- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 19 February 2016 17:16
- Hits: 4476
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
พักฐาน
คาดหุ้นไทยปรับตัวลงวันนี้ จากราคาน้ำมันกลับมาร่วงลงหลังจากปริมาณสำรองน้ำมันดิบสหรัฐทำจุดสูงสุดใหม่อีก ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดี ทำให้การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed กลับมามีโอกาสเพิ่มขึ้นกลับมาอีก การหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและความต้องการเสี่ยงก้ำกึ่งวันนี้จากการที่ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นทองคำราคาขึ้นแต่ตั๋วเงินคลังสหรัฐราคาลดลง ภายในประเทศข่าว TRUE มีโอกาสสูงที่จะได้รับการสนับสนุนจากธนาคารหกแห่งในการชำระค่าใบอนุญาต 4G ทำให้ความไม่แน่นอนในกลุ่มสื่อสารลดลงบางส่วน
หุ้นเด่นวันนี้ : SPCG (ราคาปิด 20.60 บาท; NR; ราคาเป้าหมาย Bloomberg 27.65 บาท)
บมจ.เอสพีซีจี ซึ่งประกอบธุรกิจลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 36 โครงการในประเทศ โดยปัจจุบันผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้วทั้งหมดด้วยกำลังการผลิตรวม 260 เมกะวัตต์ เป็นหุ้นเด่นในวันนี้ของเราจากราคาหุ้นปัจจุบันที่ซื้อขายในระดับน่าสนใจ ประกอบกับโอกาสใหม่ๆ ในการเติบโตของธุรกิจในอนาคต เมื่อเร็วๆ นี้ SPCG ประกาศกำไรสุทธิงวดปี 2558 ออกมาอยู่ที่ 2.2 พันลบ. ปรับตัวสูงขึ้น 32% YoY จากการผลิตไฟฟ้าเต็มที่ทั้งปีของโรงไฟฟ้าทุกโครงการเป็นปีแรกเมื่อปีที่แล้ว แม้ว่ากำไรสุทธิจะค่อนข้างทรงตัวนับจากปีนี้ไปเนื่องจากยังไม่มีโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆ เข้ามา แต่จะสามารถสร้างกระแสเงินสดรับที่มีความผันผวนต่ำและจ่ายปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งราคาหุ้นปัจจุบันให้อัตราผลตอบแทนปันผลสูงถึง 5.5-6.0% ต่อปี ล่าสุด SPCG ยังได้ประกาศจ่ายปันผลจากกำไรสุทธิครึ่งปีหลังของปี 58 ในอัตรา 0.81 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทนงวดครึ่งปีที่สูงถึง 3.9% (7.9% เทียบรายปี) วันขึ้นเครื่องหมาย XD คือวันที่ 10 มี.ค. 59 อย่างไรก็ตาม SPCG กำลังแสวงหาโอกาสการเติบโตเพิ่มเติมจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่ๆ ล่าสุดบริษัทฯ ประกาศร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่นเพื่อลงทุน
และพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 30 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการราว 3.0 พันลบ. ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2560 นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเปิดเผยอีกว่าอยู่ในระหว่างเจรจาการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นเพิ่มเติมอีก 2 -3 โครงการ ซึ่งราคาหุ้นปัจจุบันซึ่งซื้อขายกันที่ระดับ PER ปีนี้ที่เพียง 7.0 เท่า ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจในมุมมองของการเติบโตของธุรกิจดังกล่าว ในส่วนของ Price Pattern ของ SPCG ยังคงมีความแข็งแกร่งในระยะสั้นจากการเกิด Daily Buy Signal มาระยะหนึ่งแล้ว และหากในวันนี้ซึ่งเป็นการปิดตลาดรายสัปดาห์ หาก Price Pattern ของ SPCG สามารถปิดตลาดได้เหนือ 20.80 บาท ก็จะทำให้ Price Pattern ของ SPCG กลับมามีความแข็งแกร่งในระยะกลางจากการกลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ แต่ก็ยังคงถูกกดดันจากการเกิด Monthly Sell Signal อยู่ ทั้งนี้ เราคาดว่า SPCG จะไปทดสอบเป้าหมายแรกที่ 21.90 บาท และเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 23.50 บาท ตามลำดับ โดยมีจุด Stop Loss ของ SPCG ในรอบนี้อยู่ที่ 20.10 บาท (แนวต้าน: 20.70, 20.90, 21.00; แนวรับ: 20.50, 20.40, 20.20)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ไออาต้าเตือนกลุ่มการบินของไทย สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ได้กล่าวเตือนการเติบโตของกลุ่มอุตสาหกรรมการบินของไทยว่าอยู่ในจุดที่น่ากังวลเช่นเดียวกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหากไม่มีการแก้ไขประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย กำลังผลิตรวมถึงกำลังคนและต้นทุนเป็นการเร่งด่วน (Bangkok Post)
ม.หอการค้าไทยหั่นการเติบโตเศรษฐกิจไทยลงเหลือ 3-3.5% จาก 3.5-4% โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจยังซึมลึกสะท้อนจากตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค. ลงไปต่ำสุดรอบ 4 เดือนใน ม.ค. แม้ว่าจะมีจะมีช่วงตรุษจีนและวาเลนไทน์ คนก็ยังระมัดระวังใช้จ่าย โดยสิ่งที่จะช่วยได้คือรัฐบาลต้องเร่งการใช้จ่ายและเร่งรัดให้เกิดกิจกรรมการท่องเที่ยว (Post Today)
คงอำนาจ คกร. หลังเลือกตั้ง รัฐบาลทหารได้เสนอให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (คกร.) ยังดำรงวาระออกไปได้หลังมีการเลือกตั้งทั่วไปแล้ว ซึ่งหากมีผลบังคับใช้แล้ว น่าจะทำให้มีอำนาจเหนือรัฐบาลที่เลือกตั้งมา โดยจากมีชัย ฤชุพันธ์ ระบุว่าร่างนี้เพื่อให้เป็นเกณฑ์พิเศษในช่วงเปลี่ยนผ่านเพื่อหลีกเลี่ยงการที่ประเทศจะกลับไปสู่วิกฤติอีกครั้ง (Bangkok Post)
BCP (29.25 บ. ซื้อ ราคาเป้าหมาย 45.50 บ.) รายงานผลขาดทุนสุทธิงวด 4Q58 อยู่ที่ 112 ลบ. พลิกจากผลกำไรสุทธิ 432 ลบ. ในงวด 3Q58 ก่อนหน้า แต่ฟื้นจากขาดทุนสุทธิ 2.50 พันลบ.ในงวด 4Q57 ผลประกอบการทั้งปี 2558 เป็นกำไรสุทธิอยู่ที่ 4.15 พันลบ. ปรับตัวสูงขึ้นถึง 483% YoY เป็นไปตามที่เราและตลาดคาดไว้ BCP ประกาศจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการงวด 2H58 ในอัตราหุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่สูงถึง 3.4% สำหรับครึ่งปี (6.8% เทียบรายปี) โดยมีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 2 มี.ค. (SET) ความเห็น: เรายังคงประมาณการและราคาเป้าหมายที่ 45.50 บ. ไว้เช่นเดิม ทั้งนี้ราคาหุ้นวันนี้น่าจะตอบรับในเชิงบวกจากการจ่ายเงินปันผลที่สูงกว่าคาด
CPALL (40.75 บ.) ในงานประชุมสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เมื่อวานนี้ สมาคมได้แถลงจุดยืนต่อกรณีธรรมภิบาลของผู้บริหารเรื่องการใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้นว่าสมาชิกของสมาคมซึ่งประกอบด้วยนักลงทุนสถาบันจะไม่ทำการซื้อและขายหุ้นรวมถึงหุ้นกู้ของ CPALL เพิ่มเติมหากยังไม่มีความชัดเจนในการแก้ปัญหาดังกล่าว (Bangkok Post) ความเห็น: เรื่องดังกล่าวอาจกระทบต่อการขายหุ้นกู้ของ CPALL รอบใหม่เพื่อนำมาชำระคืนหุ้นกู้ชุดเดิมมูลค่า 1.18 หมื่นลบ. ที่จะครบกำหนดในเดือน ต.ค. นี้ อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าหุ้นกู้ดังกล่าวจะยังมีรายย่อยสนใจซื้อได้ทั้งหมดหากให้อัตราผลตอบแทนที่จูงใจพอ นักลงทุนยังต้องจับตาการประชุมบอร์ดของ CPALL ในครั้งหน้าซึ่งจะจัดในวันที่ 23 ก.พ. ถึงต่อทีของบริษัทในการตอบรับเรื่องดังกล่าว
GLOBAL (8.55 บ., ซื้อ, AWS 59 TP 13.30 บ.) รายงานกำไรงวด 4Q58 ที่ 179 ลบ. เพิ่มขึ้น 9% YoY สำหรับผลประกอบการงวดปี 58 บริษัทมีกำไรสุทธิ 881 ลบ. เพิ่มขึ้น 26% YoY เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ที่ 872 ลบ. และ ตามประมาณการของบลูมเบริ์กที่ 861 ลบ. บริษัทได้ประกาศจ่ายปันผลเป็นเงินสดจากผลประกอบการปี 58 ที่ 0.046 บ./หุ้น และหุ้นปันผลที่ 0.05 บาท/หุ้น รวมจ่ายปันผลทั้งหมด 0.096 บ./หุ้น (2.25% p.a.) วันขึ้นเครื่องหมาย XD 15 มี.ค. บริษัทยังได้ประกาศเพิ่มทุน 174 ล้านหุ้นเพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผลดังกล่าว (SET, AWS)
MTLS (ปิด 20.40 บาท ราคาเป้าหมายปี 59 ที่ 25.50 บาท) ประกาศกำไรสุทธิปี 58 ที่ 825 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.6% YoY ระหว่างที่กำไรสุทธิไตรมาส 4/58 เพิ่มขึ้น 9.1% QoQ และ 63.6% YoY อยู่ที่ 240 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังได้ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 58 ที่หุ้นละ 0.20 บาท โดยขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27 เม.ย. 59 (SET) ความเห็น: ผลการดำเนินงานนี้ไม่น่าแปลกใจเพราะบริษัทได้ดำเนินการขยายสาขาในเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 58 จำนวนสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 940 สาขา มากกว่าเป้าที่บริษัทตั้งไว้ที่ 900 สาขาก่อนหน้านี้
TRUE (Bt5.75) น่าจะได้แบงก์การันตีจากหกธนาคารได้แก่ ธ.กรุงเทพ ธ.กรุงไทย ธ.ไทยพาณิชย์ ธ.กสิกรไทย ธ.เกียรตินาคินและ ธ.ไอซีบีซี ข้อมูลแหล่งข่าว (Bangkok Post) ความเห็น: จากการสนับสนุนของแบงค์ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ TRUE ก็น่าจะได้ใบอนุญาต 900 เมกะเฮิร์ตซ์ ดังนั้นข่าวนี้จึงเป็นข่าวบวกสำหรับ TRUE.
ต่างประเทศ
ซาอุดิอาระเบีย “ไม่เตรียมตัว” ที่จะปรับลดกำลังการผลิต นายอเดล อัล จูเบอีร์ รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดิอาระเบียกล่าว ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นกว่า 14% ในช่วง 3 วันที่ผ่านมาหลังจากที่ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียรับรองแผนเมื่อวันพุธที่จะตรึงกำลังการผลิตให้อยู่ในระดับเดียวกับเดือนมกราคม นายไบจัน ซันเกเนห์ รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันอิหร่านยอมรับแผนดังกล่าวโดยไม่ได้ผูกมัดที่จะทำตามแผน (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ แม้หลังจากมีความเห็นในเชิงควบคุมอัตราเงินเฟ้อ (Hawkish) จากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ว่าไม่ฉลาดในตอนนี้สำหรับเฟดที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากมีความคาดหวังเกี่ยวกับเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำและตลาดมีความผันผวน เงินยูโรอ่อนค่าลง 0.32% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 1.1091 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินเยนเพิ่มขึ้น 0.74% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 113.24 เยน (Reuters)
สหรัฐ :
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบเมื่อวันพฤหัส หยุดการขึ้นของตลาดติดต่อกัน 3 วันเนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลงหลังจากสินค้าคงคลังสหรัฐที่เพิ่มขึ้นและหุ้นวอลมาร์ทได้ฉุดตลาดหลังจากรายงานผลกำไรที่ตกต่ำ (Reuters)
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐลดลงอย่างไม่คาดคิดในสัปดาห์ก่อน เป็นการชี้ว่าตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง ตัวเลขเบื้องต้นของผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 7,000 ราย อยู่ที่ 262,000 ราย สิ้นสุดณ วันที่ 13 ก.พ. ตัวเลขดังกล่าวต่ำสุดนับแต่เดือนพ.ย. นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 275,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเลขดังกล่าวในปัจจุบันต่ำกว่า 300,000 รายติดต่อกัน 50 สัปดาห์แล้ว – ยาวนานที่สุดนับแต่ช่วงต้นของยุค 1970 (Reuters)
ภาคการผลิตสหรัฐที่กำลังดิ้นรนสามารถคงเสถียรภาพไว้ได้ จากกิจกรรมโรงงานในย่านมิดแอตแลนติกหดตัวในอัตราชะลอตัวในเดือนกุมภาพันธ์ เฟดสาขาฟิลาเดเฟียรายงานว่าดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจเพิ่มขึ้นอยู่ที่ -2.8 ในเดือนนี้จาก -3.5 ในเดือนมกราคม ดัชนีดังกล่าวในตอนนี้ติดลบติดต่อกัน 6 เดือนแล้ว (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดีปรับตัวลดลงหลังจากที่ก่อนหน้านี้ฟื้นตัวกลับไปสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ แม้ตลาดจะได้แรงหนุนจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แต่ถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ที่ปรับตัวลดลง (Reuters)
ผู้นำยุโรปเข้าร่วมประชุมหารือในประเด็นการถอนตัวจากการเป็นสมาชิกกลุ่ม EU ของอังกฤษ โดย Jean-Claude Juncker ประธานยูโรโซนค่อนข้างมั่นใจว่าอังกฤษจะยังคงอยู่ใน EU ต่อไป (Reuters)
เอเชีย :
ความเชื่อมั่นผู้ผลิตในญี่ปุ่นเดือน ก.พ. ยังคงอยู่ในระดับต่ำ และคาดจะยังซบเซาในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของเศรษฐกิตโลกที่ชะลอตัว อ้างอิงจากการสำรวจของ Reuters (Reuters)
จีนประกาศดำเนินงานทางตลาดเงินในทุกวันทำการ ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่าทางธนาคารจะดำเนินงานทางตลาดเงิน (Open Market Operations) ในทุกวันทำการ โดยจะเริ่มมีผลในวันที่ 18 ก.พ. เทียบกับก่อนหน้านี้ที่ PBOC ทำ OMO เพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้ง (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
เบรนด์ร่วงแต่ WTI บวกลดลงในวันพฤหัส จากตัวเลขแสดงให้เห็นว่าน้ำมันดิบสหรัฐในคลังเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์กลบเรื่องแผนการลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตน้ำมันหลัก Brent ลดลง 22 เซนต์ (+7.3%) อยู่ที่ 34.28 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากที่ขึ้นไปกว่า 1.20 ดอลลาร์ก่อนจะมีตัวเลขออกมา น้ำมันดิบล่วงหน้าสหรัฐ ปรับขึ้นเล็กน้อย 11 เซนต์ ปิดที่ 30.77 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากตอนแรกขึ้นไป 31.98 ดอลลาร์ (Reuters)
น้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นสัปดาห์ที่แล้ว สูงเป็นประวัติการณ์เพราะการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นและโรงกลั่นเพิ่มกำลังการผลิต ข้อมูลจาก EIA ระบุในวันพฤหัส สต็อกน้ำมันดิบเพิ่ม 2.1 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์สิ้นสุด 12 ก.พ. ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.9 ล้านบาร์เรล แตะจุดสูงสุดที่ 504.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สาม แตะจุดสูงสุดในเดือนที่แล้ว (Reuters)
ราคาทองพุ่งกว่า 2% วันพฤหัส หักล้างการเป็นลบช่วงก่อนหน้าเพราะตลาดหุ้นโลกกลับมาเป็นขาลง ราคาทองคำตลาดจร เพิ่มขึ้น 2.1% ปิด 1,234.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังพุ่งต่อเนื่อง 35 ดอลลาร์ในช่วงระหว่างวัน ราคาทองคำล่วงหน้าส่งมอบ เม.ย.เพิ่ม 1.2% ปิด 1,226.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331