- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 11 March 2016 17:13
- Hits: 588
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ไซด์เวย์ รอปัจจัยเพิ่มเติมสัปดาห์หน้า
KGI คาด SET วันศุกร์แกว่งแคบ (วานนี้หุ้น ผิดทาง) คาดมาตรการชุดใหญ่ของ ECB ที่ประกาศเมื่อคืน (ลดดอกเบี้ย เพิ่มปริมาณ QE และปล่อยกู้ภาคธนาคารโดยตรง) จะมีผลบวกไม่มากในช่วงสั้น เพราะค่าเงินยูโรกลับแข็งค่าหลังประธาน ECB ชี้ว่าอาจไม่ลดดอกเบี้ยอีกต่อไป ด้านฟันด์โฟลว์ยังเป็นบวกแต่ไม่น่าแรง รอผลประชุม BoJ และ US Fed วันที่ 15 มี.ค. และ 16 มี.ค. ตามลำดับ นอกจากนี้หุ้นกลุ่มหลักจะผันผวนมากขึ้น ในส่วนของหุ้นน้ำมันอาจได้รับผลจากกระแสข่าวว่าการประชุมผู้ผลิตน้ำมันในวันที่ 20 มี.ค. อาจไม่เกิดขึ้นหลังอิหร่านไม่ตอบรับเข้าร่วมประชุม ขณะที่หุ้นสื่อสารยังเทรดบนความไม่ชัดเจนว่าอุตฯ มือถือจะมีผู้เล่น 3 หรือ 4 ราย จากปัจจัยต่างๆ ผนวกกับ valuations หุ้นที่สูงขึ้น เราแนะนำให้น้ำหนักกับหุ้นขนาดกลางและเล็กมากขึ้น
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
Dividend yield hunting: JASIF, RP / เก็งกำไร ASEFA, KTB*
หุ้นปันผลสูง (JASIF, RP) เราประเมินหุ้นปันผลสูง ความเสี่ยงต่ำมีโอกาสที่จะ Outperform ตลาดฯในภาวะดอกเบี้ยต่ำ (ทั่วโลก) และสำหรับประเทศไทยเอง นักเศรษฐศาสตร์ ของเคจีไอประเมินที่ประชุม กนง วันที่ 23 มี.ค. จะคงดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำต่อไป และมีโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยนโยบายลงสำหรับการประชุมในเดือน พ.ค.-มิ.ย. (กรณีที่สถานการณ์เศรษฐกิจยังอ่อนแอจากภาวะภัยแล้ง)
i) JASIF (เป้า Consensus 11.85 บาท) 1) Consensus คาดปันผลปี 2559 = 0.956 บาท/หุ้น (Dividend yield 10.5%) 2) คาดปัจจัยกดดันราคาที่ผ่านมาเริ่มลดลง (กังวล กสทช ยึดใบอนุญาติ ซึ่ง กสทช ออกมาให้ข่าวแล้วว่าจะไม่มีการยึดตามที่เป็นข่าวก่อนหน้า) 3) ประเมินแนวรับ 9 บาท / แนวต้าน ±9.6 บาท ... (ตอนนี้ yield สูงกว่า DIF นักลงทุนอาจขาย DIF เปลี่ยนตัวเล่นมา JASIF)
ii) RP (ยังไม่มี Consensus) 1) ประกาศปันผล 0.82 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 19 เม.ย. (Dividend yield 8.3%) 2) แนวโน้มธุรกิจท่าเรือของ RP โตตามภาคการท่องเที่ยว 3) ประเมินแนวรับ 9.6 บาท / แนวต้าน 10.4 บาท ถัดไป 11 บาท
ASEFA (เป้าพื้นฐาน 7 บาท) 1) ประเมินแนวต้าน 6.2 บาท แนวรับ 5.8 บาท 2) ในเชิงพื้นฐานเราประเมินธุรกิจหลักงานระบบไฟฟ้าเป็นขาขึ้นต่ออีก 2 – 3 ปี เป็นอย่างน้อยตามงานภาครัฐฯ (รถไฟฟ้า, สุวรรณภูมิเฟส 2 ฯลฯ) และงานภาคเอกชน (พลังงานทดแทน, โรงงานอุตสาหกรรมฯ, 4G + Datacenter) โดยวานนี้ผู้บริหารเผย Backlog ตอนนี้ 1.7 พันล้านบาท และอยู่ระหว่างการประมูลงานใหม่อีก 2 – 3 พันล้านบาท (ปีที่แล้วรายได้ 2.5 พันล้านบาท) ขณะที่ธุรกิจเสริมอย่างงานรื้อถอนโรงไฟฟ้าบางปะกง คาดราคาเหล็กในตลาดโลกและในไทยที่ปรับขึ้นในขณะนี้จะเป็นบวกต่อมูลค่าการขายเศษเหล็กจากการรื้อถอน (คาดปีนี้เหลือให้ขายอีก 200 – 250 ล้านบาท)
KTB* (เป้าพื้นฐาน 20.7 บาท) 1) เป็นแบงก์ใหญ่ที่จ่ายปันผลปีละครั้ง และของรอบปี 2558 ยังไม่ประกาศจ่าย คาดประกาศใน 1 – 2 สัปดาห์นี้) คาดจ่าย ±0.9 บาท/หุ้น (Dividend yield 4.9%) 2) วานนี้หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ ฟื้นตัวจากประเด็นเรื่องรัฐบาลการเตรียมใช้มาตรา 44 ปลดล๊อกการประมูลโครงการลงทุนต่างๆ โดยไม่ต้องรอผ่าน EIA (เป็นปัจจัยถ่วง ที่ทำให้การประมูลฯล่าช้า) คาดเป็น Sentiment บวกมาที่ KTB* ที่เป็นแบงก์รัฐฯ (เป็นแบงก์ที่ปล่อยสินเชื่อให้โครงการภาครัฐฯ) 3) รูปแบบแกว่งตัว Sideway up ในกรอบ 18 – 19 บาท (หากผ่าน 19 บาทได้ ประเมินแนวต้านถัดไป ±19.6 บาท)
หุ้นในกระแส
กลุ่มรับเหมาฯ (CK*, STEC*) ราคาหุ้นเริ่มฟื้นตัว จากประเด็นภาครัฐฯเตรียมใช้มาตรา 44 ปลดล๊อก ให้การประมูลฯไม่ต้องรอ EIA แนะนำ “เก็งกำไร” CK* และ STEC*
กลุ่มพลังงานทดแทน (IFEC, SUPER, PSTC, UWC, ASEFA, QTC) คาดเปิดจับสลากโครงการโซลาร์ส่วนราชการได้ในเดือน เม.ย. (เลื่อนมาจากเดือน ธ.ค.) และกำหนด COD เป็นช่วงเดือน ธค.59 (เลื่อนจาก ก.ย.59) โดยที่ประชุม กพช วันที่ 11 มี.ค. จะพิจารณาหลักเกณฑ์ใหม่ (หลังมีการเว้นกฏหมายผังเมือง) คาดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานทดแทน (IFEC, SUPER, PSTC, UWC) และตัวที่จะได้อานิสงส์งานระบบไฟฟ้าอย่าง ASEFA และ QTC เป็นต้น
หุ้นรับภัยแล้ง (TSR, FVC) จากประเด็นเรื่องภาวะภัยแล้งในขณะนี้ ส่งผลให้บางพื้นที่ (ใกล้ทะเล) คุณภาพน้ำประปาอาจลดลง (ไม่มีน้ำเพียงพอผลักดันน้ำเค็ม) เราประเมินจะเป็น Sentiment บวกต่อธุรกิจเครื่องกรองน้ำอย่าง TSR (สำหรับบ้านเรือน) และ FVC (สำหรับธุรกิจ)
หุ้นมีข่าว
(+) DTAC* จูบปาก ADVANC* ให้ลูกค้า 2G ใช้คลื่น 1800MHz (ประชาชาติธุรกิจ) DTAC เปิดเผยลงนามสัญญาในการเปิดโรมมิ่งสำหรับการบริการทั้งเสียงและข้อมูลบนคลื่น 1800MHz สำหรับลูกค้า 8 ล้านรายบนระบบ 2G ของ ADVANC โดยพร้อมตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. 2016 เป็นต้นไป ประเด็นนี้เป็นบวกต่อทั้ง ADVANC ในด้านที่จะไม่สูญเสียลูกค้า 2G หลังจากคลื่น 900MHz ถูกระงับ ขณะที่เราคาดว่า DTAC จะได้รับส่วนแบ่งรายได้ประมาณ 250 ล้านบาทต่อเดือน หรือ 3 พันล้านบาทต่อปี คิดเป็นเพียงประมาณ 3% ที่เพิ่มขึ้นบนรายได้ที่คาดการณ์ในปี 2016 ซึ่งเราคาดว่าข้อตกลงนี้จะมีอยู่ตลอดไป เพราะเชื่อว่า ADVANC จะโอนเลขหมาย 2G เหล่านี้ไปสู่ระบบ 3G หรือ 4G ในที่สุด ดังนั้นเรายังคงราคาเป้าหมายของเราคำแนะนำสำหรับ ADVANC "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 203 บาท และ DTAC "ขาย" ราคาเป้าหมาย 24 บาท
(+) ภาครัฐเตรียมออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯอีกรอบ รมว.คลังระบุพร้อมออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯอีกรอบภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยมาตรการดังกล่าวเชื่อว่าจะประกอบด้วย โครงการบ้านประชารัฐเพื่อประชาชนที่มีรายน้อย และ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับทั้งผู้ซื้อบ้านที่มูลค่าต่ำกว่า 1.5 ลบ. และผู้พัฒนารวม 7 หมื่นลบ. โดยสินเชื่อสำหรับผู้ซื้อจะได้รับดอกเบี้ยต่ำเพียง 0% ในปีแรกหรือผ่อนต่ำเพียง 3000 บาทต่อเดือน (กรุงเทพธุรกิจ) ในมุมมองเราเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยลดปัญหาการปฎิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้น้อย มาตรการดังกล่าวจะช่วยเร่งการโอน เพิ่มความสามารถในการซื้อ และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แกผู้ประกอบการ อย่างไรก็ดีเรามองว่าแม้มีมาตรการกระตุ้นดังกล่าวมุมมองเราต่อตลาดระดับล่างยังคงเป็นเหมือนเดิมคือลงทุนด้วยความระมัดระวังเนื่องจากมีความเสี่ยงทั้งในส่วนของรายได้จากผู้ซื้อที่อาจได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าเกษตรและปัญหาภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง
(+ กลุ่มรับเหมาฯ) เปิดท่อลงทุนล้านล้าน (โพสต์ทูเดย์) รัฐบาลอ้างคำสั่งปลดล็อกอีไอเอ สามารถเริ่มก่อสร้างโครงการเร่งด่วน มูลค่า 1.8 ล้านล้าน ภายในปีนี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 9/2559 จะทำให้โครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเร่งด่วน 20 โครงการ มูลค่ารวม 1.796 ล้านล้านบาท สามารถเริ่มก่อสร้างทุกโครงการได้ภายในปีนี้
(+ JASIF) กสทช.ยันแจสทิ้ง4G ไม่กระทบธุรกิจ3BB ซื้อหุ้นคืน 5 บาทไม่ขัดกฎหมาย (ข่าวหุ้น) “หมอลี่” น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา คณะกรรมการ กสทช. ยันหาก JAS ทิ้งใบอนุญาต 4G จะไม่กระทบกับธุรกิจเดิม เช่น “ทริปเปิลที อินเทอร์เน็ต” หรือ 3BB เหตุเป็นคนละนิติบุคคล แต่ยังไม่มีใครรู้ว่า JAS จะดำเนินการอย่างไรต่อ ด้านวงในเผยราคารับซื้อหุ้นคืนประมาณ 5 บาท ทำได้ ไม่ขัดทั้งกฎหมาย และเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ ส่วน JASIF รับรางวัลดีลแห่งปี
(+) PLANB เนื้อหอม! กองทุนเข้าเพียบ บัวหลวงถือ 8.32% (ข่าวหุ้น) หุ้น PLANB เสน่ห์แรงกองทุนต่างๆ แห่เข้าถือหุ้นเพิ่มขึ้นเพียบปิดสมุด ล่าสุด “บลจ.บัวหลวง” ถือเพิ่มเป็น 8.32% จากเดิมถือเพียงแค่ 1% เชื่อไตรมาส 1/59 เติบโตต่อเนื่อง จับตากำไรทั้งปี 570 ล้านบาท
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
IFEC (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) แนะนำ “สะสม” ระยะสั้นพิจารณาที่แนวต้าน 7.5 บาท (แนวต้านเทรนไลน์ขาลง) หากผ่านได้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป ±9 บาท แนวรับ 7.25 บาท ... เช้านี้ประกาศปันผล 0.12 บาท/หุ้น (XD 29 มี.ค.) เตรียมนำเสนอแผนฟื้นฟูฯ รร ดาราเทวี ต่อศาลล้มละลายกลาง และนัดพิจารณาวันที่ 28 มี.ค.นี้ (จบการ Hair cut หนี้ที่เหลือ) + รอข่าวดีเร็วๆนี้ เรื่องการซื้อธุรกิจโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม
SMT (เป้าพื้นฐานเบื้องต้น 13 บาท ... ไม่รวม Upside จากการประกอบแผงโซลาร์เซลล์) แนะนำ “ซื้อสะสม” สำหรับนักเก็งกำไรสั้น พิจารณาที่แนวต้านสั้น 13.6 บาท หาก Breakout ผ่านได้ แนะ “เก็งกำไร” มีโอกาสทดสอบแนวต้าน ±15.5 บาท ... คาดกำไรไตรมาสแรกไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท
COM7 (เป้าสูงสุด Consensus 7 บาท) ราคาหุ้น Sideway บีบกรอบแคบ ในกรอบแนวรับ 6 บาท แนวต้าน 6.20 บาท หากดีดพ้น 6.20 บาท จะเป็นการ Break ขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 6.85 บาท (Stop loss 5.9 บาท) ... คาดกำไรปีนี้โตเด่นจากอัตรากำไร iPhone ที่เพิ่มขึ้น
VIBHA (เป้า Consensus 2.65 บาท) กรอบแนวรับ – แนวต้าน 2.24 – 2.40 บาท หากดีดพ้นแนวต้าน 2.40 บาทได้ จะเป็นการ Breakout ขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ±2.80 บาท ... Valuation ถูกกว่ากลุ่มโรงพยาบาล (PE, EV/EBITDA ต่ำกว่ากลุ่มฯ 10-15%)
VGI* (เป้าสูงสุด Consensus 5.2 บาท) แนะนำ “ซื้อสะสม” บริเวณ ±4.40 บาท ... ผลการดำเนินงาน Bottom out
TMC (เป้าพื้นฐาน 3.0 บาท) พิจารณาที่แนวต้านหลัก 2.30 บาท หากผ่านได้จะเป็นการ Breakout ขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไป 2.6 – 2.8 บาท ... ปีนี้ Turnaround ได้พันธมิตรใหม่ + เตรียมล้างขาดทุนสะสมจ่ายปันผล (คาดจะเอาส่วนเกินทุนมาล้างขาดทุนสะสม)
TVO (เป้าพื้นฐาน 28.5 บาท) ประกาศปันผล 0.9 บาท/หุ้น (Dividend yield 3.8%) มากกว่าที่คาดไว้ที่ 0.8 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 22 มี.ค.
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
CBG* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 37.5 บาท (ปรับลงจาก 48.5 บาท) ฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการฯลง 10% จากค่าใช้จ่ายในการขายที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น (อยู่ระหว่างการขยายช่องทางการขาย) ทำให้ Upside มีไม่มากจึงปรับคำแนะนำลงเป็น “ถือ”
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘นัยสำคัญสั้นที่ 1379 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1379 จุด อาจปรับราคาลงในกรอบ 1379-1359 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือรับ 1379 จุดนั้น อาจปรับฐานจบและผลักขึ้นในกรอบ 1379-1398 จุด
แนวรับวันนี้: 1372/1364 แนวต้านวันนี้: 1386/1395
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]