- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 07 March 2016 17:02
- Hits: 603
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Fund Flow หนุน SET ทดสอบ 1401 จุด เน้น Big Cap The Laggard (PTTGC) ผสานหุ้น Earning Momentum เด่นปี 2016 (BRR, BWG)
Nomura : Key Factors
(+) OIL: ราคาน้ำมันดิบ WTI +3.9% สู่ $35.92/bbl / Brent +4.45% สู่ $39.02/bbl
(+) Ex Factor: แท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ สัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 8 แท่นสู่ 392 แท่น
(+) Int Factor: รมว.คลังเตรียมศึกษาเปิดเสรีการค้าทองคำ-อัญมณี ลดภาษีเป็น 0%
(+) US Econ: จ้างงานนอกภาคเกษตร ก.พ. ที่ 242K จาก 172K ดีกว่า Cons คาดที่ 195K
(+) Ex Factor: ความคาดหวังต่อนโยบายผ่อนคลายจากธนาคารกลาง หนุนสินทรัพย์เสี่ยง
(+) TFEX: สถานะสะสมของต่างชาติใน TFEX ตั้งแต่ต้นปี-ปัจจุบันสูงถึง 122,078 สัญญา
(+) Valuation: SET ปัจจุบันเทรด PER16F ที่ 14.51 เท่า ต่ำกว่าLT Avg PER 14.7 เท่า
(*) Fund Flow: ต่างชาติซื้อ 4632 ลบ., Short Future 6692, ขาย Bond 811 ลบ.
(-) US Econ: ค่าจ้างแรงงานรายชั่วโมง -0.1%m-m จาก +0.5% และต่ำคาดที่ +0.2%
SET PER 16F: CNS 13.65x (EPS 101) vs Cons.14.51x (LT-Avg 14.7x)
2016 SET Target: CNS Base 1515 pts (EPS 101, PER15x)
Nomura Daily Top Picks: PTTGC, BRR, BWG
Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ แกว่งขึ้น ในกรอบแนวต้าน 1401/1411จุด และแนวรับ 1372/1365จุด ความคาดหวังเชิงบวกต่อนโยบายผ่อนคลายของธนาคารกลางโลก ยังหนุน Fund Flow ไหลเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนือง โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นในกลุ่ม Asia Emerging Market มียอดซื้อสุทธิรวมกว่า 2,754 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 766 ล้านเหรียญ (ซื้อมากสุดใน เกาหลีใต้ กว่า 1,111 ล้านเหรียญ) ส่วนประเทศในกลุ่ม TIPs (ไทย, อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์) พลิกมาซื้อสุทธิรวมกว่า 571 ล้านเหรียญ จากสัปดาห์ก่อนที่ขายบางๆ -16 ล้านเหรียญ เป็นสัญญาณบ่งชี้ Fund Flow กำลังหนุนตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่อง สอดคล้องกับภาพรวมค่าเงินเอเชียยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเช้าวันนี้ค่าเงินเอเซียแข็งค่า +0.4%โดยเฉลี่ย โดยค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.39 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าใกล้หลุด MA 200วัน ที่ 35.2บาทต่อดอลลาร์(กรณีหลุดค่าเงินบาทอาจแข็งค่าสู่ 34.5/34 บาทต่อดอลลาร์อีกครั้ง) เป็นจิตวิทยาบวกต่อตลาดหุ้นไทย ผสานภาวะอุปทานน้ำมันส่วนเกินผ่อนคลายลง หลัง Baker Huges รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯรายสัปดาห์ลดลงต่อเนื่อง 11 สัปดาห์
โดยสัปดาหืนี้ลดลง 8 แท่นสู่ระดับ 392 แท่น หนุนการฟื้นตัวของน้ำมันดิบต่อเนื่อง โดยเช้านี้ราคาน้ำมันดิบสหรัฐขึ้นสู่ระดับ 35.92 เหรียญต่อบาร์เรล เช่นเดียวกันกับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่แกว่งขึ้นสู่ 39 เหรียญต่อบาร์เรล ใกล้เคียงกับคาดการณ์ของเราที่ประเมินราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เดือน มี.ค. มีโอกาสแกว่งขึ้นสู่บริเวณ 40-45 เหรียญต่อบาร์เรล หนุนหุ้นในกลุ่ม ENERG นำตลาด โดยเฉพาะยิ่งกลุ่มที่เป็น The Laggard (PTTGC) มีโอกาสสูงที่ Fund Flow จะสลับมาหนุน ส่วนด้านปัจจัยในประเทศ โดยล่าสุด รมว.การคลังมีแนวคิดในการศึกษาการเปิดเสรีการค้าทองคำ อัญมณี และเครื่องประดับด้วยการลดภาษีเป็น 0% เนื่องจากเห็นว่า สินค้าของไทยสามารถแข่งขันกับผู้ค้าในประเทศอื่นๆ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ คาดเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มผู้ประกอบการ ทองคำ และอัญมณี นอกจากนี้ รมว. คลัง ยังสั่งการ รฟท. สรุป รูปแบบการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง ในวันที่ 9 นี้ ก่อน ชงเข้าครม 15 มี.ค. 2016 เป็นแรงหนุนความเชื่อมั่นต่อรัฐฯและเอกชนใกล้จุดฟื้นตัวรอบใหม่
Asset allocation : หุ้น 70% ทองคำ 2.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 22.5%
Short-Term Strategy : Fund Flow หนุน SET ทดสอบ 1401 จุด โดยยังคงแนะนำ Selective กลุ่ม Big Caps ที่ยังคง Laggard (PTTGC, SCC, BBL, DTAC, TMB) มีโอกาสถูก Fund Flow สลับมาหนุน ผสานหุ้น Mid-Small Caps สตอรี่เด่น นำโดย 1) หุ้นพลังงานทางเลือก กำไรปี 16 เด่น (BRR, BWG, GUNKUL, TPCH) 2) เก็งการลดภาษีอัญมณี 0% (JUBILE, PRANDA) 3) ครม เตรียมพิจารณารถไฟฟ้าสีชมพุ-เหลือง 15 มีค นี้(CK, SCC) เด่น 4) กลุ่มปันผลสูง RP(dividend yield 8.7%), BJCHI (6.8%), QTC (5.9%), SC (5.7%), AP (5.2%), CI(5.0%), PS (4.6%), QH(4.0%) 5) กลุ่ม Module oil and gas (STPI, BJCHI) PER ยังต่ำ 8เท่าเศษ ผสาน Portfolio Top picks MAR 16 : DTAC, BRR, TPCH, CI, ERW, PYLON สำหรับวันนี้แนะนำ*Daily Top Picks: PTTGC, BRR, BWG*
Mid-Long Term Strategy : คาด มี.ค. 2016 หุ้น Big Cap ยังได้รับแรงหนุนจาก Fund Flow ที่ไหลเข้าเอเซียต่อเนื่อง หลังเศรษฐกิจ DM ชะลอตัวกว่า EM-ASIA ผสานสภาพคล่องโลกเพิ่มขึ้นจากนโยบายการเงินผ่อนคลาย หนุน SET สู่แนวต้าน 1378/1411จุด โดยคาดว่ากลุ่มนำตลาด คือ Big Cap Domestic & High Yield เช่น BBL, SCB, KTB, SCC ผสานหุ้นน้ำมันที่มีลักษณะเก็งกำไรระหว่างเดือนได้ PTT, PTTEP, PTTGC และให้เริ่มจับตา Mid-Small Cap ที่คาดว่าจะเริ่ม Outperform ต่อเนื่อง นำโดย 1) กลุ่ม Module oil and gas (STPI, BJCHI) ลุ้นโครงการ LNG กลับมาเดินหน้าหลังน้ำมันฟื้น 2) Earning Momentum ปี 2016 เด่น (TPCH, ERW, CI) 3) กลุ่มที่กำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว CK, BRR 4) High Yield BJCHI, QTC, SC, AP, CI, PS, QH ส่วนหุ้น Dark Horse แนะนำ DTAC ในฐานะ Laggard Downside จำกัด และมีจิตวิทยาบวกหากธุรกิจ ICT พลิกมีผู้แข่งขันในกลุ่มเท่าเดิม สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะ Underperform ในเดือนนี้ เช่น TASCO, EPG หากน้ำมันฟื้นตัวอาจถูกขายทำกำไร และ MEDIA(BEC) ที่กำไรมีแนวโน้มชะลอตัว สำหรับ Portfolio Top picks MAR 16: DTAC, BRR, TPCH, CI, ERW, PYLON
Investment Theme:
· 2016 AEC Connectivity : WISE
Wellness & discover Thainess: ERW, KAMART, BCH, BDMS
Infrastructure: BBL, CK, AMATA. DCC
Spending Recovery: ROBINS, CI, LH, TCAP
Eco Friendly: SCC, KSL, BRR, NYT
. 1Q16 Top Picks : ERW, BBL, ROBINS, BRR, LH, CPF
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
PTTGC (TP68*): Support 55/53 Resistance 58/62
Theme: Oil Recovery / Laggard Play
Earning Outlook : คาดกำไร 1Q16F ที่ระดับ 4.0 พันลบ. ขณะที่ Spread ของกลุ่มธุรกิจโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์มีแนวโน้มดีขึ้น q-q หนุนผลประกอบการทรงตัว
Valuation : Top pick ของกลุ่มพลังงาน หนึ่งในหุ้นกลุ่ม Upstream ที่ได้ประโยชน์เมื่อราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว แนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 68 บาท (Upside 21.9%)
Catalyst : ประกาศจ่ายเงินปันผลในงวด 2H15 ที่ 1.3 บาทต่อหุ้น รวมทั้งปี 2.8 บาทต่อหุ้นหรือ Dividend Yield กว่า 5.3% ส่วนในปี 2016F เราคาดเงินปันผลที่ 2.56 บาทต่อหุ้น (Yield 4.6%) / ราคาปัจจุบันยังคง Laggard กลุ่ม
BRR (TP15.6*): Support 12.6/12.3 Resistance 13/13.5
Theme: Complete Utilization of Sugar
Earning outlook: ก้าวสู่การบันทึกกำไรที่จุดสูงสุดใหม่ใน 1Q16F คาดที่ระดับ 156.7 ลบ. +11.5% y-y และเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องจนถึง 2Q16F เนื่องจาก เป็นช่วงไฮซีซั่นของอุตสาหกรรมน้ำตาลไทย
Valuation: มูลค่าเหมาะสมปี 2016F ที่ 15.60 บาท Upside 21.8% โดยคาด EPS growth ในปี 16F เติบโตกว่า 78% y-y และเติบโตต่อเนื่องสามปีข้างหน้าเฉลี่ย (16F-18F) กว่า 52.9%
Catalyst: ราคาน้ำตาลตลาดโลกทรงตัวหลังราคายืนสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ที่ 14.83 เซนต์/ปอนด์ ราคาตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากภาวะเอลนีโญ ส่งผลให้อินเดียและไทยมีผลผลิตน้ำตาลต่ำกว่าคาด ประกอบกับบราซิลผลิตเอทานอลมากขึ้น
BWG (TP2.56*): Support 1.7/1.66 Resistance 1.8/1.84
Theme: WISE – Eco Friendly
Earning outlook: คาดกำไรสุทธิปี 2016F ที่ระดับ 307 ลบ. เติบโต 10.7% y-y จากการ COD โรงไฟฟ้าขยะที่ 1 กำลังการผลิต 8 MW ในช่วง 4Q16F
Valuation: ปัจจุบันซื้อขาย PER 2016F ที่ระดับ 18.5x อยู่ที่ระดับ +0.5SD ก่อนที่จะลดเหลือ 12x ในปี 2018F ที่มีการบันทึกกำไรจากโรงไฟฟ้าขยะสองโรงกำลังการผลิตรวม 16 MW เต็มปี
Catalyst: ตามแผน AEDP กระทรวงพลังงานจะเปิดประมูลไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมทั้งหมด 50 MW โดยคาดปี 2560 จะสามารถเริ่มรับซื้อไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมก่อนที่ 10 MW และอีก 40 MW ในลำดับถัดไป
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
[email protected] : 0-2287-6771, 0-2638-5771
Wijit Arayapisit : Analyst Registration No. 044799
[email protected] : 0-2287-6871, 0-2638-5871
Chavaratt Changpakorn : Assistant Strategist
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS,Nomura)