- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 14 March 2016 18:48
- Hits: 1013
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : แกว่งกรอบ 1380-1405
ตลาดไทยวันนี้มีเเนวโน้มจะเเกว่งในกรอบจำกัด ปัจจัยกดดันคือ valuation ที่ค่อนข้างแพงของตลาดและราคาน้ำมันที่ย่อลงเล็กน้อย หลังอิหร่านประกาศจะเพิ่มกำลังการผลิตต่อไปในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม ตลาดจะยังคงทรงตัวได้ค่อนข้างดี ด้วยแนวรับสำคัญ 1380 เนื่องจากสัปดาห์นี้มีการประชุมทั้งธนาคารกลางญี่ปุ่นและสหรัฐ ซึ่งอาจมีข่าวดีมาหนุนตลาดเพิ่มเติมจาก ECB ในสัปดาห์ที่แล้ว คงคำแนะนำลงซื้อ ขึ้นขาย โดยทยอยขายทำกำไรเมื่อดัชนีใกล้ 1400 จุด
แนวรับ/แนวต้าน : 1380/1400 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%
กลยุทธ์ : ทยอยขายทำกำไรหุ้นที่ขึ้นมามากแล้ว เช่น กลุ่มแบงก์และสื่อสาร เก็บสะสมหุ้นกลุ่มรับเหมา พลังงานปลายน้ำ อสังหาฯ อาหาร และวัสดุก่อสร้าง ที่ราคาไม่แพงและมีพื้นฐานดี มี story หนุนเป็นรายตัว
นักลงทุนระยะสั้น : CI (2.80), CPF (27)
CI (2.80) โดยเราคาดว่าจะได้ประโยชน์จากการตั้งกอง REIT โครงการศรีพันวามูลค่า 1 พัน 4 ร้อยล้านบาท และมีรายได้และกำไรโตก้าวกระโดดในไตรมาส 4 ปี 58และไตรมาส 1 ปี 59 รวมไปถึงทั้งปี 59 จากการโอนคอนโดและโครงการบ้านเดี่ยวตามนโยบายกระตุ้นการโอนของรัฐบาลในปีนี้
CPF (27) ราคาหุ้นผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและจะกลับมาดีขึ้นในปี 59 เพราะ (1) ราคาเนื้อหมูและไก่ฟื้นตัว (2) ราคากากถั่วเหลืองซึ่งเป็นต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์มีแนวโน้มทรงตัวหรือลดลง (3) ปัญหา EMS ในกุ้งคลี่คลายไปเยอะแล้วในไตรมาส 4 ที่ผ่านมาและต้นทุนธุรกิจกุ้งลดลงจากการลดขนาดโรงงานแปรรูปกุ้ง ธุรกิจนี้จึงมีแนวโน้มกลับมาเป็นกำไรปีนี้หลังจากขาดทุนไปเยอะเมื่อปีก่อน แนะนำหุ้น CPF สำหรับทั้งเล่นสั้นและถือยาว
นักลงทุนระยะยาว : CK (34), SCC (630)
CK (34) (1)Mega projects เช่นรางคู่และการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มจะช่วย earnings ให้เติบโตสูง 15% ในปี 2559 (2)การควบรวมกิจการของบริษัทลูก BMCL & BECL (3)นอกจาก projects ของรัฐบาลยังมีโครงการของบริษัทลูก เช่น CKP มีโครงการน้ำบาก (Hydroelectric dam) ในประเทศลาว 1หมื่น7พันล้านบาท กำลังเจรจาน่าจะเซ็นสัญญา Q1 ปี 2559 (4)Q3 & Q4 ของปี 2558 sale & earnings ไม่ค่อยดี แต่โครงการ mega projects จะชัดเจนมากขึ้นปี 2559 ทั้งการประมูลและการก่อสร้างจริง ดังนั้นช่วงนี้เป็นโอกาสดีในการเริ่มเก็บสะสม CK
SCC (630) ผลิตภัณฑ์ olefins ยังคงมี demand แข็งแกร่งทำให้มี spread สูงใกล้เคียง 700 ดอลล่าห์ต่อตันในปีนี้ ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ย 400 ดอลล่าห์ต่อตันในปีที่แล้ว นอกจากนี้กำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นหลัง Chandra Asri Cracker ในอินโดนีเซียเสร็จสิ้นกระบวนการปรับปรุงระบบการผลิตในปีนี้ ประกอบกับเราคาด demand ปูนซีเมนต์จะเติบโต 3-4% yoy ปีนี้เทียบกับ 0% ในปีที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐโดยตรง บวกกับโรงปูนใหม่ที่กัมพูชาและอินโดนีเซียจะช่วยดันยอดขายและกำไรให้โตไม่ต่ำ 17% ในปีนี้อีกด้วย
นักวิเคราะห์ : ยศพณ แสงนิล, CFA Email : [email protected] Tel: 02 659 8154