- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 30 March 2016 18:13
- Hits: 1482
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ทิศทางตลาด
ตามตลาดต่างประเทศ?คาดมีโอกาสปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ที่มีมุมมองในเชิงบวกต่อสุนทรพจน์ของประธานเฟดว่าจะยังไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ขณะที่ประเด็นในประเทศคาดได้รับปัจจัยบวกจาก(1) Fund Flow ที่คาดมีน้ำหนักมากขึ้นหลังจากนี้ไปโดยเฉพาะแรงซื้อจากต่างชาติที่คาดน่าจะกลับเข้ามาในภูมิภาคอีกครั้งซึ่งรวมถึงไทยแนะจับตาหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าหมายของ
นักลงทุนต่างชาติและ(2) Window Dressing - 1Q/59 ในวันพรุ่งนี้(31/3/59) รวมถึงมาตรการกระตุ้นของภาครัฐเพื่อกระตุ้นการบริโภคและการท่องเที่ยวในประเทศที่คาดส่งผลดีต่อกลุ่มค้าปลีกกลุ่มโรงแรมและกลุ่มอาหารโครงการบ้านประชารัฐที่คาดส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มที่อยู่อาศัยเช่นPS และLPN เป็นต้น และกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดได้รับปัจจัยบวกจากความคืบหน้าในการเปิดประมูลโดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู(แคราย-มีนบุรี) และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง(ลาดพร้าว-สำโรง) หลังเข้าที่ประชุมคณะรัฐมตรี(ครม.) วานนี้คาดเริ่มเปิดประมูลประมาณ2Q –3Q/59
อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงคาดอาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน
นอกจากนี้ยังแนะติดตาม
(1) กลุ่มการบินและสนามบินเรามองจากเหตุการณ์ก่อการร้ายที่ประเทศเบลเยี่ยมเป็นเพียงปัจจัยลบระยะสั้นควรหาจังหวะเข้าลงทุนเพื่อการลงทุนระยะยาวเช่นAOT, BA, AAV
(2) กลุ่มพลังงานPTT และPTTEP อาจมีแรงขายทำกำไรจากความกังวลอุปทานล้นตลาดและราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มทรงตัว
(3) หุ้นกลุ่มโรงกลั่นเช่นIRPC, TOP และSPRC จะได้รับผลบวกจากค่าการกลั่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องในช่วง1Q/59 และคาดจะไม่มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันจำนวนมากอีก
(4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น TPIPL
(5) หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเช่น โรงแรม (MINT, CENTEL) ในระยะยาวยังดูดีแต่ในระยะสั้นจะได้รับปัจจัยลบจากเหตุการณ์ก่อการร้ายเช่นกัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศDJIA +97.72, NASDAQ +79.84, S&P +17.96, FTSE -0.58, CAC +36.99 และDAX +36.59 หลังสุนทรพจน์ของประธานเฟดระบุ จะยังคงทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเฟดกำลังจับตาผลกระทบจากภาวะทรุดตัวของเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมันที่ดิ่งลง และความผันผวนในตลาดหุ้น ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ขณะที่สหรัฐฯเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค–มี.ค. อยู่ที่96.2 เพิ่มขึ้นจากระดับ94.0 เมื่อเดือนก.พ. และดีกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ94.0 หลังตลาดหุ้นเริ่มมีเสถียรภาพซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวล
ราคาน้ำมันดิบ(NYMEX) ส่งมอบเดือน พ.ค. -US$1.11 อยู่ที่US$ 38.28 ต่อบาร์เรล ภายใต้ความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงขึ้น และตลาดยังไม่มั่นใจต่อผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในวันที่ 17/4/59 เนื่องจากลิเบียและอิหร่านอาจไม่เข้าร่วมการประชุมซึ่งอาจลดประสิทธิภาพสำหรับการประชุมครั้งนี้
ราคาทองคำ(COMEX) ส่งมอบเดือน มิ.ย. +US$15.5 อยู่ที่US$ 1,237.5 ต่อออนซ์ สะท้อนสุนทรพจน์ของประธานเฟด ที่ส่งสัญญาณว่าเฟดยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งทำให้เงินสหรัฐฯ อ่อนค่าลง และส่งผลดีต่อราคาทองคำ
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
20.42 1.82 3.42
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 35,656.37
สถาบัน -1,214.29
บัญชีหลักทรัพย์ -177.53
ต่างประเทศ 718.1
ในประเทศ 673.71
(6) กลุ่มค้าปลีกเช่นCPALL, HMPRO และROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่องจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร3 โครงการวงเงิน93,000 ล้านบาทผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ10 ปี-0.06 อยู่ที่1.81% (ระดับสูงสุด3.77% เมื่อกพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง(VIX) -1.42 อยู่ที่13.82
หุ้นแนะนำ: PS