WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSS copyบล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน



แม้ SET ดีดขึ้นต่อแต่ความเสี่ยงยังสูง ต้องระวังปรับลง จึงยังรอซื้อลบ!

  กลยุทธ์ : แม้ SET ยังขยับขึ้นต่อได้อีก แต่ที่ผ่านมาถือว่าขึ้นมาค่อนข้างร้อนแรงมากแล้ว ขณะที่ยังไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติม ทำให้ FSS คาดว่า SET มีสิทธิปรับพักตัวลงก่อนได้ในเร็วๆ นี้ ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้รอเลือกหุ้นซื้อช่วงตลาดปรับตัวลงก่อนดีกว่า ส่วนในช่วงตลาดบวกขึ้น โดยเฉพาะถ้าดัชนีเข้าใกล้ 1420 จุดหรือสูงกว่าขึ้นไป เรายังแนะนำให้เน้นขายเพื่อลดพอร์ตแล้วถือเงินสดไว้ก่อนเช่นเดิม
  หุ้นเด่นทางเทคนิค : LPN, TASCO, PTG(short)
  แนวโน้ม : ช่วงบ่ายวานนี้มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มแบงก์เข้ามาหนุน ทำให้ SET พลิกกลับมาขยับบวกแรงต่อเนื่องอีกครั้ง ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่จะยังอ่อนแออยู่ทั้งวัน อย่างไรก็ตาม FSS มองว่ายังไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนจริงจัง ดังนั้นยังต้องระวังแรงขายทำกำไรที่จะมีออกมากดดันในช่วงตลาดบวกไว้ด้วย ขณะที่เช้านี้บรรยากาศการลงทุนอาจไม่สดใสนัก เนื่องจากเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปบางส่วน ยังมีจังหวะปรับตัวลงแดนลบอีก หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกกลับมาร่วงลงแรงพอควรประมาณ 4% โดยหลุดลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 40 ดอลลาร์/บาร์เรลอีกครั้ง จากการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วย นอกจากนี้นักลงทุนยังกังวลว่าเฟดอาจจะมีการขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด หลังจากมีการออกมาส่งสัญญาณจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดด้วย ทำให้ FSS ยังแนะนำให้ระวังแรงขายทำกำไรลดความเสี่ยงจากการขึ้นต่อเนื่องของตลาดในช่วงที่ผ่านมา จะกดดันให้ดัชนีเข้าสู่รอบปรับพักตัวลงก่อนตามคาดอยู่ ดังนั้นยังน่ารอเลือกหุ้นซื้อช่วง SET ปรับตัวลงก่อนดีกว่า โดยเราคาดว่าตลาดจะปรับลงเพื่อสร้างฐานใหม่ในเร็วๆ นี้
  แนวรับ 1407-1402 , 1397-1390 จุด
  แนวต้าน 1414-1416 , 1420-1426 จุด

     Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้า US$136 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$88.1 ล้าน และอินโดนิเซีย US$25.2 ล้าน ส่วนไทยไหลเข้า US$12.5 ล้าน เงินทุนไหลเข้าทุกประเทศแต่ในปริมาณที่ชะลอตัวลง แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคแต่อาจเบาบางลงหลังมีความเป็นไปได้สูงขึ้นที่ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน เม.ย. นี้

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (-) ดอลลาร์กลับมาแข็งค่า...กดดันสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหมด เจ้าหนี้เฟดหลายรายออกมาส่งสัญญาณว่าดอกเบี้ยเฟดอาจปรับเพิ่มขึ้นในเดือนหน้า อย่างไรก็ตาม Consensus ชี้ว่าการปรับขึ้นในเดือน เม.ย. มีสัดส่วนเพียง 6% แต่การปรับขึ้นในเดือน มิ.ย. มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 38% ... กดดันราคาสินทรัพย์เสี่ยงวันนี้
  (-) กนง.ส่งสัญญาณพร้อมลดดอกเบี้ย...กดดันให้บาทอ่อน กนง.มีมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยที่ 1.5% แต่ยอมรับว่าเศรษฐกิจอ่อนแรงกว่าคาด การปรับตัวเลขเศรษฐกิจลงทุกตัวและแสดงความเป็นห่วงค่าเงินบาทที่แข็งค่า จึงมีโอกาสสูงที่กนง.จะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดๆไป หลังการประชุมกนง.ค่าเงินบาทจึงอ่อนค่าทันที สำหรับ GDP ปีนี้ปรับลงเหลือ 3.1% จาก 3.5% ส่งออกปรับลงเหลือ -2% จากเดิม 0% และปรับลดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจาก 0.8% เหลือ 0.6% เงินเฟ้อพื้นฐานจาก 0.9% เหลือ 0.8% เพราะปรับคาดการณ์ราคาน้ำมันเฉลี่ยปีนี้ลงเหลือ US$37.3/บาร์เรล จากเดิม US$43/บาร์เรล
  (0) สินเชื่อธนาคารเดือน ก.พ. เพิ่มเพียง 0.04% M-M TMB มีสินเชื่อเพิ่มขึ้นมากสุด +1.6% M-M ส่วน SCB, TISCO และ TCAP มีสินเชื่อลดลงซึ่งคาดว่ามาจากการชำระคืนซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล สำหรับสินเชื่อ 2M16 ลดลงเล็กน้อย 0.36% YTD แต่เราคาดกำไร 1Q16 +20% Q-Q เพราะค่าใช้จ่ายดำเนินงานและตั้งสำรองลดลง และเพิ่ม 1-2% Y-Y จากการตั้งสำรองที่ลดลงในกลุ่มเช่าซื้อและ TMB กำไรทั้งปีนี้เรายังคาด +6% Y-Y บนสมมติฐานสินเชื่อโต 4-5% ความเสี่ยงด้านคุณภาพหนี้ยังมีอยู่และจะกดดันราคาหุ้นเป็นระยะ จึงยังให้น้ำหนัก Neutral โดยมี KBANK (ราคาเหมาะสม 210 บาท) เป็น Top Pick ร่วมกับ TMB (ราคาเหมาะสม 3.10 บาท) และ TCAP (ราคาเหมาะสม 43 บาท)
  (0) กทค.คาดเปิดประมูลคลื่น 900MHz รอบใหม่ปลาย มิ.ย. นี้ คาดราคาเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ จะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็น 18 เม.ย.-23 พ.ค. ก่อนจะสรุปหลักเกณฑ์การประมูลและประกาศในราชกิจจานุเบกษาสิ้นเดือน พ.ค. เราเห็นว่าการเปิดประมูลรอบใหม่เป็นโอกาสที่ดีของ ADVANC และ DTAC แต่หากราคาประมูลสูงถึง 7 หมื่นล้านบาทจะกดดันผลประกอบการในช่วง 1-2 ปีนี้มาก ราคาหุ้นกลุ่มมือถือปรับขึ้นมาอย่างโดดเด่นหลัง JAS ไม่จ่ายเงินค่าประมูล จนเต็มมูลค่าพื้นฐานแล้วเป็นส่วนใหญ่ เราแนะนำทยอยลดการลงทุนในกลุ่มนี้เพราะกำไรทั้งปีนี้ที่ไม่สดใส
(+) TACC แนวโน้มกำไรสุทธิ 1Q16 โตดีจากการฟื้นตัวของตลาดส่งออกไปยังกัมพูชา และเริ่มรับรู้รายได้จากโถกดตัวที่ 3 ชดเชยการติดตั้งเครื่องกดเครื่องดื่มแบบร้อนที่ล่าช้าได้ นอกจากนี้ TACC ได้สิทธิขายโถกดตัวที่ 4 ตลอดช่วงหน้าร้อนทำให้ TACC กลายเป็น Supplier ทั้ง 4 โถกดตลอดช่วง 2Q16 ซึ่งเป็น high season ของธุรกิจ เรายังคงคาดกำไรสุทธิปีนี้ +75% Y-Y ถือเป็นปีทองของบริษัท คงราคาเป้าหมาย 6 บาท แม้ราคาหุ้นจะเกินพื้นฐานแต่ข่าวดีของผลประกอบการที่รออยู่ 2 ไตรมาสข้างหน้า แนะนำเก็งกำไร

  (-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังปิดเป็นลบต่อเนื่องอีกเกือบ 80 จุดเมื่อคืนนี้ จากแรงกดดันหลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงต่ำกว่า 40 ดอลลาร์/บาร์เรลอีกครั้ง
  (-) ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนนี้ปิดปรับลงเป็นส่วนใหญ่ จากแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ หลังราคาน้ำมันดิบโลกร่วงลง ขณะที่หุ้นกลุ่มสายการบินและโรงแรมยังคงอ่อนแรงจากเหตุก่อการร้าย
  (-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ ยังเปิดปรับตัวลงต่อเนื่องจากวานนี้อีก หลังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่เข้ามาเสริม รวมทั้งยังถูกกดดันจากราคาน้ำมัน
  (-) ค่าเงินบาทยังอ่อนค่าต่อ โดยมาเคลื่อนไหวแถว 35.2-35.3 บาท/ดอลลาร์
  (-) ราคาน้ำมันดิบร่วงกว่า 4% หลัง EIA รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด 3 เท่า ขณะที่การประชุมในวันที่ 17 เม.ย. อาจไม่มีความหมายเพราะมีความเป็นไปได้ที่ซาอุฯจะเพิ่มกำลังการผลิต หลังลิเบียประกาศจะไม่เข้าร่วมการประชุมต่อจากอิหร่านที่ปฎิเสธการเข้าร่วมไปแล้วก่อนหน้า
  ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ปิดร่วงลงถึง 2% หรือ 24.60 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,224.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่าหลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายออกมาส่งสัญญาณว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

24-มี.ค. - ไทย: TPBI เข้าเทรด (ราคา IPO 10.80 บาท)

- ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ และอินเดีย ปิดทำการ
25-มี.ค. - ตลาดหุ้นสหรัฐ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อินเดีย ปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday

- สหรัฐ: 4Q15 GDP ตัวเลขสุดท้าย (ตลาดคาด +1% Q-Q)
28 มี.ค. - ไทย: ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิต (ก.พ.)
29-มี.ค. - สหรัฐ: ดัชีราคาบ้าน S&P/Case-Shiller
30-มี.ค. - สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (มี.ค.)

- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและผู้บริโภค (มี.ค.)
31-มี.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.พ.

- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
1-เม.ย. - ตลาดหุ้นอินเดียปิดทำการ

- จีน: Manufacturing and Non-manufacturing PMI (มี.ค.)

- สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงาน (มี.ค.)

- ญี่ปุ่น: ดัชนี Tankan 1Q16
4-5 เม.ย. - ตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการ
4-เม.ย. - สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ก.พ.)

Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!