- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 15 July 2014 15:14
- Hits: 2322
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ใกล้พักตัวลง ดังนั้นควรแบ่งส่วนขายเพื่อรอซื้อช่วงลบดีกว่า!!
กลยุทธ์ : เนื่องจาก SET ขยับบวกต่อเนื่องขึ้นมาถึง 12 วันทำการติดต่อกัน ด้วยระยะทางเกือบ 70 จุดแล้ว และดัชนีขึ้นมาเคลื่อนไหวสูงกว่าระดับเป้าหมายที่ FSS คาดไว้สำหรับรอบนี้ที่ 1520 จุดได้แล้วด้วย ทำให้มีความเสี่ยงต่อการที่จะมีรอบปรับพักตัวลงในกรอบกว้างได้ ดังนั้นช่วงนี้ถ้าจะเทรดดิ้งเรายังเน้นเข้าเร็ว-ออกไว และส่วนพอร์ตลงทุนควรเริ่มหาจังหวะขายปรับหรือลดพอร์ตลงบ้าง เพื่อรอเลือกหุ้นซื้อใหม่อีกครั้งในรอบปรับพักที่คาดว่ากำลังจะมา
หุ้นเด่นทางเทคนิค : MEGA, SPVI, BLA(short)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET ยังขยับบวกต่อเนื่องขึ้นได้ดี ขณะที่เช้านี้ยังได้รับแรงหนุนจากการบวกขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ของดัชนีดาวโจนส์อีกครั้ง หลังผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของซิตี้ กรุ๊ป ช่วยให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทอื่นๆ นอกจากนี้ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงหนุนจากข่าว M&A ของหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ด้วย ทำให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคส่วนใหญ่ยังเปิดเป็นบวกได้ดีอยู่ ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสแกว่งบวกให้เห็นได้อีก อย่างไรก็ตามเราคาดว่ากรอบการขึ้นของ SET น่าจะเริ่มจำกัดอีกครั้ง เพราะวอลุ่มตลาดเริ่มหดตัว รวมทั้งแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติก็เริ่มบางตาลง หลังจากช่วงที่ผ่านมาดัชนีแกว่งบวกขึ้นมาต่อเนื่องกว่า 2 สัปดาห์เกือบ 70 จุดแล้ว ทำให้ FSS คาดว่า SET มีสิทธิที่จะแกว่งพักตัวลงได้ในเร็วๆ นี้ ดังนั้นถ้าจะเลือกหุ้นเข้าซื้อใหม่ จึงแนะนำให้รอช่วงตลาดปรับพักตัวลงก่อนน่าจะปลอดภัยกว่า
แนวรับ 1525-1523 , 1520-1518 จุด แนวต้าน 1532-1535 , 1540 จุด
Fund Flow กระแสเงินทุนในภูมิภาคแม้ยังคงเป็นการไหลเข้า US$1 ล้าน แต่เบาบางลงอย่างชัดเจน โดยกลุ่ม TIP ยังคงมีเงินทุนไหลเข้าต่อ แต่มีแรงขายออกจากตลาดไต้หวัน US$61.2 ล้าน กระแสเงินทุนที่ชะลอเพราะตลาดรอการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีของ Yellen ต่อสภาคองเกรสในวันนี้และพรุ่งนี้ โดยตลาดคาดว่า Fed น่าจะยังคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป แต่ต้องติดตามการส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยเมื่อใด
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) น้ำหนักของปัจจัยต่างประเทศเพิ่มขึ้น แต่คาดว่าไม่มีอะไรใหม่ BOJ ประชุมวันนี้เป็นวันสุดท้าย เป็นที่คาดการณ์ว่า BOJ จะยังไม่มีมาตราการใหม่ นอกจากจะคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ วันนี้จับตาการทบทวนประมาณการ GDP และเงินเฟ้อของญี่ปุ่น ส่วนในสหรัฐ Yellen จะแถลงนโยบายการเงินต่อสภาคองเกรส ซึ่งน่าจะยังเน้นการผ่อนคลายทางการเงินต่อไป เพียงแต่ต้องติดว่าว่าจะมีสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อใดหรือไม่รวมถึง Exit strategy ด้วย
(+) LPN ยอด Presales ครึ่งปีแรกคิดเป็นเพียง 38% ของเป้าทั้งปี แต่บริษัทจะเน้นการโอนในปีนี้ให้ได้ตามเป้ามากกว่าจะเน้นยอดจอง เพราะมี Backlog รอรับรู้เป็นรายได้ปี 2014-15 ที่ 89% และ 97% ของคาดการณ์รายได้โอนแล้ว จึงไม่รีบร้อนเปิดขายโครงการใหม่ เราคาดกำไรปกติ 2Q14 ลดลง 4% Q-Q และ 58% Y-Y ตามแนวโน้มรายได้โอน แต่จะเพิ่มสูงสุดใน 3Q14 เพราะมีคอนโดครบกำหนดโอนถึง 4 โครงการ ก่อนจะชะลอลงใน 4Q14 เราคงประมาณการกำไรปกติปี 2014-15 ลดลง 0.2% Y-Y และโต 30% Y-Y ตามลำดับ แม้ราคาหุ้นจะปรับขึ้นมาแล้ว 42% YTD และ 9% MTD แต่ยังขึ้นช้ากว่ากลุ่ม เราปรับคำแนะนำขึ้นจากเดิมถือ เป็นซื้อ ใช้ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 25 บาท (PE 12 เท่า) และคาดว่าบริษัทจะจ่ายปันผลครึ่งปีแรก 0.31 บาท/หุ้น (Yield 1.2%)
(0) BIG รายงานยอดขาในย 2Q14 โต 6.5% Q-Q และ 3.7% Y-Y โดยยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ยังติดลบ -1.2% Y-Y จากผลของเคอร์ฟิว แต่ฟื้นตัวดีขึ้นจาก 1Q14 ที่ -2.1% Y-Y เราคาดกำไรสุทธิ 2Q14 โต 11% Q-Q แต่ลดลง 11% Y-Y แนวโน้มจะดีขึ้นใน 2H14 เบื้องต้นเรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้โตเพียง 7% Y-Y และจะโตดีขึ้นในปีหน้า 14% Y-Y เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 235 บาท (DCF) ยังมี upside 12% แนะนำซื้อ อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มค้าปลีก เรายังชอบ CPALL ที่สุดในกลุ่ม
(-) TRUE ราคาหุ้นปรับขึ้นแรงวานนี้ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลจากการ Roadshow เตรียมขายหุ้นเพิ่มทุน อีกส่วนน่าจะเป็นเรื่องการประชุมผู้ถือหุ้น 25 ก.ค. เพื่อขออนุมัติเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 2.5725 : 1 ราคาหุ้นละ 6.45 บาท และขายให้ China Mobile ราคา 6.45 บาทเท่ากัน หากราคาก่อน XR ยิ่งสูง ราคาหลัง XR จะไม่ต่ำมากนัก กรณีนี้ราคาหุ้นจะมี dilution 10-12% ในวันที่ขึ้น XR 31 ก.ค. (ชำระเงิน 22-28 ส.ค.) แต่จะมี dilution ทั้งหมด 41% เมื่อรวมหุ้นเพิ่มทุนในส่วนของ China Mobile ด้วย แม้เงินที่ได้จากการเพิ่มทุน 6.5 หมื่นล้านบาทจะนำไปคืนหนี้ธนาคารถึง 80% ทำให้ฐานะการเงินดีขึ้น แต่ในอนาคตบริษัทยังต้องลงทุนในทีวีดิจิตอลที่ประมูลมาอีก 2 ช่อง และเตรียมประมูลคลื่น 1800MHz และ 900MHz ในช่วงปลายปีนี้อีก เราประเมินราคาเป้าหมายหลัง XR ที่ 6.30 บาท
ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาพุ่งขึ้นได้ต่อเนื่องอีกกว่า 100 จุดหลังผลการดำเนินงานของ Citi Group ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด รวมถึงข่าวการควบรวมกิจการต่างๆ
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกได้เช่นกัน โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการและข่าวควบกิจการจากฝั่งตลาดสหรัฐ รวมถึงข่าวที่ว่า Shire จะถูกซื้อกิจการโดย AbbVie
ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นภูมืภาคอื่นจากบรรยากาศการลงทุนที่ค่อนข้างบวก แต่อย่างไรก็ยังมีหลายปัจจัยที่ต้องติดตามในวันนี้ทั้งนโยบายการเงินของ BoJ รวมถึงถ้อยคำแถลงของประธาน FED
ค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวออกข้าง โดยล่าสุดแกว่งอยู่ในกรอบ 32.07-32.20 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ขยับขึ้น 0.08 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยปิดที่ 100.91 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่เช้านี้ขยับขึ้นมายืนเหนือ 101 ดอลลาร์/บาร์เรลจากความกังวลต่อสถานการณ์ในลิเบียและอิรักซึ่งจะกระทบต่ออุปทาน รวมถึงมีคาดการณ์ว่าสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐจะปรับตัวลดลงด้วย
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ร่วงแรง 30.70 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,306.70 ดอลลาร์/ออนซ์ จากแรงขายทำกำไรรวมถึงการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทำให้นักลงทุนลดการถือสินทรัพย์ปลอดภัย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
15-16 ก.ค. - สหรัฐ: Janet Yellen แถลงต่อสภาคองเกรส (จับตาสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยเมื่อใดและ Exit strategy)
- ญี่ปุ่น: BOJ Monetary Policy Statement
16-22 ก.ค. - ไทย: กลุ่มธนาคารประกาศผลประกอบการ 2Q14
15 ก.ค. - มาเลเซีย: ตลาดหุ้นปิดทำการ วันเผยแพร่คัมภีร์กุลอ่าน
- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (ก.ค.)
16 ก.ค. - จีน: 2Q14 GDP, ยอดค้าปลีก (มิ.ย.)
- สหรัฐ: PPI (มิ.ย.), รายงาน Beige Book
17 ก.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (มิ.ย.)
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (มิ.ย.)
- ยูโรโซน: เงินเฟ้อ (มิ.ย.)
18 ก.ค. - ไทย: DTAC ประกาศผลประกอบการ 2Q14
22 ก.ค. - สหรัฐ: เงินเฟ้อ (มิ.ย.), ยอดขายบ้านเก่า (มิ.ย.)
23 ก.ค. - ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)
24 ก.ค. - ไทย: ดุลการค้า (มิ.ย.)
- จีน: HSBC China Manufacturing PMI (ก.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852