 ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$178.2 ล้าน และไทย US$50.8 ล้าน ขณะที่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$202 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนในภูมิภาคมีทิศทางไหลเข้าแต่อาจชะลอลงก่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐ

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (-) มุมมองตลาดหุ้นเดือน เม.ย. โมเมนตัมของเม็ดเงินที่ไหลเข้าตลาดหุ้นในเอเชียและไทยยังมีอยู่แต่เชื่อว่าจะแผ่วลงจากเดือนก่อน และไหลเข้าพักในดอลลาร์มากขึ้น ตลาดจะหันกลับมาสู่ปัจจัยพื้นฐานที่เศรษฐกิจชะลอและหนี้สูงในจีนยังคงเป็นความเสี่ยงของโลก รวมถึงเงินหยวนมีแนวโน้มอ่อนค่า การทบทวนประมาณการของ IMF ในเดือนนึ้คาดปรับ GDP โลกลงตาม OECD และ World Bank ขณะที่ผลประกอบการ 1Q16 ในบ้านเราที่ยังไม่ฟื้นชัดจะตอกย้ำตลาดหุ้นที่ขึ้นเร็วเกินไปในเดือน มี.ค. ราคาน้ำมันคาดถูก sell on fact หลังการประชุม 17 เม.ย. จึงแนะนำทยอยลดพอร์ต ระวังหุ้นขนาดใหญ่พักฐาน ด้านเทคนิค คาด SET มีสิทธิไหลลงหาแนวรับ 1360 จุดหรือต่ำกว่า หุ้นแนะนำเดือนนี้ได้แก่ CK (ราคาพื้นฐาน 40 บาท), KTC (ราคาพื้นฐาน 94 บาท), LPH (ราคาพื้นฐาน 8.20 บาท), MINT (ราคาพื้นฐาน 43 บาท), MTLS (ราคาพื้นฐาน 25 บาท)
  (0) ธปท.ปรับ GDP ปีนี้ลงเหลือ 3.1% จาก 3.5% เศรษฐกิจเดือน ก.พ. ทรงตัวจากเดือนก่อน การจับจ่ายและการลงทุนภาคเอกชนทรงตัวระดับต่ำหลังหมดมาตรการกระตุ้นในช่วงปลายปีก่อน มีเพียงการใช้จ่ายภาครัฐและการท่องเที่ยวที่โตต่อเนื่องตามฤดูกาล ส่วนส่งออกที่หักทองคำยังคงหดตัว ธปท.ปรับลด GDP ปีนี้ลงเหลือ 3.1% หลักๆมาจากการปรับลดส่งออกเหลือ -2% จาก 0%
  (0) กทค.กำหนดประมูลใหม่ 24 มิ.ย. นี้ ยืนราคาตั้งต้น 7.56 หมื่นล้านบาทเท่าที่ JAS ชนะประมูล กำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ทิ้งใบอนุญาตให้สูงขึ้นเป็น 1.51 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ กทค.จะเปิดรับฟังความคิดเห็น 5-28 เม.ย. ขายซอง 13 พ.ค.-12 มิ.ย. และยื่นซองประกวดราคา 13 มิ.ย. หากไม่มีผู้ประมูล จะเก็บคลื่นไว้ 1 ปีค่อยนำออกมาประมูลใหม่ เราคิดว่าหากราคาตั้งต้นเป็น 7.56 หมื่นล้านบาท การประมูลอาจไม่ประสบผลสำเร็จ หากสำเร็จ จะเป็นภาะการลงทุนที่หหนักมากของผู้ชนะประมูลใน 1-2 ปีแรกเป็นอย่างน้อย ส่วนกรณีค่าปรับ JAS กทค.เชิญผู้บริหารมาชี้แจง 5 เม.ย.

(-) ADVANC กำไรไม่สดใส เราคาด -25% Q-Q, -18% Y-Y ใน 1Q16 โดยรายได้ค่าบริการทรงตัว แต่ต้นทุนสูงขึ้นมากจากการแจกเครื่องให้ลูกค้า 2G แม้ว่า Regulatory Cost จะลดลง และค่าเสื่อมของโครงข่าย 2G จะหายไป แต่ไม่สามารถชดเชยได้ทั้งหมด แนวโน้มกำไรในช่วงที่เหลือของปียังไม่สดใสนักจากการแข่งขันที่สูง เรายังคาดกำไรปกติปีนี้ -23.6% Y-Y คงราคาพื้นฐานที่ 188 บาท ลดคำแนะนำเป็นถือจาก upside ที่แคบลง

(+) GPSC เป็นหุ้น Defensive มีผลประกอบการและปันผลสม่ำเสมอ และมีโอกาสได้รับงานเพิ่มในอนาคต ตามเป้าของบริษัทที่จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 2,800MW ภายในปี 2019 จากปัจจุบัน 1,338MW และอยู่ระหว่างก่อสร้าง 579MW รวมเป็น 1,917MW เราคาดกำไรปี 2016-20 โตเฉลี่ยปีละ 14% ประเมินราคาหุ้น 30 บาท (DCF) คิดเป็น Implied PE 20 เท่า แพงกว่าโรงไฟฟ้าแห่งอื่นที่มี PE เฉลี่ย 12 เท่าแต่เป็นเพราะ GPSC อยู่ในช่วงลงทุนซึ่งทำให้การเติบโตในระยะยาวสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม แนะนำซื้อ

(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในกรอบแคบ แต่ภาพรวมยังปรับตัวขึ้นได้เป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน โดยนักลงทุนจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและ ISM ภาคการผลิตเดือนมี.ค.คืนนี้
 (-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบหลังจากพึ่งขึ้นมาในช่วงก่อนหน้า โดยนักลงทุนจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯคืนนี้
 (-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนลบจากบรรยากาศการลงทุนที่ไร้ปัจจัยบวกใหม่ รวมถึงนักลงทุนจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ
(0) ค่าเงินบาทมีจังหวะแข็งค่าขึ้นวานนี้ก่อนที่จะทรงตัวอีกครั้ง ล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 35.00-35.20 บาท/ดอลลาร์
(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. ขยับขึ้นเล็กน้อย 0.02 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 38.34 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยนักลงทุนเริ่มจับตาและให้น้ำหนักการการประชุมกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC ในวันที่ 17 เม.ย.นี้
  ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 7.00 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,235.60 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยไตรมาสที่ผ่านมาเป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปี ขณะที่นักลงทุนจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรคืนนี้

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

1-เม.ย. - ตลาดหุ้นอินเดียปิดทำการ

- ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)

- จีน: Manufacturing and Non-manufacturing PMI (มี.ค.)

- ญี่ปุ่น: ดัชนี Tankan 1Q16

- สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงาน (มี.ค.)

- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (มี.ค.)
4-5 เม.ย. - ตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการ
4-เม.ย. - ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปิดทำการ

- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ก.พ.)
5-เม.ย. - ออสเตรเลีย: ธนาคารกลาง (RBA) ประชุม

- อินเดีย: ธนาคารกลาง (RBI) ประชุม

- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (มี.ค.)
6-เม.ย. - ตลาดหุ้นไทยปิดทำการวันจักรี

- จีน: Caixin China PMI Composite (มี.ค.)

- สหรัฐ: รายงานการประชุม Fed Minutes วันที่ 15-16 มี.ค.
7 เม.ย. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มี.ค.)

- สิงคโปร์: 1Q16 GDP

Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!