- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 28 March 2016 17:20
- Hits: 942
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Stay defensive
คาดดัชนีฯ พัก แนวรับ 1,380 ต้าน 1,405 จุด กลยุทธ์เล่นสั้นคงคำแนะนำ กระชับพอร์ต
สัปดาห์นี้ คาดแกว่งในกรอบ 1,380-1,415 จุด แนะเล่นหุ้นกลุ่ม Defensive เน้นหุ้นเชื่อมโยงการบริโภคในประเทศ รับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก เข้า ครม. 29 มีค., กลุ่ม Utilities แนะ โรงไฟฟ้า (IFEC TSE GUNKUL ฯลฯ เดือน เม.ย กกพ.จะประกาศ งานโซลาร์หน่วยงานฯ) BTS (วันนี้คาด รฟม.เซ็น MOU โอน รถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ-ใต้ มาให้ กทม. ก่อนคาดโอนต่อให้ BTS เล่น Laggard BEM) และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง (งานประมูลก่อสร้างเริ่มออก)
ปัจจัยที่ต้องตาม
(+) วันศุกร์นี้ ตัวเลข Tankan ญี่ปุ่นถ้าแย่ลงอีก คาดเพิ่มโอกาส BOJ เพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในเดือน เมย.
(+/-) ISM สหรัฐฯถ้าออกมาดีกว่าตลาดคาด อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อหุ้น จากวิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ย เมย. เดือน มีค. ตลาดหุ้นไทยขึ้นช่วงครึ่งแรกของเดือน และเริ่มชะลอตัวตั้งแต่กลางเดือนเป็นต้นมาตามคาด โดยพบว่าครึ่งหลังของเดือน หุ้นปันผลสูง, โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน, โรงพยาบาล ค้าปลีก Low Beta-Earning resilient ปรับขึ้นตามคาด จากนี้ไปถึงเดือน เมย.แนะเก็บเพิ่มหุ้นได้ประโยชน์บาทอ่อน (คาดฝรั่งขายหุ้นและพันธบัตรไทย) กับหุ้นได้ประโยชน์จากน้ำมันพักตัวลง และหุ้นมีข่าวบวกรายตัว คาดว่าจะขึ้นดีกว่าตลาด ในเดือน เมย.
หุ้นแนะนำวันนี้ BH BTS (Laggard สุดในกลุ่ม Defensive play)
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(+) TFG หลังจากช่วงเวลาที่ค่อนข้างยากลำบากสำหรับบริษัทในปีที่ผ่านมา จากราคาไก่และราคาสุกรที่ปรับตัวลดลง เราเชื่อมั่นว่าในปีนี้สถานการณ์ทางด้านราคาจะปรับตัวดีขึ้น โดยปัจจุบันราคาไก่อยู่ที่ 37 บาท/กิโลกรัมปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 36 บาท/กิโลกรัมในช่วงปลายปีที่แล้ว ขณะที่ราคาสุกรอยู่ที่ 67 บาท/กิโลกรัม จากช่วงปลายปีที่แล้วที่ 65 บาท/กิโลกรัม เนื่องจากราคาทั้งไก่และสุกรมีความผันผวน เราเชื่อว่าการที่บริษัทเน้นการบริหารต้นทุนถือเป็นกลยุทธ์ที่ดี และช่วยหนุนประสิทธิภาพในการทำกำไรได้ อีกทั้งการเน้นเพิ่มสัดส่วนการส่งออกและขยายการทำสินค้าที่เพิ่ม Value ให้กับผลิตภัณฑ์อย่างเช่นตัวไส้กรอกจะช่วยลดความเสี่ยงในด้านความผันผวนของราคา เรามีความมั่นใจว่าปีนี้ TFG จะสามารถพลิกกลับมาเป็นกำไรได้แน่นอน เราแนะนำ "ซื้อ"
(+) BEAUTY เราคงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมายเดิม 6.1 บ. (ปัจจุบันเทรดบน PE 31 เท่า เท่ากับ EPS growth ที่ 31% (PEG เกิน 1 เท่า ด้วย EPS CAGR 3 ปีเฉลี่ยที่ 27%) ประเด็นจากการประชุมกับผู้บริหาร 1) ยังคงตั้งเป้าขยายร้าน Beauty buffet 30 แห่ง, Beauty cottage 15 แห่ง, Beauty market 5 แห่ง ทำให้ปีนี้ร้านในรูปแบบต่างๆจะเพิ่มเป็น 257, 85 และ 18 แห่ง ตามลำดับ 2) คาดการเปิดคลังสินค้าใหม่ และ ศูนย์อบรมฯ จะเพิ่มค่าใช้จ่าย SG&A ในระยะสั้น แต่เป็นผลดีในระยะยาว / กลยุทธ์ ระยะสั้น คาดราคาหุ้นมีโอกาสดีดตัวรับข่าวมาตรการกระตุ้นการบริโภค แต่ด้วยแนวโน้ม งบ 1Q16 ที่อาจชะลอจาก SG&A ที่เพิ่มขึ้น และ PEG ที่เกิน 1 เท่า ส่วน PE ตอนนี้ก็สะท้อนอัตราการเติบโตปีนี้ที่ 31% อาจทำให้ราคาหุ้นขึ้นได้ไม่แรง)
(+) MINT เราปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 42 บ. (จาก 40 บ.) เรายังเชื่อว่ากลยุทธ์สร้างรายได้ในต่างประเทศ จะหนุนให้กำไร MINT โตโดดเด่นกว่ากลุ่ม โดยเฉพาะล่าสุด ซื้อกิจการในยุโรป (Tivoli) จะเป็นบวกต่อกำไรในระยะยาวของ MINT เราปรับกำไร ปี 2016-17 ขึ้น 6-4%
(-) กลุ่มแบงก์ เราปรับลดน้ำหนักกลุ่มแบงก์ลงเป็น NEUTRAL จาก Overweight จากคาดความเสี่ยงเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวช้ากดดันราคาหุ้น เราชอบ BBL TMB และ SCB เป็น Top pick ส่วน TISCO และ TCAP เราลดคำแนะนำ ลงเป็น ขาย
หุ้นมีข่าว
(+) ITD, STEC, วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง, นภาก่อสร้าง เผยรายชื่อ ผู้ซื้อซองประมูลสุวรรณภูมิเฟส 2 (ที่มาฐานเศรษฐกิจ)
(+) รมว.คมนาคม ยันเดินหน้ารถไฟ"ไทย-จีน"เอง เตรียมเจรจาครั้งที่ 10 สรุปกรอบความร่วมมือ เม.ย.นี้ หลังปิดดีลร่วมทุนทั้งระบบ เหตุจีน ยื่นเงื่อนไขขอพัฒนาพื้นที่สองข้างทาง ขณะที่เม็ดเงินลงทุนพิจารณาทุกแหล่ง แต่ต้นทุนต้องต่ำกว่า 2% มั่นใจรถไฟสร้างลงทุน คุ้มค่าคาดผู้โดยสาร 2 หมื่นคนต่อวัน พร้อมกางแผนระยะยาวดันไฮสปีดเทรนต่อเนื่อง 3 เส้นทางชัดเจนปีนี้ "คลัง"แจงไม่มีปัญหาพร้อมระดมทุน ย้ำกรณี"กู้"ขอใช้เงินในประเทศก่อน ส่วนเงินนอกต้องต้นทุนต่ำ
(+) El Nino effect ดันหุ้นกลุ่มเกษตร น้ำตาล น้ำมันปาล์ม นำขึ้นโดยบริษัท CPI ระหว่างวันราคาซิลลิ่ง 30% ที่ 2.22 บาท ก่อนย่อมาปิดที่ 2.16 บาท พุ่งขึ้น 0.44 บาท หรือ 25.58% VPO ปิดที่ 1.65 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 22.22% และ UPOIC เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ 17.78% ปิดที่ระดับ 5.30 บาท
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) เมื่อวานศุกร์พาณิชย์ เผยส่งออกเดือน ก.พ.59 เพิ่มขึ้น 10.27% พลิกกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 14 เดือน "สุวิทย์" มั่นใจแนวโน้มส่งออกดีขึ้น ยืนเป้าทั้งปี 5% ไว้มุ่งมั่นทำงาน พร้อมโชว์รายได้บริการเป็นครั้งแรก
(+) จันทร์ US PCE index กพ. คาด -0.1% จาก +0.1% m-m ส่วน Core PCE คาด +0.2% จาก +0.3% m-m, ตลาดหุ้นยุโรปหยุดเทศกาล Easter
(0) อังคาร US consumer confidence มีค.คาด 94 จาก 92.2
(0) พุธ ญี่ปุ่น Industrial production กพ. คาด -6% จาก +3.7% m-m, ยุโรป Economic sentiment, เยอรมนี เงินเฟ้อ
(0) พฤหัส เงินเฟ้อยุโรป HICP เดือน มีค. คาด -0.1% จาก -0.2% Core CPI คาด +0.9% จาก +0.8%, อังกฤษ GDP 4Q15 final คาด +0.5% คงที่, เกาหลีใต้ Industrial production กพ.คาด -2% จาก -1.9%
(+/-) ศุกร์ US Nonfarm payrolls และ อัตราว่างงาน คาด +4.9% คงที่, US ISM ภาคผลิต มีค. คาด 50.4 จาก 49.5, สเปน-อิตาลี รายงาน PMI ภาคการผลิต, จีน รายงาน PMI ภาคผลิต มีค. คาด +49.3 จาก 49, ไทย รายงานเงินเฟ้อ มีค. -0.5% จาก -0.5% y-y, ญี่ปุ่นรายงาน Tankan เดือน มีค. คาด 10 จาก 12 จุด
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
รายงานวันนี้
หุ้น: MINT คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 42.00
MINT เป็นหุ้นแนะนำลำดับหนึ่งของเราในกลุ่ม จากกำไรปี 2559 เติบโตสู.สุถดในกลุ่ม โดยเรามองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้น MINT หลังราคาปรับตัวลง 7% จากราคาสูงสุดในปีนี้
ปรับประมาณการกำไรหลักปี 2559 ขึ้น 6% และปี 2560 ขึ้น 4% จากแนวโน้มอัตรากำไรหลักสูงขึ้น ส่งผลราคาเป้าหมายสิ้นปี 2559 เพิ่มจาก 40 บาท เป็น 42 บาท
คาดกำไรหลักไตรมาส 1/59 ทำสถิติใหม่ จากผลงานสองเดือนแรกของปีดีโดดเด่นในอุตสาหกรรม
รายได้กระจายตัวไปต่างประเทศตามแผนระยะยาว
อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิอาจปรับตัวขึ้นในไตรมาส 1/59 แต่จะลลดลง ณ สิ้นปี 2559 ไม่มีความเสี่ยงเรียกเพิ่มทุน
นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: BEAUTY คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 6.10
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมาย 6.10 บาท
ยอดขายยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง
ยังคงขยายสาขาเชิงรุก
คลังสินค้าและศูนย์อบรมพนักงานหนุนความสามารถการทำกำไรในระยะยาว
นักวิเคราะห์: ไชยธร ศรีเจริญ, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: TFG คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 2.40
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ
แม้ว่าผลประกอบการปี 2558 จะขาดทุน แต่ปีนี้คาดกลับมาฟื้นตัวได้
บริษัทมีแผนพลิกกลับมาเป็นกำไร ทั้งโปรแกรมปรับลดต้นทุน, การเติบโตของรายได้และมีแผนลงทุนในอนาคตเพื่อต่อยอดธุรกิจ
นักวิเคราะห์: ประสิทธิ์ สุจิรวรกุล, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์: นภนต์ ใจแสน
กลุ่ม: ธนาคาร คำแนะนำ: NEUTRAL ราคาเป้าหมาย (บาท): -
เราปรับคำแนะนำเป็น NEUTRAL
ภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาดอาจกระทบแนวโน้มกำไร
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในไตรมาส 1/59 ก่อนลดลงในครึ่งหลังปี 2559
เรามีมุมมองเชิงลบต่อธนาคารที่เน้นสินเชื่อเช่าซื้อ
นักวิเคราะห์: สุวัฒน์ บำรุงชาติอุดม, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม
Technical Analysis
Security: BEM
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 6
Stop loss: < 5.3
Reason: ระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นสร้างฐานได้อย่างแข็งแกร่ง เรามองโอกาสการฟื้นตัวพบสัญญาณบวกจาก MACD วอลุ่มที่เพิ่มขึ้นและรูปแบบ Rounding bottom
Security: LPN
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 14.6
Stop loss: < 13.2
Reason: ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้ ยืนปิดสูง ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่หนุนด้วยวอลุ่มที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
Security: UNIQ
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 18.6
Stop loss: < 17.2
Reason: ราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างปรับตัวขึ้นยกแผง หุ้น UNIQ ยังคงเป็นหุ้นที่เราแนะนำซื้อ โดยประเมินสัญญาณบวกระยะกลางจาก MACD ขึ้นยืนเหนือเส้น 0 และปัจจัยหนุนจากราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาปรับตัวขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน
Security: IVL
Position: ขาย
Reason: หุ้นมีความเสี่ยงของการปรับตัวลงจากการปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลาง กรณีราคาหุ้นปรับตัวลงต่อ จะส่งผลให้ MACD ลงต่ำกว่าเส้น 0 บ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลง
Security: TOP
Position: ขาย
Reason: หุ้นปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาด อย่างไรก็ตามแนวโน้มระยะสั้นเริ่มมีความเสี่ยงของการอ่อนตัวจากการปิดต่ำทำ หนุนด้วยสัญญาณอ่อนตัวลง RSI กรณีหลุดแนวรับ 66 อาจส่งผลให้หุ้นปรับตัวลงแรง
Security: AOT
Position: ขาย
Reason: หุ้นปรับตัวลงแรง เนื่องจากราคาหลุดเส้น Neck line หนุนด้วยวอลุ่มที่เพิ่มสูงขึ้นผิดปรกติและค่า RSI ปรับลง บ่งชี้สัญญาณกลับตัวเป็นลง
ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค