- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 15 February 2016 17:45
- Hits: 1426
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ก่อน (8 – 12 กุมภาพันธ์ 59)
SET ปิดปรับตัวลดลง จากสัปดาห์ก่อนโดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลต่อระบบธนาคารในยุโรป และความผันผวนจากราคาน้ำมัน ขณะที่ในประเทศไม่มีปัจจัยเพิ่มเติมที่โดดเด่น ส่งผลให้เกิดแรงขายกดดัชนี ปิดสัปดาห์ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,276.49 จุดเปลี่ยนแปลงลดลง -29.8 จุด(-2.3%WoW)
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้
(+) PBOC กล่าวว่า จะไม่มีการอ่อนค่าเงินหยวนอีก เนื่องจากค่าเงินหยวนอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ และการไหลเข้าออกของเงินทุนอยู่ในระดับปกติ จึงไม่มีความจำเป็นต้องควบคุมการไหลเข้าออก
(+) ราคาน้ำมันปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น หลัง OPEC แสดงความพร้อมที่จะเจรจากับผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิต
(-) ญี่ปุ่นรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ปี 58 หดตัวลง 1.4% ต่ำกว่า Bloombergn Estimate จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อ่อนแอลง
(-) BOT ประเมินแนวโน้ม NPL ของธนาคารจะเพิ่มขึ้นในปี 59 ก่อนทยอยปรับตัวลดลงจากการที่เศรษฐกิจฟื้นตัวล่าช้า
(+/-) ความไม่แน่นอนของระบบธนาคารในยุโรปยังคงมีอยู่ จากความกังวลต่อการผิดนัดชำระหนี้ของธนาคารขนาดใหญ่นำโดยดอยช์แบงก์
(+/-) ตลท. ขยายเวลา Cash Balance หุ้น KOOL 15 ก.พ.-4 มี.ค.59
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* การเปิดทำการของตลาดหุ้นจีนเป็นวันแรก
* แนวโน้มราคาน้ำมัน
* Earning Season ของไทย
* การรายงานผลการประชุม FOMC เดือนม.ค. ในวันที่ 18 ก.พ.
* การประชุม EU summit ที่กรุงบรัสเซลส์ ต่อประเด็นที่สหราชอาณาจักรจะจัดลงประชามติเพื่อออกจากสมาชิกอียู (Brexit)
* ตัวเลขเศรษฐกิจ สหรัฐ CPI เดือนม.ค. ยุโรป ความเชื่อมั่นผู้บริโภค จีนตัวเลขการส่งออก และ CPI
* ตัวเลขเศรษฐกิจไทย GDP ไตรมาส 4 และ GDP ปี 58
ความคิดเห็น
ประเมินภาพรวมดัชนีมีแนวโน้มผันผวน แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากการเปิดทำการวันแรกของตลาดหุ้นจีนหลังช่วงหยุดยาว แต่ด้วยการ Rebound ขึ้นของราคาน้ำมันที่ทำได้ในระดับดี สร้างแรงซื้อในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ทำให้เราคาดหมายแรงซื้อในตลาดหุ้นในช่วงต้นสัปดาห์เช่นกัน ขณะที่ความผันผวนของนาคารในยุโรปยังคงต้องติดตามต่อว่าผลกระทบจะมีจำกัดหรือไม่ ด้านในประเทศ ติดตามการรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ซึ่งได้รับผลดีจากนโยบายลดภาษีปลายปี ขณะที่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานยังคงเป็นกลไลหลักในการผลักดันบรรยากาศการลงทุนและเศรษฐกิจปี 59
กลยุทธ์การลงทุน
ประเมินหุ้นในกลุ่มพลังงานมีโอกาส Rebound ขึ้นในช้วงสั้น เปิดโอกาสในเก็งกำไร ขณะที่ภาพรวมการลงทุนที่มีความผันผวนในระยะกลาง ทำให้เรายังคงเน้นหุ้นที่มีการจ่ายปันผลน่าพอใจ ในกลุ่ม Property ที่ได้รับผลดีจากนโยบายรัฐ รวมไปถึงหุ้นขนาดกลางและเล็ก ที่คาดหมายการรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 โดดเด่น
วิเคราะห์ SET ประจำสัปดาห์ 15 -19 ก.พ. 59
กลับไปที่ 1,300 จุด
SET Closed 1,276.49 จุด High: 1,313.29 จุด Low : 1,270.84 จุด
Resistant : 1,286 , 1,304 Support : 1,270, 1,265
กราฟ SET เมื่อสัปดาห์ก่อนปรับตัวลงหลุดแนว minor up trend เป็นครั้งแรกในรอบเดือน ขณะที่ Stoch ลงสู่แนว Oversold ประกอบกับการอ่อนตัวลงของแท่งเทียนไม่หลุดแนวเส้นค่าเฉลี่ย 10+25 วัน ทำให้เกิดแรงซื้อในเชิงของ technical rebound ตามมาจากแนวขายเกิน โดยคาดว่าการดีดตัวจะเกิดตั้งแต่ต้นสัปดาห์และมุ่งหน้ากลับไปยืนบริเวณ R2 ที่ 1,304 จุดได้ ส่วนการจะผ่านแนวต้านนี้ไปได้หรือไม่ยังต้องประเมินปริมาณโวลุ่มที่เข้าเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามแนว minor up trend นี้สามารถขึ้นได้ถึง 1,330 จุดได้ถึงปลายเดือน
กลยุทธ์
1. เก็งกำไรตั้งแต่ต้นตลาด มองเป้าไปถึง 1,300 จุด
2. ถือหุ้นไปเรื่อยๆ หาก SET ยังคงเดินหน้าสูงขึ้น โดยกำหนดจุดขายทิ้งไว้จุดเดียวคือถ้าหลุด 1,270 จุด
3. หาก SET ผ่านแนว 1,304 จุดไปได้ ให้เริ่มทยอย take profit
หุ้นเด่นประจำสัปดาห์
PTTEP ราคาปิด 55.50 บาท
* เป็นผู้ได้ประโยชน์สูงสุดจากราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัว และมองเป็นตัวแทนการเก็งกำไรการรีบาวด์ของน้ำมันดิบ
* ฐานะการเงินแข็งแรงมี D/E ratio ที่ระดับ 0.73 เท่า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะอยู่รอดในภาวะซบเซาของอุตสาหกรรม
* ได้ประโยชน์จากค่าเงินที่แข็งค่าในช่วง 1Q59 จากรายการ deferred tax
แนวโน้มทางเทคนิค
PTTEP ราคาปิด 55.50 บาท แนวต้าน : 60 แนวรับ : 53
กราฟ PTTEP ที่อ่อนตัวเมื่อสัปดาห์ก่อนไม่หลุดเส้นค่าเฉลี่ยสำคัญของ 10+25 วันและยังเกิด Morning star ในแท่งเทียนช่วงวันสุดท้าย อีกทั้ง Stoch ผงกหัวขึ้น ส่งสัญญาณการฟื้นตัวในสัปดาห์นี้
กลยุทธ์
1.เข้าซื้อตั้งแต่ระยะต้นสัปดาห์ เก็งกำไรไปถึง 60 บาท
2. แบ่งขายทำกำไรทำรอบตามจังหวะ ถือหุ้นข้ามวันได้ เว้นแต่ราคาหลุด 53 บาทให้ขายทิ้ง