WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBS copyบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

'เลือกซื้อ/ถือเมื่อ SET เหนือ 1310'
Stock Picks-Mar 2016 : Fundamental : BA, EPG, ERW, GL, PTT Dark Horse เป็น DTAC
Fundamental Pick -Today: ERW(ดู Theme ลงทุนด้านใน)
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, DCC, AP, LPN, QH, SPALI, MODERN, QTC, SNC, TCAP, TMT, BTSGIF, DIF, CPNRF, SPF
Shot Sell-Prev : ITD & KBANK 16%, BA 15%, GUNKUL 13%

Technical View ภาพตลาดเป็นลบเล็กๆ
Support Resistance Stop Loss
SET ซื้อค่าบวก 1340, 1350 หลุด 1310
SET50 ซื้อค่าบวก 860, 870 หลุด 830
Technical Picks - Today TPOLY, AP, THCOM, SPCG, TNH, TPCH, MINT, TU

หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : SAMTEL (จากซื้อเป็น ถือ)
     ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยวานนี้ร่วงลง 10.70 จุด ปิดที่ 1332.37 นำโดยกลุ่มธ.พ.ที่สินเชื่อยังหดตัวในเดือนม.ค.2016, กลุ่มรับเหมาก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง, กลุ่มสื่อสาร, ค้าปลีก เป็นต้น ซึ่งการลดลงเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค หลังปิดตลาด ทางการจีนประกาศลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ลงต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 (ให้ลดลง 0.50% เป็น 17%) เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งตลาดหุ้นยุโรปตอบรับในทางบวกแต่ไม่ช่วยกระตุ้นตลาดหุ้นสหรัฐเพราะกังวลกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจภายในมากกว่า
สำหรับตลาดหุ้นเอเชียเช้าวันนี้ ยังซึมลงเป็นส่วนใหญ่ เพราะมองว่ามาตรการด้านการเงินของจีนยังอ่อนเกินไปและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่มากเช่นกัน โดยภาพรวมแล้วเรายังกังวลกับการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกและเศรษฐกิจไทย (ซึ่งธปท.ยอมรับว่า GDP ของไทยใน 1Q16 มีโอกาสลดลงเมื่อเทียบ QoQ - ดูรายละเอียดเพิ่มเติมหน้า 2) สำหรับกำไรบจ.ปี 2015 ลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แต่คาดว่าจะพลิกฟื้นเป็นเติบโตได้ในปี 2016 จากการขยายตัวสูงของกำไรกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี แต่หากไม่รวมสองกลุ่มนี้ คาดว่าจะกำไรจะขยายตัวเป็นเลขหลักเดียว (รวม 5-8%) กลยุทธ์การลงทุน : เล่นรอบไม่ควรหวัง Gap กำไรมากเพราะตลาดยังผันผวน ส่วนการลงทุนระยะยาวแนะนำให้ทยอยซื้อเป็น Step สำหรับหุ้นพื้นฐานที่เป็น Top Picks ของเดือนมี.ค.2016 เป็น BA, EPG, GL, PTT และ ERW (ให้เป็นหุ้นพื้นฐานที่เลือกสำหรับวันนี้ด้วย)
       วิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดโดยรวมเป็นลบเล็กๆ โดยยังไม่ตัดภาพรีบาวด์ก่อนลงต่ำต่อ แนวต้านระยะสั้น 1340-1350, 1360 จุด การซื้อใหม่เน้น ตามด้วยค่าบวก ค่าลบดูไม่ดี ต่ำกว่า 1310 จุดควรลดพอร์ตตาม สำหรับ SET50 มีแนวต้านระยะสั้น 860, 870-880 จุด Stop loss ถ้าหลุด 830 จุด การ SCAN หุ้นเทคนิคดีมีโอกาสทำ New high พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่เป็น TPCH, TU ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ TKN, GFPT, CENTEL, AP, GUNKUL, HMPRO หุ้นที่หลุด List ได้แก่ BIG, MCS, KKC, GL

Market Drivers

ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
+ จีน : ธนาคารกลางปรับลด RRR ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 เมื่อวานนี้ (29 ก.พ.) ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.5% สู่ระดับ 17.0% สำหรับธนาคารขนาดใหญ่ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มี.ค.2016 การปรับลด RRR ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 5 ตั้งแต่เดือนก.พ.15
โดยการดำเนินการของธนาคารกลางจีนมีขึ้นก่อนที่สภานิติบัญญัติของจีนจะเริ่มต้นการประชุมประจำปี 2016 ในสัปดาห์นี้ ซึ่งทั่วโลกจะจับตาการประกาศเป้าหมายและนโยบายใหม่ทางเศรษฐกิจของจีน
- สหรัฐ : ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านรอปิดการขายลดลง 2.5%MoM สู่ระดับ 106 ในเดือนม.ค.16 โดยได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศหนาว, สต็อกบ้านที่มีอยู่จำกัด และราคาบ้านที่พุ่งสูง
- สหรัฐ : PMI ชิคาโกอ่อนลงในเดือนก.พ. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเขตชิคาโก หดตัวลงเป็น 47.6 ในเดือนก.พ.16 โดยรับผลกระทบจากคำสั่งซื้อใหม่ที่ปรับตัวลง
ยูโรโซน : ตลาดคาดหวังว่า ECB จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมนโยบายวันที่ 10 มี.ค.นี้ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งมาจากอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนที่ต่ำมาก คือ -0.2% ในเดือนก.พ.2016 ขณะที่เป้าหมายระยะยาวอยู่ที่ 2.0% อย่างไรก็ตาม มีคำถามว่า หากมีการขยายโครงการ QE เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือนแล้วจะมีพันธบัตรให้ ECB เข้าซื้อหรือไม่? ส่วนการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ ก็ดูเหมือนว่าจะกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นได้ไม่มาก
- ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลง...กังวลเศรษฐกิจชะลอตัว โดยดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 123.47 จุด (-0.74%) ปิดที่ 16,516.50 จุด เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอ ล่าสุดเป็นดัชนียอดสัญญาขายบ้านเดือนม.ค.ที่ลดลงเกินคาด นอกจากนั้นกังวลกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกด้วย
+ ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น หลังจีนลด RRR เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI และ BRENT ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิด +97 และ + 87 เซนต์ ที่ 33.75 และ 35.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
+ ราคาทองคำพุ่งขึ้น โดยสัญญาตลาด COMEX ปิด +14 ดอลลาร์ที่ 1,234.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หนุนโดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงตามเงินสกุลหลัก หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาแย่กว่าคาด

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวเด่น
- เศษฐกิจไทย : ธปท.ยอมรับแรงส่ง 1Q16 ชะลอลง การบริโภคและการใช้จ่ายภาครัฐยังไม่ฟื้นตัว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการซื้อล่วงหน้าในโครงการชอปช่วยชาติไปในช่วงปลายปีก่อน มีการเร่งซื้อรถยนต์ช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค.2015 ก่อนปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตใหม่ในวันที่ 1 ม.ค.2016 และมีการเบิกจ่ายงบประมาณไปก่อนหน้ามาก ด้านมูลค่าส่งออกหดตัวสูงตามเศรษฐกิจจีนและอาเซียนที่ชะลอตัว และความต้องการสินค้าอิเลคทรอนิกส์โลกแผ่วลง รวมทั้งราคาส่งออกทรุดตัวโดยเฉพาะหมวดปิโตรเลียม อัตราเงินเฟ้อม.ค.ติดลบ 0.53% อัตราการว่างงานต่ำ และเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ดี ภาคท่องเที่ยวยังเติบโตดีต่อเนื่อง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือนม.ค.2016 ขยายตัวได้ 15% เป็น 3 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนยังเข้ามามากอย่างเห็นได้ชัด โดยภาพรวมแล้วมีโอกาสที่ GDP งวด 1Q16 จะลดลงเมื่อเทียบ QoQ หุ้นเด่นในกลุ่มท่องเที่ยวเป็น ERW รองลงมาเป็น AOT, MINT
TRUE จะจ่ายค่างวดแรก+แบงค์การันตีประมาณ 10 มี.ค.นี้ ด้าน JAS ขอวางแบงค์การันตี 50% ก่อน ทางกสทช.กล่าวถึงความคืบหน้าในการชำระค่าใบอนุญาต 4G ย่าน 900 MHz ว่าได้รับการติดต่อจากกลุ่ม TRUE แล้วว่าวันนี้ (1 มี.ค.) จะลงนามความร่วมมือกับ 6 สถาบันการเงินเพื่อชำระค่าใบอนุญาตงวดแรก 8,040 ล้านบาทและแบงค์การันตี โดยคาดว่าจะชำระในวันที่ 10 มี.ค.นี้ ส่วน JAS Mobile ได้สอบถามว่าถ้าชำระค่างวดแรกแล้ว แต่วางแบงค์การันตีไม่ครบจะทำได้หรือไม่ ทางกสทช.เห็นว่าหากจะขอผ่อนผันต้องเสนอเรื่องมาให้กทค.พิจารณาความเป็นไปได้ในข้อกฎหมาย ทั้งนี้กำหนดเส้นตายในการชำระเงินคือ 21 มี.ค.2016 โดยหาก JAS คืนใบอนุญาตก็ต้องถูกยึดเงินประกัน 644 ล้านบาทและจ่ายค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด
+ STPI (ราคาปิด 11.70 บาท ราคาพื้นฐาน 15.20 บาท) : กำไรสุทธิ 4Q15 ดีกว่าคาด โดยออกมาเท่ากับ 773 ล้านบาท (+35%QoQ แต่ -3%YoY) ซึ่งมาจากการรับรู้รายได้ในโครงการ Ichthys LPN Module ที่มากขึ้น (+18%YoY และ 116%QoQ) เป็น 4 พันล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูง 32% เพิ่มจาก 29% ใน 4Q14 สำหรับทั้งปี 2015 มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 13.3 พันล้านบาท (+14%YoY) อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ย 29.4% และมีกำไรสุทธิทรงตัวที่ 2.36 พันล้านบาท ฐานะการเงินแข็งแกร่ง เป็นเงินสดสุทธิ 5.5 พันล้านบาท คิดเป็น 3.4 บาท/หุ้น
แนวโน้มปี 2016 ยังไปได้ดี เพราะมีงานในมือ (Backlog) ที่รวมงานใหม่ที่ได้มาเพิ่มช่วง YTD ปี 2016 แล้วราว 11 พันล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ไปถึงกลางปี 2017 ขณะเดียวกันก็จะมีงานใหม่ทยอยเข้ามาในปีนี้อีก ด้านอัตรากำไรขั้นต้นของปี 2016 จะดีกว่าคาดการณ์เดิมของเราเพราะงานส่วนต่อขยายโครงการ Ichthys มีมาร์จิ้นดี เราจึงปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยปีนี้ขึ้นเป็น 26% (เดิม 24%) ทำให้คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2016 เป็น 2.4 พันล้านบาท (EPS : 1.45 บาท) ให้ราคาพื้นฐานใหม่เป็น 15.20 บาท อิงกับ P/E ปี 2016 ที่ 10.5 เท่า ความเสี่ยง คือ การได้งานใหม่ขนาดใหญ่ล่าช้าและอาจมีมาร์จิ้นอ่อนลงเพราะราคาก๊าซและน้ำมันที่ตกต่ำ

นักวิเคราะห์ & กลยุทธ์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!