- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 01 March 2016 18:57
- Hits: 615
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
เคลื่อนไหวในกรอบ
หุ้นไทยปรับตัวขึ้นวันนี้ หนุนโดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของจีน และราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นแรง แต่การปรับขึ้นน่าจะถูกจำกัดโดยความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก จากตัวเลขเศรษฐกิจเช้านี้ที่ไม่ค่อยดีนักจาก จีน ญี่ปุ่น สหรัฐ และยุโรป ซึ่งสะท้อนจากราคาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำที่ปรับตัวขึ้นไม่ว่าจะเป็นทอง เงินเยน ตั๋วเงินคลังระยะยาวสหรัฐ ภายในประเทศตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ไม่ต่ำกว่าคาดมากในเดือน ม.ค. เกิดจากภาคการผลิตเพื่อการส่งออกเป็นหลัก ซึ่งน่าจะเป็นที่รู้กันอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การอนุมัติรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพูภายใต้กรอบความร่วมมือรัฐ-เอกชน สะท้อนความก้าวหน้าของด้านการลงทุน
หุ้นเด่นวันนี้ : HMPRO (ราคาปิด 7.20 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 59 ของ AWS 8.00 บาท)
บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านและที่อยู่อาศัยในประเทศไทยโดยมีสาขาที่เปิดดำเนินการภายใต้แบรนด์โฮมโปร 76 สาขาทั่วประเทศ, ภายใต้แบรนด์เมกาโฮม 7 สาขาและหนึ่งสาขาในประเทศมาเลเซีย เราประมาณการผลกำไรบริษัทในปีนี้จะเติบโตได้อย่างน้อย 15% สนับสนุนโดย 1) กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะปรับตัวดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสนับสนุนผู้มีรายได้ต่ำและการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ 2) การเปิดสาขาเปิดใหม่ 8 แห่งในปี 58 จะรับรู้รายได้และผลกำไรเต็มปีเป็นครั้งแรก 3) กลยุทธ์ของบริษัทที่จะเพิ่มสัดส่วนสินค้าเฮ้าส์แบรนด์อย่างน้อย 1% จาก 19.5% ของยอดขายในปัจจุบันจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น 4) สาขาภายใต้แบรนด์เมกาโฮมจะถึงจุดคุ้มทุนและจะเริ่มทำกำไรตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป และ 5) การขยายสาขาในมาเลเซียเพิ่มเติมช่วยเพิ่มประโยชน์จากการประหยัดจากขนาดมากขึ้น บริษัทยังได้ประกาศจ่ายปันผลจากผลประกอบการครึ่งปีหลังของปี 58 ที่ 0.15 บาทต่อหุ้น หรือ 4.2% p.a. (XD 12 เม.ษ.) เมื่อพิจารณารูปแบบราคาของ HMPRO ได้เปลี่ยนแนวโน้มจากขาลงมาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นเรียบร้อยแล้ว โดยได้เกิดสัญญาณซื้อทั้งในรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน หุ้นกำลังจะทดสอบเป้าหมายเบื้องต้นที่ 7.65 บาทและ เป้าหมายถัดไปที่ 8.15 บาท โดยมีจุด Stop Loss อยู่ที่ 6.60 บาท (แนวต้าน: 7.30, 7.40, 7.65; แนวรับ: 7.10, 7.00, 6.75)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
บอร์ด PPP เห็นชอบรถไฟฟ้าสายเหลืองและชมพู วงเงินลงทุนรวม 1.1 แสน ลบ. ประกอบด้วย 5.67 หมื่น ลบ. สำหรับสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และ 5.46 หมื่น ลบ. สำหรับสายเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) รัฐบาลจะรับผิดชอบเรื่องค่าเวนคืนและงานโยธาสำหรับรถไฟฟ้า ส่วนเอกชนจะลงทุนเกี่ยวกับโครงการวิศวกรรมโยธาส่วนที่เหลือ รถไฟ ระบบปฏิบัติการและบริการซ่อมบำรุงภายใต้สัมปทาน 30 ปี รัฐจะลงทุนไม่เกิน 2 หมื่น ลบ.ในแต่ละโครงการเพื่อดึงดูดภาคเอกชน (Bangkok Post, The Nation)
บีโอไอเห็นชอบสิทธิภาษีสำหรับการลงทุนชุมชน คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เห็นชอบมาตรสิทธิประโยชน์ภาษีจูงใจเพิ่มเติมสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ที่ต้องการขยายการลงทุนในชุมชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น บริษัทขนาดใหญ่อาจตั้งโรงงานขนาดเล็กในชนบทซึ่งจะได้รับยกเว้นภาษีเพิ่มเติม 3 ปีขณะที่ธุรกิจชุมชนจะได้รับยกเว้นภาษีนิติบุคลล 5 ปี (Bangkok Post)
ผลผลิตอุตสาหกรรมลดลงกว่าคาดในเดือน ม.ค. จากปัจจัยภายนอกประเทศที่ยังอ่อนแอ รมว. กระทรวงอุตสาหกรรมได้รายงานดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในเดือน ม.ค. ติดลบ 3.3% YoY หลังเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.4% YoY ขณะที่โพลของรอยเตอร์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 0.2% YoY (Bangkok Post)
ผู้ผลิตยางพาราในไทยและอาเซียนลดการส่งออก สภาไตรภาคียางพาราล่าสุดได้เห็นชอบแผนสำหรับประเทศไทย, อินโดนีเซีย และมาเลเซียที่จะลดการส่งออกยางพาราลงคนละ 15% ภายใน 6 เดือนข้างหน้าเพื่อลดปัญหาอุปทานส่วนเกินและกระตุ้นราคายาง ทั้งสามประเทศยังเห็นชอบให้กระตุ้นการใช้ภายในประเทศสำหรับการก่อสร้างถนนและรถไฟ (Bangkok Post)
CENTEL (39.25 บาท, ซื้อ, ราคาเป้าหมาย AWS ปี 59 47.00 บาท) รายงานกำไรจากการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/58 ที่ 302 ลบ. เพิ่มขึ้น 3% QoQ แต่ลดลง 19% YoY ผลกำไรปี 58 อยู่ที่ 1.68 พันลบ. เพิ่มขึ้น 41% YoY (SET) ความเห็น: ผลประกอบการไตรมาส 4/58 ต่ำกว่าที่เราประมาณการไว้ที่ 380 ลบ. และต่ำกว่าประมาณการตามบลูมเบริ์กที่ 423 ลบ. อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการไตรมาส 1/59 ยังมีแนวโน้มสดใสจากฤดูการท่องเที่ยวของไทยและการปรับตัวดีขึ้นของอัตราการเติบโตของยอดขายในร้านอาหารที่มีอยู่ในพอร์ต เรายังคงคำแนะนำซื้อด้วยราคาเป้าหมายที่ 47.00 บาท
JAS (2.74 บาท) อาจวืดใบอนุญาตหลังประสบปัญหาไม่สามารถจ่ายค่าใบอนุญาต 900 เมกะเฮิร์ตซ์ 7.6 หมื่น ลบ. โดยบริษัทลูกที่ตั้งมาเพื่อทำด้านมือถือได้ลองหยั่งเสียง กสทช. ว่าขอจ่ายเป็นงวดๆ แทนที่จะค้ำประกันทั้งจำนวน อย่างไรก็ตาม กสทช.ยืนยันว่าต้องจ่ายงวดแรกและค้ำประกันทั้งจำนวนภายใน 21 มี.ค. 59 ตามที่เกณฑ์กำหนด (Bangkok Post) ความเห็น: ตามคาด JAS คงไม่สามารถจ่ายได้ทั้งหมดยกเว้นจะหาทุนมาเพิ่ม ข่าวนี้นับเป็นข่าวลบต่อ JAS แต่ข่าวดีต่อค่ายมือถือที่เหลือเนื่องจากได้ประโยชน์ที่คู่แข่งรายใหม่เจออุปสรรค
ต่างประเทศ
ตลาดหุ้นทั่วโลกลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 เมื่อวันจันทร์ ส่วนราคาน้ำมันดิบเป็นบวกเป็นเดือนแรกนับแต่เดือนต.ค. ราคาทองคำปิดบวกมากกว่า 10% ในเดือนก.พ. มากที่สุดในรอบ 4 ปี (Reuters)
จีนปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เป็นครั้งที่ 5 ในเวลา 1 ปี ลดลง 50 bps อยู่ที่ 17.0% สำหรับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะส่งผลให้มีการอัดฉีดเงินสดระยะยาวจำนวน 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเข้าไปในระบบเศรษฐกิจเพื่อรองรับผลกระทบจากการเลิกจ้างพนักงานและภาวะล้มละลายในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลจากกำลังการผลิตเกินกว่าความต้องการของตลาด (Reuters) ความเห็น: ปฏิกิริยาของตลาดค่อนข้างผิดหวังต่อเรื่องดังกล่าว อาจเป็นการสะท้อนมุมมองของนักลงทุนทั่วโลกว่าธนาคารกลางสำคัญๆ กำลังขาดแคลนความคิดในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ
สหรัฐ :
ตลาดหุ้นสหรัฐมีการเทขายจนปิดตลาดและดัชนีทั้ง 3 ตัวต่างปิดลบเมื่อวันจันทร์ เนื่องจากราคาหุ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบฟิวเจอร์สและนักลงทุนได้ทำกำไรจากหุ้นในสัปดาห์ก่อนถึงแม้ว่าราคาน้ำมันจะทะยานขึ้น 3% (Reuters)
ดัชนี PMI เขตชิคาโกลดลงในเดือนก.พ. กิจกรรมทางธุรกิจในแถบมิดเวสต์ลดลงในเดือนก.พ. และลดลงมากกว่าที่คาด ดัชนี PMI ชิคาโก อยู่ที่ 47.6 ในเดือนก.พ. เทียบกับประมาณการเฉลี่ยที่ 53.0 และ 55.6 ในเดือนม.ค. (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันจันทร์ปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่จีนประกาศลดอัตราเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง ซึ่งประเด็นบวกดังกล่าวสามารถหักล้างกับความผิดหวังของนักลงทุนต่อข้อสรุปที่ประชุม G20 ที่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ได้ นอกจากนี้ตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนที่อยู่ในแดนลบยังช่วยเพิ่มความคาดหวังการใช้มาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมจากที่ประชุม ECB ที่จะมีขึ้นในวันที่ 10 มี.ค. (Reuters)
เอเชีย :
มูลค่าการลงทุน (CAPEX) ของบริษัทผู้ประกอบการในญี่ปุ่นชะลอตัวในช่วง 4Q58: กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานการลงทุนในโรงงานและเครื่องจักรในงวด 4Q8 ขยายตัวที่ 8.5% YoY ลดลงจากการขยายตัว 11.2% YoY ในงวด 3Q58 ก่อนหน้า ซึ่งชี้ให้เห็นถึงโมเมนตัมการลงทุนที่ลดลง (Reuters)
การใช้จ่ายภาคครัวเรือนญี่ปุ่นเดือน ม.ค. หดตัวลง 3.1% YoY อิงตัวเลขที่แท้จริง (Real term) ซึ่งหดตัวลงมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะลดลง 2.7% (Reuters)
อัตราการว่างงานในญี่ปุ่นเดือน ม.ค. ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3.2% จากระดับ 3.3% ในเดือน ธ.ค. ก่อนหน้า และน้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะทรงตัวที่ 3.3% (Reuters)
จีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการในเดือน ก.พ. โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตอยู่ที่ 49.0 ลดลงจาก 49.4 ในเดือน ม.ค. ก่อนหน้า และน้อยกว่าที่ตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ 49.3 ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการบริการลดลงมาอยู่ที่ 52.7 จาก 53.5 ในเดือน ม.ค. (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันดิบพุ่ง 3% ในวันจันทร์ เพราะจีนเริ่มมีทีท่าต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังชะลออยู่ OPEC และสหรัฐมีผลผลิตน้ำมันที่ลดลง และคำมั่นจากซาอุฯ ว่าจะจำกัดความผันผวนของตลาด ชี้ว่าการเทขายในช่วง 20 เดือนนี้อาจถึงจุดต่ำสุดแล้ว Brent พ.ค. ปรับขึ้น 1.13 ดอลลาร์หรือ 3.2% อยู่ที่ 36.57 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐเพิ่ม 97 เซนต์หรือ 2.9% ปิดที่ 33.75 ดอลลาร์(Reuters)
ผลผลิตน้ำมันดิบลด ซาอุฯ ให้คำมั่น ผลผลิตน้ำมันดิบสหรัฐ ธ.ค. ลดลงเป็นเดือนที่สามติดต่อกันราว 4.3 หมื่นบาร์เรลต่อวัน (bpd) สู่ระดับ 9.26 ล้าน bpd จุดต่ำสุดนับแต่ ธ.ค. 57 ขณะที่อุปสงค์ต่อน้ำมันเพิ่มขึ้นครั้งแรกนับจาก ส.ค. EIA สหรัฐระบุ ขณะเดียวกันผลผลิตจาก OPEC ร่วงลงใน ก.พ. ราว 2.8 แสน bpd สู่ 32.37 ล้าน bpd จากจุดสูงสุดรายเดือนที่เกิดก่อนหน้านี้ที่เดือน ม.ค. เนื่องจากการหยุดการส่งออกทางเหนือของอิรักและการหยุดผลิตของผู้ผลิตรายอื่นๆ ซาอุดิอาระเบียให้คำมั่นว่ายังติดต่อกับผู้ผลิตหลักทั้งหมดเพื่อตั้งใจลดความผันผวนของราคาน้ำมัน (Reuters)
ราคาทองขึ้นเกือบ 1% วันจันทร์ หนุนโดยตลาดหุ้นที่ลดลงและดอลลาร์ที่อ่อนตัว ทำให้ทองปรับตัวดีสุดในรอบ 4 ปีเพราะความปั่นป่วนในตลาดเพิ่มความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย ราคาทองคำตลาดจรแตะจุดสูงสุดที่ 1,235.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์และเพิ่มขึ้น 1% ปิด 1,234.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำปรับขึ้นไป 10% ใน ก.พ. เป็นการโดดเพิ่มขึ้นที่ใหญ่ที่สุดนับแต่ ม.ค. 55 (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331
