- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 21 March 2016 18:00
- Hits: 978
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวรับสำคัญ 1377
SET Index: 1382.53 เคลื่อนไหวออกด้านข้างต่อเนื่องเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ระดับ 1377 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1400 จุด แต่มีแรงขายทำกำไรออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 1377 จุดหรือต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันลงไป จะมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1340 จุด และมีแนวต้านสำคัญที่ 1390 และ 1402 จุดก่อนที่จะขึ้นต่อไปทดสอบ 1430 จุด
แนวต้าน : 1385 และ 1390
แนวรับ : 1380 และ 1377
PTTEP = 67.00 / 69.00, JAS = 3.54 / 3.64, ADVANC = 167 / 170, TASCO = 24.20 / 25.00, BDMS = 22.20 / 22.50
Thanapiriya (TNP TB; THB 1.54) - ซื้อ
แนวต้าน : 1.60 และ 1.68
แนวรับ : 1.54 และ 1.52
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคต่อเนื่อง พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นไป ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ TNP โดยมีแนวรับที่ 1.54 และ 1.52 และมีแนวต้านที่ 1.60 และ 1.68 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.48 ลงไป
Thai Solar Energy (TSE TB; THB 4.28) - ซื้อ
แนวต้าน : 4.44 และ 4.60
แนวรับ : 4.28 และ 4.24
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐาน ในขณะที่โครงสร้างในระยะยาวน่าจะผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นไปได้แล้ว
MACD ปรับตัวเพิ่มเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ TSE โดยมีแนวรับที่ 4.28 และ 4.24 และมีแนวต้านที่ 4.44 และ 4.60 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.14 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ปรับตัวทั้งแดนบวกและลบ
วันนี้ประเด็นที่ต้องติดตามคือ JAS จะวางเงินค่าประมูลคลื่น 900 ได้หรือไม่ หากวางได้น่าจะมีแรงขายหุ้นในกลุ่มสื่อสารอย่าง ADVANC DTAC และ TRUE ออกมาแต่คงไม่มาก แต่หากวางไม่ได้หุ้นสื่อสารจะขึ้นและจะนำตลาดขึ้น ส่วนการประชุม กนง. ตลาดคาดจะมีการคงดอกเบี้ยแต่ก็เริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้นที่จะลดดอกเบี้ยในครึ่งปีหลัง
ปัจจัยในต่างประเทศในอาทิตย์นี้ ยังไม่มีอะไรนอกจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ส่วนราคาน้ำมันอ่อนตัวลงหลังขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดที่ 42.5 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ แล้วไม่ผ่านมา โดยมีแรงกดจาก ค่าเงินดอลลาร์ที่ค่อยๆ แข็งตัวขึ้นและจำนวนหัวขุดเจาะในสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 13 สัปดาห์ เรามองว่าในสัปดาห์นี้ทิศทางราคาน้ำมันจะอ่อนตัวลง จากการขายทำกำไรหลังตลาดเริ่มกังวลเรื่องปริมาณการผลิตน้ำมัน Shale ในสหรัฐ จะกลับมาอีกครั้ง โดยราคาน้ำมันเบนรท์ดีดตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดในวันที่ 20 ม.ค. ถึงปัจจุบันที่ประมาณ 50 %
แรงกดดันหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ยังคงมาจากความกังวลเรื่องปัญหาภัยแล้ง ที่จะกระทบกับผู้ประกอบการ SME ซึ่งถือว่าเป็นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเป็นฐานสินเชื่อของธนาคารขนาดใหญ่ ขณะที่ตัวเลข การส่งออก-นำเข้า การลงทุนและการบริโภคภาคเอกชนและดัชนีภาคอุตสาหกรรม ส่อแววชะลอตัวรอบใหม่ ส่งผลให้คาดกันว่า อัตราการขยายตัวของสินเชื่อ อาจไม่โตตามเป้าที่วางไว้ นอกจากนั้นการคาดการณ์ว่าทาง ธปท. อาจจะพิจารณาลดดอกเบี้ย ก็ยิ่งจะเป็นตัวกดราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์
หากทิศทางเศรษฐกิจภายใน เริ่มมีแรงกดดันเพิ่มขึ้น มีความเป็นไปได้ที่แนวโน้มการทำกำไรของตลาดจะแย่ลง ซึ่งตอนนี้ดูได้สัญญาณล่วงหน้าจากค่า Earning revision ratio ที่กลับถอยลง เราจึงมองว่าทิศทางดัชนี SET ในช่วง เม.ย. ถึง พ.ค. เป็นเดือนที่ดัชนี น่าจะปรับตัวลงแรง แม้ประเด็นในต่างประเทศจะดีขึ้น ทั้งราคาน้ำมัน เม็ดเงินไหลเข้า และตัวเลขเศรษฐกิจประเทศหลักๆ เริ่มทรงตัว แต่ในส่วนของราคาน้ำมัน แม้จะมองว่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แต่โอกาสที่จะขึ้นแรงๆ ยังต้องใช้เวลา ขณะที่แนวโน้มช่วงสั้นน่าจะอ่อนตัวลงมามีสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนการไหลเข้าของเม็ดเงิน น่าจะมีกรอบจำกัด หลังต่างชาติขายทำกำไร จากมองว่ากรอบการขึ้นของตลาดหุ้นไทยอยู่ในกรอบจำกัด
แรงซื้อของต่างชาติในวันศุกร์ที่ 3,645 ล้านบาทหากหัก Big lot ออก จะเหลือต่างชาติซื้อประมาณ 1,000 ล้านบาทต้นๆ ซึ่งยังไม่เห็นการเปลี่ยนทิศทางมาเป็นการซื้อรอบใหม่ ทำให้เรามองว่าทิศทาง SET ในสัปดาห์นี้จะผันผวนแรงขึ้นจากแรงกดของราคาน้ำมันและการขาดปัจจัยหนุน โดยวันนี้มองดัชนีเปิดจะปรับตัวขึ้นในแดนบวกสลับมีแรงขาย จนดัชนีลงไปในแดนลบ โดยมองแนวต้านที่ 1390-1394 และแนวรับที่ 1375-1370 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BDMS
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,384.53 จุด เพิ่มขึ้น 1.57 จุด (+0.11%) มูลค่าการซื้อขาย 16,117.86 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวแคบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่หนุน ขณะที่ตลาดถูกกดดันจากกลุ่มสื่อสาร เนื่องจากรอดูเรื่องการชำระเงินคลื่นความถี่ 900 MHz ของ JAS ซึ่งครบกำหนดจ่ายภายในวันนี้ ติดตามการประชุมกนง. (23 มี.ค.)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย กลุ่มสื่อสารจะเป็นกลุ่มที่ชี้นำตลาดในช่วงสั้นๆนี้ โดยมีเงื่อนไขอยู่ที่การจ่ายเงินค่าใบอนุญาตของ JAS หากไม่จ่ายกรณีนี้จะเป็นผลบวกต่อราคา ADVANC, DTAC, TRUE แต่ถ้า JAS จ่ายเงิน ตลาดจะกลับกังวลเรื่องการแข่งขันในอุตสาหกรรมสื่อสารอีกครั้ง และน่าจะเกิดแรงขายหุ้นออกมาทุกตัวในกลุ่มมือถือ สำหรับภาพรวมอื่นๆ ตลาดน่าจะยังเน้นไปที่หุ้นค้าปลีก ขนาดกลางเล็ก-กลางที่ได้ประโยชน์จากมาตราการ ช้อปช่วยชาติครั้งที่ 2 กลุ่มนี้ตัวที่เราชอบจะเป็น JMART(รับ8.75/ต้าน 9.20,9.60), SYNEX (รับ 4.84/ต้าน 5.00), รวมถึงกลุ่มที่ผลการดำเนินงาน Q1/16 จะดี เราชอบ EPG(รับ12.9/ต้าน 13.5,14.60), BA(รับ 24.30/ต้าน 25.50,27.25), AAV (รับ 5.20/ต้าน 5.50,5.85)
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
Thai Solar Energy (TSE TB; THB 4.28) - ซื้อ
Thanapiriya (TNP TB; THB 1.54) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]