- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 02 March 2016 18:44
- Hits: 1046
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ปรับขึ้น
หลังจากที่ผ่านแนวต้านสำคัญ 1340 จุดมาและยืนเหนือจุดนี้ได้เมื่อวานนี้ ภาพรวมบรรยากาศการลงทุนก็เริ่มดูดีขึ้น โดยเราแนะนำเข้าเก็บสะสมหุ้นที่ยังคงเป็น Laggard เช่น หุ้นกลุ่มรับเหมา อาหาร และอสังหาฯ เนื่องจากดัชนีมีโอกาสขยับขึ้นต่อด้วยปัจจัยบวกสำคัญคือ ราคาน้ำมันที่ทรงตัวได้ดีและฟื้นตัวขึ้นอย่างมั่นคงมากขึ้นในช่วงนี้ และล่าสุดตัวเลขภาคอุตสาหกรรมโรงงานของสหรัฐรายงานออกมาดีกว่าตลาดคาด ส่งผลให้นักลงทุนมั่นใจต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ตลาดไทยในสัปดาห์นี้จึงน่าจะผ่านและยืนเหนือ 1350 จุดได้ไม่ยาก ด้วยแรงหนุนจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก
แนวรับ/แนวต้าน : 1320/1350 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%
กลยุทธ์ : เก็บสะสมหุ้นกลุ่มรับเหมา พลังงานปลายน้ำ อสังหาฯ อาหาร และวัสดุก่อสร้าง ที่ราคาไม่แพงและมีพื้นฐานดี มี story หนุนเป็นรายตัว หลีกเลี่ยงกลุ่มสื่อสารไปก่อน
นักลงทุนระยะสั้น : CI (2.80), BR (8)
CI (2.80) โดยเราคาดว่าจะได้ประโยชน์จากการตั้งกอง REIT โครงการศรีพันวามูลค่า 1 พัน 4 ร้อยล้านบาท และมีรายได้และกำไรโตก้าวกระโดดในไตรมาส 4 ปี 58และไตรมาส 1 ปี 59 รวมไปถึงทั้งปี 59 จากการโอนคอนโดและโครงการบ้านเดี่ยวตามนโยบายกระตุ้นการโอนของรัฐบาลในปีนี้
BR (8) เป็ดน้อยกำลังเติบโตเป็นเป็ดใหญ่ ด้วยการเริ่มขยายกำลังการผลิตที่จังหวัดสระแก้วในปีนี้ และการขยายธุรกิจไปยังประเทศอินโดนีเซียในไม่ช้านี้ จะช่วยขยายตลาดส่งออกของ BR อย่างชัดเจน นอกจากนี้เราคาดราคาเป็ดผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 58 และคู่แข่งจะแข่งขันในเชิงราคาน้อยลง นอกจากนี้ยังมีการเจรจากับโอปองแปงและ Mcdonalds ผลิตอาหารประเภทเป็ดใหม่ๆ gross margin สูงใกล้ๆ 30% น่าลองไปชิมดูนะครับ
นักลงทุนระยะยาว : CK (34), SCC (630)
CK (34) (1)Mega projects เช่นรางคู่และการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มจะช่วย earnings ให้เติบโตสูง 15% ในปี 2559 (2)การควบรวมกิจการของบริษัทลูก BMCL & BECL (3)นอกจาก projects ของรัฐบาลยังมีโครงการของบริษัทลูก เช่น CKP มีโครงการน้ำบาก (Hydroelectric dam) ในประเทศลาว 1หมื่น7พันล้านบาท กำลังเจรจาน่าจะเซ็นสัญญา Q1 ปี 2559 (4)Q3 & Q4 ของปี 2558 sale & earnings ไม่ค่อยดี แต่โครงการ mega projects จะชัดเจนมากขึ้นปี 2559 ทั้งการประมูลและการก่อสร้างจริง ดังนั้นช่วงนี้เป็นโอกาสดีในการเริ่มเก็บสะสม CK
SCC (630) ผลิตภัณฑ์ olefins ยังคงมี demand แข็งแกร่งทำให้มี spread สูงใกล้เคียง 700 ดอลล่าห์ต่อตันในปีนี้ ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ย 400 ดอลล่าห์ต่อตันในปีที่แล้ว นอกจากนี้กำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นหลัง Chandra Asri Cracker ในอินโดนีเซียเสร็จสิ้นกระบวนการปรับปรุงระบบการผลิตในปีนี้ ประกอบกับเราคาด demand ปูนซีเมนต์จะเติบโต 3-4% yoy ปีนี้เทียบกับ 0% ในปีที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐโดยตรง บวกกับโรงปูนใหม่ที่กัมพูชาและอินโดนีเซียจะช่วยดันยอดขายและกำไรให้โตไม่ต่ำ 17% ในปีนี้อีกด้วย
นักวิเคราะห์ : ยศพณ แสงนิล , CFA Email : [email protected] Tel: 02 659 8154