WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CSG copyบล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'ลงแรงอยู่'
  SET ปิดปรับลดลงรุนแรง ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ จากความกังวลต่อปัญหาการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก หลังญี่ปุ่นรายงานตัวเลข GDP และจีนรายงานตัวเลขการส่งออกหดตัว สร้างแรงขายในหุ้นนาดใหญ่ ปิดทำการ SET index ปิดที่ 1,374.62 จุด ลดลง 21.13 จุด

 

ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
  (+) ความหวังต่อการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของยุโรป ทั้งในส่วนของการขยายวงเงิน QE และการปรับลดดอกเบี้ยในการประชุม ECB วันที่ 10 มี.ค.
  (+) ครม. เร่งเดินหน้าขยายการลงทุนเพื่อรักษาการขยายตัวของเศรษฐกิจให้ได้ตามเป้า ชดเชยปัญหาแล้งและการส่งออกที่หดตัว
  (+) Fund Flow ต่างชาติมี Net Buy ต่อเนื่อง เป็นวันที่ 5 มูลค่า 6 ร้อยล้านบาท รวม 5 วันมี Net Buy 1.5 หมื่นล้านบาท
  (-) Moody ปรับประมาณการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลง จากราคา Commodity ที่อยู่ในระดับต่ำ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
  (-) ราคาน้ำมันปิดปรับตัวลดลงจากความกังวลต่อเศรษฐกิจจีน และการคาดหมายการเพิ่มขึ้นของสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐ
  (-) ความกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนหลังการรายงานตัวเลขการส่งออกเดือนก.พ. หดตัว -20.6%YoY
  (-) BOT ส่งสัญญาณการปรับลด GDP ในประเทศปี 59 ลงจากเป้าหมายเดิมที่ 3.5% จากปัญหาภัยแล้ง และภาพรวมเศรษฐกิจโลก
  (+/-) ประเด็นการประมูล 4G ยังคงสร้างความผันผวนต่อ SET จากความไม่แน่นอนต่อการชำระเงินของ JAS

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
  * การประชุม ECB ในวันที่ 10 มี.ค.
  * แนวโน้มราคาน้ำมันก่อนการประชุมระหว่าง OPEC และ Non-OPEC ช่วงกลางเดือน
  * การประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ต่อโครงการ Solar ราชการ และการเปิดประมูล PPA ใหม่

กลยุทธ์การลงทุน 'เน้นปลอดภัย'
  คาดหมายการเคลื่อนไหวทรงตัวมากขึ้นของดัชนีในวันนี้ เน้นทางขาย หลังการปรับตัวลดลงรุนแรงวันก่อน และการรอดูสถานการณ์ของการประชุม ECB ของนักลงทุนว่าจะมีการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับใด ด้านในประเทศมีความผันผวนจากหุ้น ICT และความกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ เน้นการลงทุนในหุ้น Laggard ราคาที่ยังปรับตัวขึ้นไม่มากนัก รวมไปถึงหุ้น Renewable Energy จากประเด็นการประชุม กพช ต่อความคืบหน้า Solar ราชการ

หุ้นเด่นประเด็นร้อน
CK เก็งกำไร
  * เตรียมเซ็นงานเพิ่มโครงการไซยะบุรีกว่า 20,000 ล้านบาท ที่จะหนุน Backlog ให้ไปใกล้ระดับ 100,000 ล้านบาทอีกครั้ง
  * ลุ้นได้งานต่อจาก BEM ในโครงการเดินรถสายสีน้ำเงิน
  * มีความพร้อมในการเข้าประมูลโครงการต่างๆที่ภาครัฐเตรียมผลักดันออกมา

TU เก็งกำไร
  * แม้ไม่ซื้อ Bumble Bee แต่ยังมีดีลใหม่ๆที่อยู่ระหว่างพิจารณาซื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่องโดยล่าสุดซื้อ รูเก้น ฟิช ได้แล้ว
  * ปี 59 คาดธุรกิจปลาทูน่ากลับมาดีหลังราคาเริ่มฟื้นตัว ล่าสุดราคาเดือน ก.พ. สูงสุดในรอบ 5 เดือน
  * ตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯภายในปี 63 ตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯภายในปี 63

ฝ่ายวิเคราะห์ฯ

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!