- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 14 July 2014 14:39
- Hits: 2158
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET ยังขยับขึ้นต่อเนื่องซึ่งยิ่งเพิ่มความเสี่ยง ดังนั้นยังน่ารอซื้อลบดีกว่า
กลยุทธ์ : SET ขยับขึ้นมาใกล้ระดับดัชนีเป้าหมายที่ FSS คาดว่าจะมีแรงขายออกมากดดันให้ตลาดมีรอบปรับพักตัวลงในกรอบใหญ่ได้ ดังนั้นช่วงถัดจากนี้ถ้าจะเทรดดิ้งช่วงบวกยิ่งต้องเน้นเข้าเร็ว-ออกไว แต่ถ้าจะให้ดีเราแนะนำให้รอซื้อเฉพาะช่วงตลาดย้อนลงไปเลยดีกว่า ส่วนพอร์ตลงทุนแนะนำให้เริ่มมองหาจังหวะขายเพื่อปรับพอร์ตที่ระดับดัชนี 1520 จุดหรือสูงกว่าขึ้นไปได้ เพื่อรอจังหวะเลือกหุ้นกลับเข้าซื้อใหม่อีกครั้งในรอบปรับพักที่คาดว่ากำลังจะมา
หุ้นเด่นทางเทคนิค : NOK, SVI, TTCL(short)
แนวโน้ม : ในช่วงท้ายสัปดาห์ที่แล้ว SET ปิดทำการ 1 วัน ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดทำการปกติ ซึ่งแม้ว่าดัชนีดาวโจนส์จะมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนไปบ้าง แต่ก็ถือว่ายังอยู่ในลักษณะแกว่งทรงตัวได้ค่อนข้างดี และปิดขยับบวกขึ้นมาในคืนวันศุกร์ได้เล็กน้อย ถึงแม้ว่าจะยังมีปัญหาด้านการเงินของธนาคารในโปรตุเกสกดดัน แต่นักลงทุนกลับให้ความสำคัญกับการรายงานผลประกอบการของบริษัทเอกชนต่างๆ มากกว่า ซึ่งช่วยฉุดให้ตลาดหุ้นยุโรปเริ่มพลิกฟื้นกลับขึ้นมาได้ด้วย ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังอยู่ในช่วงรีบาวด์ขึ้นต่อเนื่องอีก ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนให้ SET ยังมีแรงบวกต่อได้ โดยเฉพาะแรงซื้อของต่างชาติที่ยังมีเข้ามาต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามกรอบการขึ้นที่ค่อนข้างจำกัดของตลาดหุ้นในเอเชีย และแรงขายทำกำไรที่ยังมีให้เห็น ทำให้ FSS ยังแนะนำให้เทรดดิ้งโดยระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นกดดันด้วย ซึ่งเรามองว่ารอซื้อช่วงตลาดย้อนลงน่าจะปลอดภัยกว่า
แนวรับ 1516-1515 , 1512-1508 จุด แนวต้าน 1519-1520 , 1524-1526 จุด
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนยังไหลเข้าภูมิภาค (ตลาดหุ้นไทยหยุดทำการ) โดยไหลเข้ามากที่สุดในตลาดอินโดนีเซีย US$253 ล้าน หลังนักลงทุนคลายกังวลสถานการณ์กลุ่มการเงินในโปรตุเกส รวมทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเงินทุนไหลเข้าในปริมาณที่มากขึ้นรวมกว่า US$2 พันล้าน ค่าเงินบาทปิดแข็งค่าที่สุดในรอบ 3 เดือนที่ 32.14 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มกระแสเงินทุนน่าจะยังไหลเข้าภูมิภาค โดยมีปัจจัยเรื่องการเก็งกำไรผลประกอบการ และรายงานเศรษฐกิจของประเทศสำคัญซึ่งคาดว่าน่าจะออกมาดี
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) คสช.คาดทูลเกล้าฯรัฐธรรมนูญปกครองชั่วคราว ก.ค. นี้ และตั้งรัฐบาลใหม่ภายใน ก.ย. นี้ หากมีรัฐบาลใหม่น่าจะยิ่งช่วยเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติได้และอาจมีการยกเลิกประกาศใช้กฎอัยการศึกซึ่งจะยิ่งเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยว
(-) รฟท.เลื่อนประมูลโครงการรถไฟทางคู่จาก 15 ก.ค. ไปไม่มีกำหนด ราคาหุ้น ITD, CK, STEC, UNIQ ซึ่งเป็น 4 ใน 6 ผู้รับเหมาที่จะเข้าประมูลโครงการนี้ปรับลงเฉลี่ย 2.9% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หากอิงราคาหุ้นหลังเลื่อนประมูลครั้งแรกเมื่อ 23 มิ.ย. ที่ร่วงเฉลี่ย 3.7% กินเวลา 6-7 วันก่อนกลับมาเก็งกำไรใหม่ ราคาหุ้นกลุ่มนี้จึงน่าจะมี downside แต่ครั้งนี้อาจซึมยาวจนกว่าจะมีข่าวประมูลใหม่เพราะโครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 และรถไฟฟ้าสายสีเขียวมีแนวโน้มเลื่อนเช่นกัน ITD และ UNIQ เสี่ยงมากกว่าเพราะราคาหุ้นยังสูงกว่าช่วงก่อนเก็งกำไรข่าวรถไฟทางคู่ ส่วน CK (เป้าหมายปีนี้ 24.50 บาท) และ STEC (เป้าหมายปีนี้ 27.50 บาท) ปลอดภัยกว่า พื้นฐานแข็งแรงกว่า
(+) เข้าสู่เทศกาลประกาศผลประกอบการ 2Q14 หลังจาก TISCO รายงานกำไรเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (+6% Q-Q, -15% Y-Y ตรงตามคาด) สัปดาห์นี้จะเป็นธนาคารอื่นๆ ซึ่งเราคาดว่า SCB และ TMB จะมีกำไรเด่นสุด แต่ระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นหลังประกาศงบ เพื่อวนเข้า Real sector ที่จะประกาศต่อไป โดยศุกร์นี้จะมี DTAC (กำไรลดเพราะ low season) และปลายเดือนมี SCC, PTTEP, GLOW, DCC (SCC กับ PTTEP กำไรดีขึ้น)
(+) กลุ่มที่อยู่อาศัยขยับขึ้นมาอย่างโดดเด่นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตามแรงเก็งกำไร Presales และผลประกอบการ 2Q14 ที่ฟื้นตัว ราคาหุ้นส่วนใหญ่เกินและเกือบเต็มมูลค่าพื้นฐานของปีนี้ไปแล้ว Top pick ของเรายังคงเป็น SPALI แต่ระยะสั้นคิดว่า LH และ LPN น่าสนใจกว่าเพราะราคาหุ้น laggard ทั้ง YTD และ MTD
(+) FPI เราคาดกำไรใน 2Q14 จะกลับมาฟื้นตัวแข็งแกร่ง +47% Q-Q, +13% Y-Y จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และมีคำสั่งซื้อบางส่วนที่เลื่อนมาจากไตรมาสก่อน เราปรับกำไรสุทธิปีนี้ขึ้น 7% เป็นเติบโต 24% Y-Y ปัจจุบัน FPI อยู่ระหว่างก่อสร้างคลังสินค้าใหม่คาดแล้วเสร็จปลายปีนี้ ทำให้ขยายกำลังการผลิตได้มากขึ้น เราคาดกำไรปีหน้าจะโตโดดเด่น 26% Y-Y ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 13 บาท แนะนำซื้อ (จากเดิมขาย)
(0) คาดการณ์กำไรกลุ่มหลักทรัพย์ กำไรใน 2Q14 น่าจะฟื้นแข็งแกร่ง 47% Q-Q จากมูลค่าซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเป็น 36,902 ล้านบาทต่อวัน เพิ่ม 35% Q-Q และมีหุ้น IPO 9 บริษัท รวมมูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาท สูงกว่า 1Q14 ที่มี 4 บริษัท มูลค่าเพียง 4.5 พันล้านบาท แต่กำไรในไตรมาสนี้ลดลง 26% Y-Y ตามมูลค่าซื้อขายที่ลดลง เราคาด ASP มีกำไรเด่นกว่ากลุ่ม (+101% Q-Q, -21% Y-Y) เพราะส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น และมีหุ้น IPO 3 ตัว เทียบกับไตรมาสก่อนที่ไม่มี แต่แนะนำเพียงเก็งกำไรผลประกอบการ เพราะราคาเกินพื้นฐานที่ 3.43 บาท คาด ASP ปันผลระหว่างกาล 0.08 บาท/หุ้น (yield 2.2%) น้ำหนักการลงทุนของกลุ่ม เรายัง Underweight คาดกำไรของกลุ่มในปีนี้จะลดลง 35% Y-Y ตามมูลค่าซื้อขายที่คาดลดลง 15% Y-Y
ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาขยับขึ้นได้เล็กน้อย 28.74 จุด โดยตลาดให้น้ำหนักกับการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่จะเริ่มประกาศมากขึ้นในสัปดาห์นี้
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ปิดในกรอบแคบๆ โดยตลาดเริ่มคลายความกังวลเรื่องปัญหาด้านการเงินของธนาคารในโปรตุเกสที่เป็นสาเหตุให้ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลงแรงในวันก่อนหน้า
ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้เช่นกันหลังนักลงทุนคลายความกังวลต่อปัญหาการเงินของธนาคารใหญ่ในโปรตุเกสและจับตาดูผลประกอบการของบริษัทจดเทียนมากขึ้น
ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกทางข้างหลังจากแข็งค่าแรงในช่วง 2 วันก่อนหน้า โดยล่าสุดแกว่งอยู่ในกรอบ 32.07-32.20 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ร่วงแรง 2.10 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยปิดที่ 100.83 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันหลังมีรายงานว่าสถานการณ์ด้านอุปทานน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางนั้นไม่มีอะไรน่ากังวล
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ขยับลง 1.80 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,337.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังความกังวลเรื่องฐานะการเงินของธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของโปรตุเกสเริ่มคลี่คลายลง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
14 ก.ค. - ไทย: กลุ่มธนาคารทยอยประกาศผลประกอบการ
- ยูโรโซน: Industrial Production (พ.ค.)
15 ก.ค. - ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (ก.ค.)
16 ก.ค. - จีน: 2Q14 GDP
- สหรัฐ: PPI (มิ.ย.), รายงาน Beige Book
17 ก.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (มิ.ย.)
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (มิ.ย.)
- ยูโรโซน: เงินเฟ้อ (มิ.ย.)
22 ก.ค. - สหรัฐ: เงินเฟ้อ (มิ.ย.), ยอดขายบ้านเก่า (มิ.ย.)
23 ก.ค. - ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)
24 ก.ค. - ไทย: ดุลการค้า (มิ.ย.)
- จีน: HSBC China Manufacturing PMI (ก.ค.)
- เกาหลีใต้: 2Q14 GDP
- ญี่ปุ่น: ดุลการค้า (มิ.ย.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (มิ.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852