- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 29 February 2016 17:01
- Hits: 866
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ทิศทางตลาด
มีโอกาสปรับตัวลดลง?
มีโอกาสปรับตัวลดลง? หลังจากที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก เรามองว่าปัจจัยบวกดังกล่าวจะเริ่มแผ่วลงในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้นักลงทุนยังรอการประกาศตัวเลข PMI ของจีน ประกอบทั้งเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศผลประกอบการ Q4 อาจจะมีการ sell on fact
ด้านปัจจัยต่างประเทศ นักลงทุนส่วนใหญ่ให้น้ำหนักกับราคาน้ำมันค่อนข้างมาก ทำให้ทิศทางการเคลื่อนไหวของดัชนีเป็นไปตามราคาน้ำมัน นอกจากประเด็นเรื่องราคาน้ำมันแล้ว เรายังอยากจะแนะให้ติดตาม การประกาศตัวเลข PMI ของจีนที่จะประกาศวันที่ 1 มี.ค. นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 49.3 ต่ำกว่า 50 เป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน อาจจะมีผลทำให้ Fundflow ไหลออกตลาดเกิดใหม่ซึ่งรวมไทยด้วย
ส่วนปัจจัยภายในประเทศ ยังคงไม่มีประเด็นใหม่ๆมากระตุ้นตลาด นักลงทุนยังคงจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล หลังจากรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่อง จากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
ยังแนะจับตา (1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่คาดหลังจากนี้มีการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการอื่นๆ ที่มีความพร้อมต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม เส้นทางศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี วงเงิน 110,116 ล้านบาท ที่คาดสามารถเปิดประมูลได้ในช่วง 1Q/59 และรถไฟทางคู่สายประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร วงเงิน ประมาณ 24,000 ล้านบาท คาดส่งผลดีต่อ CK และ UNIQ
(2) กลุ่มการบิน ที่คาดราคามีโอกาสฟื้นตัว หลังสายการบินของไทยผ่านการประเมินของสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป (EASA) และสามารถบินได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ และช่วง High Season ของการท่องเที่ยว คาดส่งผลดีต่อ BA, AAV
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+/-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA +212.30, NASDAQ +39.59, S&P +21.90, FTSE +145.63 CAC +93.11 และ DAX +163.68
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้รับแรงกดดันจากรายงานตัวเลขเงินเฟ้อระยะยาวเดือน ม.ค. ของสหรัฐที่ปรับเพ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า สู่ระดับ 1.3% เข้าใกล้เป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของเฟด นอกจากนี้การประกาศตัวเลข GDP Q4 ที่ 1%QoQ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ทำให้เกิดความกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง
ในขณะที่หุ้นทางฝั่งยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นในกลุ่มน้ำมันและพลังงานกว่า 3% นอกจากนี้ การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.พ. ของเยอรมันร่างลงสู่ระดับ 0% ทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ ECB จะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมในเดือนหน้า
(-) ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) -0.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 32.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นักลงทุนเทขายทำกำไรน้ำมันหลังจากที่ราคาปรับเพิ่มขึ้นตอบรับข่าวการเข้าประชุมของเวเนชูเอล่า กับประเทศซาอุดิอาระเบีย ,รัสเชีย และกาตาร์ ในช่วงเดือนกลางเดือน มี.ค.59
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน เม.ย. -18.4 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,220.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับตัวแข็งค่า หลังจากที่สหรัฐประกาศตัวเลข GDP Q4 ออกมาที่ 1%QoQ ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ ส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำออกมา
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ –1,373.06 ล้านบาท สะสม YTD -7,340.09 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
19.52 1.76 3.41
ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 42,490.04
สถาบัน +331.44
บัญชีหลักทรัพย์ -420.55
ต่างประเทศ +114.76
ในประเทศ -25.66
(3) กลุ่มพลังงาน ระยะสั้น PTT และ PTTEP จะได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น แต่ในระยะยาวราคาน้ำมันดิบยังคงถูกกดดันจากภาวะอุปทานส่วนเกิน
(4) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, TOP และ SPRC จะได้รับผลบวกจากค่าการกลั่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องในช่วง 1Q/59 และคาดจะไม่มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันจำนวนมากอีก
(5) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC, SCCC และ TPIPL เป็นต้น โดยเฉพาะใน 2H/59 ที่คาดความต้องการดีกว่า 1H/59
(6) หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT, CENTEL) และ AOT จากแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น และเข้าสู่ช่วง High season ใน 4Q/58 – 1Q/59
(7) เริ่มเข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงาน คาดอาจมีแรงเก็งกำไร จนถึงปลายเดือน ก.พ.’59 ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัว อยู่ที่ 1.71% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.61 อยู่ที่ 19.11
หุ้นแนะนำ : SUTHA
นักวิเคราะห์ : ประวิทย์ เจียวก๊ก โทร.02-684-8797