- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 22 March 2016 16:37
- Hits: 522
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET ดีดขึ้นในกรอบเดิม ทำให้คาดยังลงได้อีก รอเลือกซื้อลบต่อ...
กลยุทธ์ : แม้ SET จะดีดกลับขึ้นเป็นบวกได้บ้างวานนี้ แต่ก็ยังอยู่ในลักษณะแกว่งตัวขึ้น-ลงภายในกรอบแกว่งเดิม ขณะที่ปัจจัยหนุนเป็นแค่เพียงประเด็นลบในกลุ่ม ICT ที่ผ่อนคลายลง แต่ยังไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนเพิ่ม ทำให้ FSS คาดว่ากรอบบวกของ SET จะยังจำกัด และยังต้องระวังแรงขายทำกำไรกดดันให้ SET ปรับตัวลงต่อได้อีก ซึ่งเราคาดว่าดัชนีมีสิทธิปรับตัวลงไปแถว 1360 จุดหรือหลุดต่ำกว่า ให้เป็นโอกาสในการเลือกหุ้นเข้าซื้อรอบใหม่ได้ จึงแนะนำให้รอรับต่ำดีกว่า
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BEAUTY, WICE, ROBINS(short)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET มีแรงหนุนในภาคบ่าย โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่ม ICT และกลุ่มแบงก์ หลังจากที่นักลงทุนเริ่มมั่นใจว่า JAS คงไม่สามารถชำระเงินค่าประมูลคลื่นฯ ได้ ซึ่งจะนำไปสู่การเปิดประมูลใหม่ในช่วงถัดไป รวมทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ยังทรงตัวในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปีได้ จึงทำให้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานก็ยังมีจังหวะบวกต่ออยู่ อย่างไรก็ตามการดีดตัวขึ้นของ SET ก็ยังอยู่ภายในกรอบแกว่งที่เป็นมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือน มี.ค. เพราะคาดว่านักลงทุนยังต้องการรอดูการประมูลคลื่นฯ รอบใหม่อีกครั้งว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่/อย่างไร ขณะที่ปัจจัยที่จะมาหนุนราคาน้ำมันโลกก็ยังไม่ได้มีความชัดเจนมากนัก ประกอบกับเมื่อคืนนี้แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐยังปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 แต่ก็เริ่มมีจังหวะแกว่งผันผวนและย้อนลบในระหว่างวัน ซึ่งกรอบบวกต่อก็เริ่มแคบลงด้วย ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดเป็นบวกไม่มาก โดยบางแห่งก็เริ่มมีจังหวะผันผวนและย้อนลบให้เห็น ทำให้ FSS ยังคาดว่ากรอบบวกของ SET ก็น่าจะยังค่อนข้างจำกัด และต้องระวังแรงขายกดดันให้ดัชนีปรับพักตัวลงก่อนตามคาด แต่คาดว่าหลังจากตลาดพักตัวแล้ว ยังลุ้นโอกาสที่ดัชนีจะแกว่งไต่ระดับกลับขึ้นครั้งใหม่ได้ในช่วงถัดไป ดังนั้นจึงยังน่ารอเลือกหุ้นซื้อช่วง SET ปรับตัวลงดีกว่า
แนวรับ 1392-1388 , 1385-1383 จุด
แนวต้าน 1396-1398 , 1402-1407 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$311 ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$157.1 ล้าน และเกาหลีใต้ US$106.1 ล้าน ขณะที่ไหลออกจากประเทศไทย US$2.8 ล้าน และเวียดนาม 0.9 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคต่อ แต่อาจชะลอลงตามค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นหลังคำกล่าวของประธานเฟดสาขาแอตแลนต้าและซานฟรานฯ ที่คาดว่า Fed อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนเม.ย.นี้
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) กลุ่มสื่อสารดันตลาดชั่วคราว เพราะแม้ไม่มี JAS กำไรของกลุ่มมือถือในปีนี้หดตัวแรงอยู่ดี การที่ JAS ไม่มาชำระเงินวานนี้ตามกำหนด แม้จะทำให้ผู้เล่นในกลุ่มมือถือมี 3 รายเท่าเดิมแต่ทั้ง 3 รายก็มีภาระลงทุนรอบใหม่ (TRUE ประมูลได้ 2 ไลเซนส์ราคา 1.16 ล้านบาท, ADVANC ประมูลได้ 4.1 หมื่นล้านบาท, DTAC ประมูลไม่ได้แต่ต้องลงทุนทั้งคลื่นเก่าคลื่นใหม่พร้อมกัน) การที่ กสทช.จะนำไลเซนส์ 900MHz มาประมูลใหม่ที่ราคาเริ่มต้น 7.5 หมื่นล้านบาทอาจไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะผู้เข้าประมูลส่วนใหญ่หยุดเคาะตั้งแต่ 7 หมื่นล้านบาท แม้ไม่มี JAS แต่เรายังคาดกำไรของกลุ่มมือถือในปีนี้ -43% Y-Y (ADVANC -25%, DTAC -29%, TRUE กลับไปขาดทุน) ราคา DTAC ที่ขึ้นมาเป็นโอกาสในการขาย ราคาพื้นฐาน 30 บาท ส่วน ADVANC แม้จะชอบที่สุดแต่ราคาใกล้เต็มมูลค่าที่ 188 บาท แนะนำเพียงถือรับปันผล (จ่าย 6.49 บาท/หุ้น XD 31 มี.ค.) ส่วน INTUCH แนะนำถือรับเงินปันผล (จ่าย 2.47 บาท/หุ้น XD 4 เม.ย.) พื้นฐาน 68 บาท
(-) JAS แนะนำขาย แม้จะไม่ได้ทำ 4G ซึ่งเป็นการลงทุนเกินตัว และค่าปรับ 644 ล้านบาทไม่ได้เป็นปัญหา แต่ค่าความเสียหายที่กสทช.จะเรียกร้อง ไม่สามารถประเมินได้ ขณะที่ธุรกิจบรอดแบนด์ในปัจจุบันใกล้จุดอิ่มตัว การเพิ่มขึ้นของลูกค้าใหม่เริ่มชะลอ
(+) คลังเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เข้าครม.วันนี้ ได้แก่ 1. แจกเงินข้าราชการระดับกลาง-ล่างเฉลี่ยคนละประมาณ 1 พันบาท เป็นวงเงินรวม 1.5 หมื่นล้านบาท ได้เงินช่วงสงกรานต์กระตุ้นการใช้จ่าย ดีต่อ GLOBAL, ROBINS, BIGC, CPALL 2. โครงการบ้านประชารัฐ ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ซื้อบ้านและผู้ประกอบการผ่านธอส. ธ.ออมสิน และ KTB ผู้ที่มีโอกาสเข้าโครงการนี้คือ PS และ LPN ซึ่งมีสต๊อกคอนโดราคาไม่เกิน 7 แสนบาทพร้อมขาย แต่ได้ประโยชน์ไม่เต็มที่เพราะต้องลดราคาขายอย่างน้อย 2% รับภาระค่าโอน 2% ค่าจดจำนอง 1% และค่าส่วนกลางฟรีปีแรก โครงการนี้เป็นเพียงการเร่งระบายสต๊อก และ 3. อัดฉีดเงินกองทุนหมู่บ้านวงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท
(+) คมนาคมเตรียมเสนอโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สีเหลือง และสีชมพูเข้าครม. 29 มี.ค. น่าจะทำให้หุ้นในกลุ่มรับเหมาซึ่ง laggard ดูน่าสนใจขึ้นมาบ้างโดยเฉพาะผู้รับเหมารายใหญ่
(0) สถานการ์เอื้อมากขึ้นให้กนง.ลดดอกเบี้ย แม้เราจะคาดว่า กนง.จะคงดอกเบี้ยที่ 1.5% ในการประชุม 23 มี.ค.นี้ แต่ยอมรับว่าสถานการณ์ค่าเงินบาทที่เริ่มแข็งค่ามากกว่าประเทศคู่ค้าสำคัญๆเช่น เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย และมีแนวโน้มแข็งค่าต่อ ขณะที่ยังไม่มีแรงกดดันจากเงินเฟ้อ เปิดโอกาสให้กนง.ลดดอกเบี้ย หากลดดอกเบี้ย นอกจากกระตุ้นเศรษฐกิจ ยังดีต่อตลาดหุ้นโดยรวม รวมทั้งกลุ่มแบงก์ที่จะถูกชดเชยจากสภาพคล่องของลูกค้าที่ดีขึ้น
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 โดยได้หนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน ภายหลังตัวเลขการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯลดลง ทั้งนี้ ตลาดได้แรงกดดันระหว่างวันจากรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือน ก.พ.ที่ลดลง 7.1%
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดลบ จากหุ้นเหมืองแร่และสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลง
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสมโดยตลาดหุ้นส่วนใหญ่ยังเปิดในกรอบแคบ ยกเว้นตลาดญี่ปุ่นที่เปิดบวกแรงเนื่องจากได้แรงหนุนจากค่าเงินเยนอ่อนค่า
(0) ค่าเงินบาทแกว่งทรงตัวในกรอบแคบๆ โดยล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ 34.89-34.93 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ปิดบวก 0.47 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 39.91 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA รายงานว่าตัวเลขการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯลดลง 10,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 9.068 ล้านบาร์เรล/วัน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ร่วงลง 10.10 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,244.20 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และ แรงเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
22-มี.ค. - ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (มี.ค.)
23-มี.ค. - ไทย: กนง.ประชุม (ตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%), GTB เริ่มเทรด (ราคา IPO 1.15 บาท)
- ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (ก.พ.)
24-มี.ค. - ไทย: TPBI เข้าเทรด (ราคา IPO 10.80 บาท)
- ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ และอินเดีย ปิดทำการ
25-มี.ค. - ตลาดหุ้นสหรัฐ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อินเดีย ปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday
- สหรัฐ: 4Q15 GDP ตัวเลขสุดท้าย (ตลาดคาด +1% Q-Q)
28 มี.ค. - ไทย: ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิต (ก.พ.)
29-มี.ค. - สหรัฐ: ดัชีราคาบ้าน S&P/Case-Shiller
30-มี.ค. - สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (มี.ค.)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและผู้บริโภค (มี.ค.)
31-มี.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.พ.
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
1-เม.ย. - ตลาดหุ้นอินเดียปิดทำการ
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch