- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 19 February 2016 17:09
- Hits: 1227
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
แม้จะมีแรงขายกดดันอยู่ แต่คาดผันผวนและย้อนลบแค่กรอบจำกัด...
กลยุทธ์ : ถึงแม้ว่า SET ยังมีแรงขายทำกำไรช่วงบวกกดดัน ทำให้ค่อนข้างผันผวนและยังมีโอกาสย้อนลบให้เห็นได้ แต่เรายังคาดหมายว่ากรอบลบค่อนข้างจำกัด และยังลุ้นแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนให้ดัชนีรีบาวด์ขึ้นต่อได้อีกตามคาดเดิม ดังนั้น FSS ยังแนะนำให้เน้นถือต่อเนื่องหลังจากเลือกหุ้นซื้อช่วงลบไปแล้ว เพื่อลุ้นดัชนีขยับขึ้นไปใกล้เคียง 1350 จุดได้ในช่วงถัดไปเช่นเดิม
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BIG, RCI, EARTH(buy back)
แนวโน้ม : ถึงแม้ว่า SET จะมีจังหวะพักตัวย้อนลบเล็กน้อยในภาคบ่ายวานนี้ แต่สุดท้ายยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนให้กลับมาปิดเป็นบวกได้ดีอยู่ ทำให้แม้ว่าตลาดจะผันผวนไปบ้าง แต่ก็ยังมีแนวโน้มที่จะขยับบวกต่อเนื่องตามคาดได้ แต่เช้านี้อาจจะยังมีแรงกดดันจากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นต่างประเทศอีก หลังจากราคาน้ำมันดิบที่บวกขึ้นแรงวันก่อนเริ่มลดช่วงบวกลงเมื่อคืนนี้ จากรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งท่าทีของซาอุดิอาระเบียที่ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ปรับลดการผลิตในระยะนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ก็เริ่มมีแรงขายทำกำไรหลังดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วง 3 วันที่ผ่านมา จึงทำให้นักลงทุนทำกำไรลดความเสี่ยง นอกจากนี้วอลมาร์ทยังปรับลดคาดการณ์ยอดขายปีนี้ลงด้วย อย่างไรก็ตามกรอบการปรับตัวลงของตลาดหุ้นเอเชียช่วงเปิดเช้านี้ถือว่าไม่ได้รุนแรงนัก และบางแห่งยังมีแรงซื้อหนุนให้รีบาวด์กลับเป็นบวกได้ด้วย ส่วนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ยังทรงตัวได้ดีแม้ว่าจะอ่อนตัวลงบ้างก็ตาม ทำให้ FSS ยังคาดว่ากรอบลบของ SET มีจำกัดและยังลุ้นบวกต่อได้อยู่
แนวรับ 1292-1287 , 1282-1275 จุด
แนวต้าน 1299-1301 , 1304-1308 , 1310-1313 จุด
Fund Flow วานนี้เงินทุนไหลเข้าภูมิภาคหนาแน่น US$500ล้าน นำโดยไต้หวัน US$338.9ล้าน และเกาหลีใต้ US$114.3ล้าน ขณะที่กลุ่ม TIP ไหลเข้ารวม 45 ล้าน ซึ่งไหลเข้าทั้งไทยและอินโดนีเซีย ขณะที่ไหลออกฟิลิปปินส์ประเทศเดียว US$16.8 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนในวันนี้มีทิศทางไหลเข้าเนื่องจากมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องจากญี่ปุ่น จีน และยุโรป แต่อาจชะลอตัวลงเนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้หลังซาอุฯส่งสัญญาณไม่ปรับลดการผลิตและความกังวลต่อภาวะ oversupply
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) AAV เราคาดกำไรปกติ 4Q15 +15% Q-Q ตามฤดูกาล แต่ลดลง 10% Y-Y เพราะค่าโดยสารต่อรายถูกกระทบจากนักท่องเที่ยวที่หายไปจากเหตุระเบิดเดือน ส.ค. แต่กำไรจาก FX ช่วยลดผลกระทบ ทำให้กำไรสุทธิ +382% Q-Q, +2.7% Y-Y และทำให้กำไรสุทธิทั้งปี +2,481% Y-Y คาดปีนี้โตต่อ 25% Y-Y จากการเพิ่มฝูงบินเป็น 50 ลำ ขยายผู้โดยสาร 16% ตั้งเป้า Load factor 82% และขยายตลาดไปอินเดียรองรับการชะลอของนักท่องเที่ยวจีน เป้าตั้งกล่าวอยู่ในเกณฑ์เป็นไปได้ คงราคาพื้นฐาน 6 บาท แนะนำซื้อ
(+) PLANB กำไรเป็นไปตามคาด ลดลง 5.3% Q-Q จากค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล แต่ยังเติบโตสูง 28.4% Y-Y จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงหลัง IPO ทำให้กำไรทั้งปีโต 93.7% Y-Y เราคาดกำไรปี 2016 โตต่อเนื่อง 35% Y-Y จากรายได้จาก Hello Bangkok ที่คาดเพิ่มขึ้นเท่าตัว ขณะที่รายได้จากสื่อโฆษณานอกบ้านยังโตในอัตราสูงปีละกว่า 30% และค่อยๆเก็บเกี่ยวประโยชน์จากการไปลงทุนสื่อโฆษณาในมาเลเซียในช่วง 1-2 ปีนี้ เรายังคงราคาพื้นฐาน 7.10 บาท คงคำแนะนำซื้อ
(+) DELTA กำไรเป็นไปตามคาด แม้กำไรสุทธิ 4Q15 ลดลง 1.8% Q-Q แต่กำไรปกติเป็นไปตามคาด +4% Q-Q ทั้งที่เป็น low season เพราะคำสั่งซื้อที่เลื่อนมาจากไตรมาสก่อนหน้า ประกอบกับ Product mix ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น ซึ่งเป็นเหตุผลหลักทำให้กำไรปกติทั้งปีโตได้ 13.8% Y-Y ทั้งที่รายได้โตเพียง 6.5% Y-Y เราคาดกำไรปกติปีนี้ +19.4% Y-Y คงราคาพื้นฐาน 86 บาท ราคาหุ้นปรับลงมาจนทำให้ upside กว้างขึ้นและมี Dividend yield 4% (จ่าย 3.1 บาท/หุ้น) เพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ จากถือ
(+) MTLS กำไรเป็นไปตามเราคาดแต่ดีกว่าตลาดคาด +9.1% Q-Q, +63.6% Y-Y จากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นตามการขยายตัวของสินเชื่อ ทำให้กำไรทั้งปี +52% Y-Y โมเมนตันยังดีต่อใน 1Q16 เรายังคงคาดกำไรปีนี้ +36% Y-Y จากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่กว้างขึ้นจากการระดมทุนโดยล็อคเงินระยะยาวให้มากขึ้นที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ เรายังคงแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 25 บาท
(0) BANPU มีผลขาดทุนสุทธิ 1,477 ล้านบาทใน 4Q15 เป็นไปในทิศทางที่ตลาดคาด ทำให้ทั้งปีกำไรเป็นขาดทุนสุทธิ 1,534 ล้านบาท การขาดทุนส่วนใหญ่มาจากขาดทุนจากอนุพันธ์ ขณะที่ธุรกิจถ่านหินก็แย่ลงมากตามราคาถ่านหินที่ตกต่ำ อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีการบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์ตามที่ตลาดเคยกังวลก่อนหน้านี้ และโอกาสในระยะถัดไปก็น้อยลงเพราะโครงสร้างต้นทุนของแต่ละเหมืองค่อนข้างต่ำอยู่แล้ว แม้ว่าธุรกิจถ่านหินจะยังไม่ฟื้นแต่การเติบโตจากนี้จะเน้นธุรกิจไฟฟ้ามากขึ้น ราคาหุ้นมี downside จำกัดตามราคาถ่านหิน เรายังคงราคาพื้นฐาน 24 บาท คำแนะนำเป็นซื้อลงทุน
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดลบเป็นวันแรงหลังพุ่งขึ้น 3 วันทำการ โดยนักลงทุนยังจับตาราคาน้ำมันและข่าวจากบริษัทจดทะเบียน
(0) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดผสม โดยตลาดให้น้ำหนักกับการเคลื่อนไหวของราคาสินค้า Commodity ที่เริ่มกลับมาผันผวนอีกครั้ง
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวในแดนลบตามตลาดหุ้นสหรัฐฯหลังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้น
(0) ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวออกข้างในกรอบ 35.50-35.65 บาท/ดอลลาร์
(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ขยับขึ้น 0.11 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 30.77 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยว่าการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามยังถูกกดดันจากตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ปิดบวก 14.90 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,226.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มปรับตัวผันผวนและย้อนลบอีกครั้ง ทำให้นักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19-ก.พ. - ตลาดหุ้นอินเดียปิดทำการ เนื่องในวัน Chhatrapati Shivaji
- สิงคโปร์: 2015 GDP
- สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.)
22-ก.พ. - ตลาดหุ้นไทยปิดทำการ เนื่องในวันมาฆบูชา
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.พ.)
23-ก.พ. - สหรัฐ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.พ.), ยอดขายบ้านเก่า (ม.ค.), ดัชนีราคาบ้าน S&P/CaseShiller Index (ธ.ค.)
24-ก.พ. - ฮ่องกง: 2015 GDP (ตลาดคาด +2.3% ชะลอจากปีก่อนที่โต 2.5%)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (ม.ค.)
25-ก.พ. - ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการ วันปฎิวัตประชาชน Edsa People Power
- ไทย: ดุลการค้า (ม.ค.)
- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ม.ค.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.)
26-ก.พ. - สหรัฐ: 4Q15 GDP (ตลาดคาด +0.5% Q-Q ชะลอจากคาดการณ์ครั้งก่อนที่ +0.7% Q-Q)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.พ.)
29-ก.พ. - ไทย: วันสุดท้ายส่งงบการเงินปี 2015, ธปท.รายงานเศรษฐกิจเดือน ม.ค.
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch