- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 17 March 2016 17:32
- Hits: 779
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มลงทดสอบ 1340-1350
SET Index: 1383.32 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันหลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1370 จุด แต่ยังสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ แต่เมื่อพิจารณาแรงขายทำกำไรหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1390 จุด จึงทำให้โอกาสในการปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านระดับ 1400 จุด เพื่อทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1430 จุดมีค่อนข้างน้อย ในขณะที่ความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงลุดระดับ 1378 จุดลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 1340 จุด เป็นจังหวะเข้าซื้อเก็งกำไร
แนวต้าน : 1385 และ 1388
แนวรับ : 1378** และ 1370
PTTEP = 72.50 / 74.00, KBANK = 170 / 173, JAS = 3.60 / 3.70, PTT = 274 / 278, ADVANC = 168 / 171
Krungthai Card (KTC TB; THB 85.25) - ซื้อ
แนวต้าน : 90.00 และ 91.00
แนวรับ : 85.00 และ 84.50
ราคาหุ้นฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 85.00 หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น แต่เมื่อพิจารณาโครงสร้างในระยะยาวที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ KTC โดยมีแนวรับที่ 2.28 และ 2.24 และมีแนวต้านที่ 2.40 และ 2.46-2.48 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 82.50 ลงไป
Nusasiri (NUSA TB; THB 0.62) - ซื้อ
แนวต้าน : 0.66 และ 0.68
แนวรับ : 0.62 และ 0.60
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือจุดต่ำสุดเดิม ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทดสอบระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ NUSA โดยมีแนวรับที่ 0.62 และ 0.60 และมีแนวต้านที่ 0.66 และ 0.68 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 0.58 ลงไป
SET50 Index Futures
S50H16 ฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 890 และ 894 เหนือแนวต้านสำคัญที่ 892 ขึ้นไปก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 890 ซึ่งเราคาดว่า การปรับตัวลดลงหลุดแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 900 ลงไปทำให้แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวรับสำคัญที่ 882 และ 870
แนวต้าน : 890 และ 894
แนวรับ : 884 และ 882
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short เอาไว้ที่บริเวณ 884-886 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 865-870 และมีแนวรับถัดไปที่ 850
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50H16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 894
JASH16
เคลื่อนไหวในกรอบแคบหลังจากฟื้นตัวกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 3.60 ในขณะที่โครงสร้างในระยะยาวยังมีโอกสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.00 และ 4.40-4.50 หลังจากทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นมาได้ และมีแนวรับสำคัญที่ 3.34-3.40 ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค
แนวต้าน : 3.70 และ 3.80
แนวรับ : 3.64 และ 3.60
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน JASH16 หรือ JASM16 ที่แนวรับ 3.60 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.80 และ 4.00
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า JASH16 ปรับตัวลดลงหลุด 3.50 หรือ 3.40 ลงไป
IRPCM16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 5.00 อีกครั้ง แต่ยังคงมีแรงขายทากำไรออกมาต่อเนื่องหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกลแนวต้านสำคัญของกรอบแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวที่ 5.20 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 4.60
แนวต้าน : 5.05 และ 5.10
แนวรับ : 4.80 และ 4.80
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ใน IRPCH16 หรือ IPRCM16 ที่แนวต้าน 4.90 เอาไว้ เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบ 4.60 เป็นจังหวะขายทำกำไร
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า IRPCM16 ปิดยืนเหนือระดับ 5.05 กลับขึ้นไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...Sideway
ดัชนี SET เริ่มที่จะแผ่วหลังมีแรงขายจากกองทุนในประเทศ จากการที่ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงและกรอบการขึ้นมีจำกัด นอกนั้นก็ไม่มีกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะเป็นแรงผลักดันดัชนีให้ขึ้นต่อ หากมาพิจารณาดูการเคลื่อนไหวของดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมเปรียบเทียบระหว่างปี 2015 กับปัจจุบันจะพบว่า 3 กลุ่มหลักที่ลงไปลึกในปี 2015 เริ่มมีการดีดตัวกลับในระดับมากกว่า 10% อย่าง ธนาคาร สื่อสาร พลังงาน ส่วนกลุ่มที่ดีดตัวขึ้นแรงในปี 2015 อย่าง ท่องเที่ยว ไฟแนนซ์ ดัชนีในปีนี้เริ่มอ่อนแรงจากแรงขายสลับออกมา ส่วนกลุ่มที่ยังสามารถขึ้นได้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 คือ ชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกค์ โรงพยาบาล และขนส่ง (การบิน) กลุ่มที่ถือว่าแย่ทั้ง 2 ปี คือ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์
ดัชนีกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ น่าจะเป็นกลุ่มใหญ่ที่ดัชนียังขึ้นไม่ได้ ถึงปัจจุบัน ซึ่งคงมีเหตุจาก ความกังวลภาพใหญ่ของอุตสาหกรรมโดยเฉพาะที่อยู่อาศัยและรับเหมา (ภาวะอุปทานส่วนเกิน กำลังซื้อหดตัวและความล่าช้าในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน) แม้รัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นแรงซื้อที่อยู่อาศัย แม้ภาพใหญ่ดูไม่ค่อยดี แต่ในหลายบริษัทในกลุ่มผู้สร้างบ้าน ผลการดำเนินงานใน Q4/15 ที่ออกมากลับออกมาดี ส่วนหุ้นรับเหมา ราคาหุ้นเริ่มดีดตัวหลังลงไปลึก การลงทุนในกลุ่มนี้อาจต้องพิจารณารายบริษัท หุ้นในกลุ่มสร้างบ้าน น่าจะเริ่มกลับมาคึกคักในช่วง Q2-Q3/16 จากแนวโน้มดอกเบี้ยของไทยมีสิทธิลดลงในครึ่งปีหลัง
ทิศทางดัชนี SET ที่เริ่มมีแนวโน้มว่าจะค่อยๆ อ่อนตัวลง กลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าจะรองรับความผันผวนได้ระดับหนึ่ง ยังคงเป็น กลุ่ม โรงพยาบาลโยงท่องเที่ยว นาโนไฟแนนซ์ ผลิตไฟฟ้า และอสังหาสร้างบ้าน ส่วนกลุ่มที่เริ่มมีความเสี่ยงจากแรงขาย คือ พลังงาน ธนาคารใหญ่ สื่อสารและปิโตรเคมี ส่วนกลุ่มเด่นที่สุดที่ดูจากค่า Earning momentum ถูกปรับขึ้นทั้งกลุ่ม คือ ชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกค์ โดยการลงทุนในกลุ่มนี้อาจต้องพิจารณาดูราคาหุ้นประกอบด้วย เนื่องจาก ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นรับข่าว สำหรับกลุ่มที่เพิ่งดีดตัวได้ท้ายสุดของตลาด คือ กลุ่มเดินเรือ หลังดัชนี BDI ค่อยๆปรับตัวขึ้น แม้ภาพอุตสาหกรรมเริ่มทรงตัว แต่อัตราการทำกำไรของหุ้นแทบไม่มี ส่งผลให้ค่า P/E พุ่งขึ้นสูงเกือบทุกตัว ดังนั้นราคาหุ้นจึงขึ้นได้กรอบจำกัด
ภาวะตึงตัวของตลาด ทั้งปริมาณการซื้อขาย กรอบการขึ้นของหุ้นใหญ่และกรอบดัชนี SET ดูได้จากรูปด้านขวา ที่ตอนนี้ดัชนี SET ขึ้นไปเล่นที่ค่า +2SD ปกติการขึ้นเหนือกรอบดังกล่าวจะอยู่ได้ไม่นาน เว้นแต่จะมีแรงซื้อหุ้นใหญ่เข้ามาหนักๆ ซึ่งตอนนี้แทบจะไม่มีแล้วหลังนักลงทุนต่างชาติเริ่มพักและสลับขายออกมา ภาพตรงนี้น่าจะทำให้ดัชนี SET ย่อตัวลงมา จะลึกหรือไม่ ต้องติดตามดัชนีตลาดหุ้นหลักๆ และราคาน้ำมัน
หลังการประชุม FOMC ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก ไม่มีปฎิกริยาเชิงบวกมากมาย หลัง FED ส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ 2 ครั้ง ส่วนราคาน้ำมันดีดตัวกลับหลังประเทศสมาชิกจะจัดประชุมในวันที่ 17 เม.ย. วันนี้มองดัชนี SET จะได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันแต่ไปได้ไม่มากจากแรงขายทากำไรหุ้นในกลุ่ม อื่นๆ โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1382-1386 จุด ส่วนแนวรับที่ 1370-1365 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BJCHI และ PTG
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,383.32 จุด เพิ่มขึ้น 5.52 จุด (+0.40%) มูลค่าการซื้อขาย 22,844.55 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้น โดยมีปัจจัยหนุนจากต่างประเทศทั้งผลการประชุมเฟดที่คงอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาด และลดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เหลือเพียง 2 ครั้ง(จากเดิม 4 ครั้ง) รวมถึงราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดบ่าย คาดแกว่งแคบ หาก SET ยังยืนเหนือ 1380 จุด เรามองการขึ้นของดัชนีในช่วงเช้าเป็นการรีบาวด์รับข่าวบวกจากต่างประเทศทั้งผลการประชุมเฟด และราคาน้ำมัน เรามองตลาดยังมีความเสี่ยงถูกขายทำกำไรหลังขาดปัจจัยใหม่มาหนุน บ่ายมองแนวรับ 1380-1370 จุด แนวต้าน 1390-1400 จุด
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
Krungthai Card (KTC TB; THB 85.25) - ซื้อ
Nusasiri (NUSA TB; THB 0.62) - ซื้อ
Turnover List Preview (Cash Balance) : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : UMS* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]