WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)

 

Technical highlights
SET Index : เน้นขายเพื่อถือเงินสด
  ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1410.29 จุด เพิ่มขึ้น 17.44 จุด มูลค่าการซื้อขาย 57,622 ล้านบาท ตลาดเมื่อวานปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านระดับ 1400 จุดขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1420 จุดก่อนที่จะอ่อนตัวลงมาปิดที่บริเวณจุดสูงสุดเดิมที่ 1412 จุด พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น
  Daily: ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1412 จุด พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น แต่เรายังคงแนะนำให้ใช้เป็นจังหวะขายหุ้นออกเพื่อถือเงินสด เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 1412 จุดขึ้นไป จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1430 จุด และมีแนวรับสำคัญในระยะสั้นที่ 1400 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1375 จุด
  กลยุทธ์ :SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อเพื่อการทำ Settlement price ใน S50H16 แต่การปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 1412 จุดขึ้นไป เรายังคงแนะนำให้เน้นการขายหุ้นออกเพื่อถือเงินสด เน้นการเก็งกำไรในระยะสั้น โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1400 จุด ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1375 จุด

Asia Fund Flow : 30 มีนาคม 2559
  ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ซื้อสุทธิ 54 ล้านเหรียญ (31 มี.ค.)
  ตลาดหุ้นไต้หวัน ซื้อสุทธิ 485 ล้านเหรียญ
  ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ซื้อสุทธิ 1 ล้านเหรียญ
  ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ซื้อสุทธิ 1 ล้านเหรียญ
  ตลาดหุ้นไทย ซื้อสุทธิ 242 ล้านเหรียญ

Most Active Value: แนวรับ แนวต้าน
ADVANC ขายที่แนวต้าน 190 แนวรับ 185 และ 180 186 / 185 190 / 192
KBANK ขายที่แนวต้าน 174 แนวโน้มลงทดสอบ 162-163 172 / 170 174 / 175
PTTEP สัญญาณฟื้นตัว แนวต้าน 71.00 และ 72.00 แนวโน้มลงทดสอบ 65.00 68.00 / 67.00 71.00 / 72.00
AOT แนวโน้มลงทดสอบ 380 และ 370 แนวต้าน 400 394 / 390 400 / 404
PTT ขายที่แนวต้าน 290 แนวรับสำคัญ 274-275 ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายต่อเนื่อง 284 / 280 288 / 290
DTAC สัญญาณขาย แนวโน้มลงทดสอบ 38.00 และ 37.00 แนวต้าน 40.50-41.00 39.00 / 38.00 40.50 / 41.00
SCB ขายที่แนวต้าน 142 แนวรับ 138 และ 135 138 / 135 140 / 142
BBL ขายที่แนวต้าน 182-183 แนวรับ 175 178 / 177 182 / 183
PTTGC สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 65.00 61.00 / 60.00 63.00 / 64.00
CPF เน้นขายที่แนวต้าน 24.00 และ 24.40 แนวรับ 23.00 23.50 / 23.00 24.20 / 24.40

Ichitan Group (ICHI TB; THB 13.20) - ซื้อ
  แนวต้าน : 14.00 และ 14.40
  แนวรับ : 13.20 และ 13.00
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
  แนะนำซื้อ ICHI โดยมีแนวรับที่ 13.20 และ 13.00 และมีแนวต้านที่ 14.00 และ 14.40 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 12.70 ลงไป

VGI Global Media (VGI TB; THB 4.80) - ซื้อ
  แนวต้าน : 5.10 และ 5.20
  แนวรับ : 4.80 และ 4.74
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
  แนะนำซื้อ VGI โดยมีแนวรับที่ 4.80 และ 4.74 และมีแนวต้านที่ 5.10 และ 5.20 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.68 ลงไป

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

 

SET...ยังขึ้นได้ไม่ไกล
  ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ ยังคงมีโมเมนตัมในการขึ้นหลังประธาน FED ออกมาย้ำว่า การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐจะค่อยเป็นค่อยไป สะท้อนมุมมองที่ว่า การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ จะมีไม่กี่ครั้ง การออกมาย้ำถึงทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ ที่จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวและดันให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมัน โดยเมื่อคืนนี้ ราคาน้ำมันเริ่มทรงๆตัว หลัง EIA ออกมารายงานปริมาณสต๊อกน้ำมันของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบารเรล์ เทียบกับที่ตลาดคาด 3.3 ล้านบารเรล์
  ส่วนเม็ดเงินต่างชาติที่ไหลเข้าตลาดหุ้นและพันธบัตร ใน ตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก จากฐานข้อมูลของ IIF พบว่าในเดือน มี.ค. สูงถึง 36.8 พันล้านดอลลาร์ โดยสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปีและสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 4 ปี อย่างไรก็ตามมีการมองกันว่าเม็ดเงินที่ไหลเข้ายังน้อย เมื่อเทียบกับเม็ดเงินไหลออกจากตลาดหุ้นเกิดใหม่ในปี 2015 ที่สูงถึง 730 พันล้านดอลลาร์ โดยภาพรวมแล้วตลาดหุ้นเกิดใหม่ ยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงหลายด้าน อย่าง การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ดังนั้นจึงมองกันว่า เม็ดเงินไหลเข้า ยังเป็นเพียงการเข้ามาหากำไรในช่วงสั้น
  สำหรับแรงซื้อของต่างชาติในตลาดหุ้นไทย อย่างมาก เมื่อวานนี้ ถือเป็นสัญญาณที่ดีกับตลาด ซึ่งอาจเป็นผลจาก การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ รอการลงประชามติ หรือ การที่รัฐบาล เร่งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เม็ดเงินที่ไหลเข้ามา หากดูแล้ว ยังเน้นไปซื้อหุ้นในกลุ่มที่โตจากในประเทศหรือกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นของรัฐบาล โดยเรามองว่าแรงซื้อที่เข้ามา น่าจะซื้อแล้วหยุด มากกว่าที่จะทยอยซื้ออย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะเห็นผลการดำเนินงาน Q1/16 ของกลุ่มสถาบันการเงิน
  เหตุที่มองต่างชาติเข้าซื้อแล้วหยุด น่าจะเกิดจาก การประเมินความถูกความแพงของตลาด อย่าง ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้า ที่กำลังขึ้นทะลุ 14 เท่าเทียบสูงสุดที่ 14.1 เท่า และค่า Earning Momentum ที่เริ่มผงกหัวลงรอบใหม่ นอกนั้น หุ้นในกลุ่มหลักที่มีอิทธิพลต่อดัชนี SET อย่าง พลังงาน สื่อสาร และ ธนาคารพาณิชย์ ราคาหุ้นได้ขึ้นมาสูงที่เป้าหมายเฉลี่ยกลาง ส่งผลให้ค่า P/E เริ่มแพง หากหุ้นเหล่านี้จะขึ้นไปต่อ ยังต้องรอดู Earning Q1/16 ประกอบ ส่วนค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าของเอเชียไม่รวมญี่ปุ่นกำลังขึ้นไปเล่นที่ค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 12 เท่า
  สำหรับทิศทางดัชนี SET ในปลายสัปดาห์นี้ถึงสัปดาห์หน้า เรายังมองว่ามีกรอบการขึ้นจำกัด เนื่องจาก ยังขาดปัจจัยหนุนภายนอกและภายในที่ดีพอ และตลาดหุ้นสหรัฐ ยังมีความเสี่ยงที่จะปรับฐาน หากผลการดำเนินงาน Q1/16 ทยอยประกาศ ส่วนทิศทางราคาน้ำมันดูเหมือนจะเริ่มนิ่งๆ จนกว่าจะเห็นผลการประชุมในวันที่ 17 เม.ย. ซึ่งในตอนนี้ราคาน้ำมันน่าจะสะท้อนผลการประชุมของกลุ่ม OPEC ยกเว้นว่าอิหร่านจะเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้
  เมื่อต่างชาติเริ่มเข้ามาซื้อ หุ้นในกลุ่มที่เรามองว่าน่าจะอยู่ในเกณฑ์การเข้าซื้อ ยังคงเป็นกลุ่มที่โตจากแรงหนุนภายใน อย่าง ที่โยงท่องเที่ยว โรงพยาบาล ธนาคารขนาดเล็กและนาโนไฟแนนซ์ ค้าปลีกและรับเหมา โดยวันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร STEC TU และ AAV วันนี้มองดัชนีเปิดขึ้นมาจะขึ้นต่อแล้วจะเผชิญกับแรงขายทำกำไร จนดัชนีลงมาติดลบ โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1418-1422 จุด ส่วนแนวรับที่ 1402-1398 จุด

Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

Morning Market Summary...
  SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,,409.01 จุด ลดลง 1.28 จุด (-0.09%) มูลค่าการซื้อขาย18,285.08 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ผันผวนในกรอบ แต่ยังแกว่งเหนือระดับ 1400 จุด ดัชนีถูกกดดันจากแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่ของกลุ่มสื่อสาร อย่าง ADVANC (XD 6.49 บาท) และกลุ่มพลังงาน ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ของสหรัฐ (ศุกร์นี้)

Afternoon Perspective…
  แนวโน้มตลาดบ่าย แรงขายทำกำไรยังกดดัน SET ในภาพใหญ่ โดยในทางเทคนิค SET ยังไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1416 จุดได้ ทำให้ภาพการเก็งกำไรรอบใหม่ของ SET ยังไม่เกิด ส่งผลให้ยังคงต้องใช้กลยุทธ์เดิมต่อไป คือ ดีดขึ้นมา ขายเล่นรอบออกก่อน จนกว่าจะเกิดสัญญาณซื้อรอบใหม่ ซึ่งก็คือการดีดตัวเหนือระดับ 1425 จุด ระยะสั้นหลังขายหุ้นออกแล้ว เน้นถือเงินสดเพิ่มไปก่อน และไปรอซื้อกลับที่แนวรับ 1375-1380 จุด

Fundamental Picks & Technic (PM) ...
Turnover List Preview (Cash Balance) : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : VPO* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)

Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!