- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 10 February 2016 16:37
- Hits: 644
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
เลี่ยงความเสี่ยง
คาดหุ้นไทยปรับตัวลงต่อในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลกซึ่งยังคงปกคลุมด้วยความต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากความกังวลในผลประกอบการ และฐานะทางการเงินของธนาคารในยุโรปภายใต้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินอันยาวนาน จุดสนใจวันนี้และพรุ่งนี้อยู่ที่คำแถลงของนางเยลเลนประธาน Fed ต่อรัฐสภาสหรัฐว่าจะมีอะไรเอื้อต่อตลาดบ้าง ในขณะที่ปัจจัยภายในวันนี้ก้ำกึ่ง มาตรการช่วยเหลือ SME เพิ่มเติมของ Exim Bank เป็นบวกแน่นอน แต่ความกังวลของบรรดาทูตประจำประเทศไทยต่อร่างรัฐธรรมนูญก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ
หุ้นเด่นวันนี้ : GLOW (ราคาปิด 77.00 บาท; NR; ราคาเป้าหมาย Bloomberg 84.89 บาท)
ราคาหุ้นบมจ. โกลว์ พลังงาน ปัจจุบันได้ปรับตัวลดลงจนให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่สูงถึงระดับ 6.0% ต่อปี และมีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทฯ จะจ่ายเงินปันผลในอัตราที่มากขึ้น จากปัจจุบันที่จ่ายในระดับไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ เนื่องจากมีเงินสดในมือมากและไม่มีแผนการลงทุนใหญ่ๆ ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้านี้ นอกจากนี้ GLOW ที่มีค่า Beta เพียง 0.84 เท่าและมีความสม่ำเสมอของกระแสเงินสดยังมีความน่าสนใจลงทุนภายใต้ความผันผวนของภาวะตลาดในปัจจุบัน GLOW รายงานกำไรสุทธิปี 58 หดตัวลง 9% YoY มาอยู่ที่ 8.4 พันลบ. เนื่องจากการหยุดซ่อมบำรุงของโรงไฟฟ้าถ่านหิน Gheco One ในช่วงปี อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าจากนี้บริษัทฯ จะสามารถรักษาระดับกำไรสุทธิในปัจจุบันได้ เช่นเดียวกับการจ่ายเงินปันผล แม้ว่าผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า IPP จะผ่านจุดสูงสุดมาแล้วก็ตาม เนื่องจากเราเชื่อว่าอัตราการทำกำไรของบริษัทฯ จะดีขึ้นตามต้นทุนพลังงานที่ลดลง รวมไปถึงผลบวกจากการอ่อนค่าของเงินบาทเทียบดอลลาร์ฯ ที่จะช่วยผลักค่าไฟฟ้าขายให้อยู่ในระดับสูง (ค่าไฟฟ้าเชื่อมโยงกับค่าเงินดอลลาร์ฯ 50%-90%) ประกอบกับการไม่มีแผนหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ ในส่วนของ Price Pattern ของ GLOW มีความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลางจากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal แม้ว่ายังคงโดนกดดันจากการเกิด Monthly Sell Signal อยู่ก็ตาม โดยคาดว่าในเบื้องต้นจะได้เห็นการปรับตัวขึ้นเพื่อไปทดสอบเป้าหมายแรกที่ 79.50 บาท และเป้าหมายเบื้องต้นที่ 83.50 บาท ตามลำดับ และหาก Price Pattern ของ GLOW ยังมีความแข็งแกร่งที่มากพอด้วยการปิดตลาดเหนือ 83.50 บาทได้สำเร็จ คาดว่ายังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อเพื่อทดสอบเป้าหมายถัดไปที่ 87 บาท และเป้าหมายสำคัญที่ 90.25 บาท ตามลำดับ โดยมีจุด Stop Loss ในรอบนี้อยู่ที่ 75 บาท (แนวต้าน: 77.50, 78.25, 79.25; แนวรับ: 76.75, 76.00, 75.00)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ทูตต่างประเทศกังวลร่าง รธน. คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญและ ก.ต่างประเทศได้มีการแถลงการณ์วานนี้เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญแก่ฑูตจาก 63 ประเทศและตัวแทนจากองค์กรระหว่างประเทศ 11 องค์กร ได้มีข้อกังวลหนึ่งคือสงสัยว่าร่างรัฐธรรมนูญจะสามารถป้องกันความขัดแย้งทางการเมืองได้หรือไม่ รมว.ต่างประเทศ ดอน ปรมัตถ์วินัย กล่าวว่ากระทรวงจะนำคำแนะนำเหล่านี้ไปใส่ในร่างรัฐธรรมนูญ (Bangkok Post)
ธนาคาร EXIM จะช่วยกระตุ้น SMEs ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM) มีแผนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยลดภาระหนี้แก่ผู้ส่งออกที่เป็น SMEs เช่นเดียวกับการสนับสนุนเจ้าของกิจการในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดย EXIM ตั้งเป้าการปล่อยเงินกู้อีก 3.5 หมื่นลบ.และเพิ่มยอดการเบิกเงินกู้เป็น 7.6 หมื่นลบ. ในปีนี้ และอัตราส่วนต่างดอกเบี้ยจะต่ำกว่า 3% จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.05%
รัฐบาลควบคุมผู้ค้าจีน รัฐบาลได้ควบคุมการค้าผลไม้เข้มงวดขึ้นหลังจากผู้ค้าชาวจีนได้เริ่มทำการติดต่อโดยตรงกับเกษตรกรไทยและจัดการส่งออกด้วยตนเองแทนการติดต่อผ่านนายหน้าชาวไทย ส่งผลให้มีความกังวลในระยะยาวว่าผู้ค้าชาวจีนอาจขยายตัวและควบคุมตลาดและส่งผลกดดันราคาในที่สุด อันจะส่งผลต่อเกษตรกรไทยและผู้ประกอบการค้าขายท้องถิ่นรายเล็ก (Bangkok Post)
IRPC (4.24 บ.) รายงานกำไรสุทธิงวด 4Q58 อยู่ที่ 447 ลบ. ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดที่ 421 ลบ. โดยปรับตัวลดลง 50% QoQ และพลิกจากขาดทุนสุทธิ 5.8 พันลบ. ในงวด 4Q57 โดยผลประกอบการได้รับแรงกดดันจากขาดทุนสินค้าคงคลังราว 2.0 พันลบ. และผลขาดทุนจากการป้งกันความเสี่ยงโดยใช้อนุพันธ์อีก 774 ลบ. แต่ทั้งนี้ค่าการกลั่นตลาดปรับตัวสูงขึ้นโดดเด่นถึง 48% QoQ และ 50% YoY มาอยู่ที่ 7.09 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล จากผลของฤดูกาลฤดูหนาวและการสูญเสียในกระบวนการกลั่นที่ลดน้อยลงภายใต้ภาวะราคาน้ำมันดิบในระดับต่ำ (SET)
SPCG (20.50 บ.) ร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่นเพื่อลงทุนและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 30 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการราว 3.0 พันลบ. ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2560 นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเปิดเผยอีกว่าอยู่ในระหว่างเจรจาการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มเติมอีก 2 โครงการ ซึ่งหากสำเร็จจะช่วยให้กำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัทฯ ในญี่ปุ่นขยายตัวแตะระดับ 100 มะกะวัตต์ ทั้งนี้ดีลโครงการต่างๆ ดังกล่าวถือเป็นไปตามแผนธุรกิจของ SPCG ที่จะขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้ถึงระดับ 500 เมกะวัตต์ภายในปี 2562 จากปัจจุบันที่ระดับ 260 เมกะวัตต์ (Bangkok Post)
ต่างประเทศ
นางเยลเลนจะแถลงต่อสภาคองเกรสเกี่ยวกับการคงอัตราดอกเบี้ย นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านบริการทางการเงินแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพุธที่จะถึงนี้ และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาในวันพฤหัสบดี คาดว่านางเยลเลนอาจจะไม่ส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.และน่าจะยืนกรานว่ายังมีโอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ยในครั้งต่อ ๆ ไปในปีนี้ถึงแม้จะอยู่ในจังหวะชะลอตัว (Reuters) ความเห็น: นักลงทุนต้องการทราบความคิดเห็นของนางเยลเลนเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐและทิศทางอัตราดอกเบี้ยหากเฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงฤดูร้อนปี 2017 เนื่องจากสถานการณ์ของตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน
ดอลลาร์สหรัฐร่วงหนักเมื่อวันอังคาร สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 เดือน โดยวัดจากดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากความกังวลภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวผลักดันให้นักลงทุนหันไปลงทุนในสกุลเงินที่มีความเสี่ยงต่ำอย่างเช่นเงินเยนและสวิสฟรังก์ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐลดลงอยู่ที่ 95.663 ต่ำสุดนับแต่ 22 ต.ค. มีการซื้อขายเงินดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ประมาณ 114.82 เยน ลดลง 0.9% เมื่อวันอังคาร (Reuters)
สหรัฐ :
ตลาดวอลล์สตรีทปิดลดลงเมื่อวันอังคาร โดยหุ้นในกลุ่มวัตถุดิบ (Materials) และกลุ่มการแพทย์และสุขภาพ (Healthcare) ของสหรัฐได้ทะยานขึ้นในช่วงท้ายของการซื้อขายในวงกว้างได้ชดเชยการร่วงลงอย่างหนักอีกครั้งของราคาน้ำมัน กลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่อ่อนแอที่สุดของวันเนื่องจากราคาน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 5% (Reuters)
มีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐในวันศุกร์นี้ เกี่ยวกับยอดค้าปลีกในเดือนม.ค. และตัวเลขประมาณการในเดือนก.พ. ของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคซึ่งจัดทำโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ว่ายอดค้าปลีกในเดือนม.ค. จะเพิ่มขึ้น 0.1% MoM เทียบกับที่ลดลง 0.3% ในเดือนธ.ค. และได้คาดการณ์ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนโดยอยู่ที่ 92.0 จุด (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปร่วง 7 วันติดวันอังคาร แตะจุดต่ำสุดในรอบ 2 ปีจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการคงดอกเบี้ยระดับต่ำต่อธนาคารทำให้ความเชื่อมั่นยังเปราะบาง (Reuters)
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเยอรมันร่วงใน ธ.ค. ในอัตราที่หนักสุดในรอบ 16 เดือนและการส่งออกยังลดลง เป็นสัญญาณถึงเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรปปิดสิ้นปี 58 ด้วยก้าวย่างที่อ่อนแอ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมร่วง 1.2% ใน ธ.ค. ต่ำกว่าคาดการณ์เฉลี่ยว่าจะเพิ่ม 0.4% และในไตรมาส 4/58 ร่วงไป 0.8% ทั้งการส่งออกและนำเข้าลดลง 1.6% ใน ธ.ค. ทำให้เกินดุลการค้าน้อยลงเหลือ 1.88 หมื่นล้านยูโร (2.101 หมื่นล้านดอลลาร์) นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าการส่งออกจะเพิ่ม 0.5% และการนำเข้าจะลดลง 0.5% และได้คาดว่าเกินดุลการค้า 2.02 หมื่นล้านยูโร อย่างไรก็ดีสำหรับปี 58 เยอรมันทำสถิติการเกินดุลการค้าที่ 2.478 แสนล้านยูโร (Reuters)
เอเชีย :
ดัชนีนิเคอิของญี่ปุ่นปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค.57 เมื่อวันพุธ โดยในช่วงเช้าของการซื้อขายที่ผันผวน ดัชนีได้ร่วงลงต่อเนื่องจากวันก่อนหน้าโดยหลักมาจากการแข็งค่าขึ้นของเงินเยน (Reuters)
รมว.การคลัง นาย Taro Aso กล่าวเตือนในวันอังคาร หลังจากที่ค่าเงินเยนปรับตัวขึ้น โดยอธิบายว่าเป็นการเคลื่อนไหวแบบผันผวนและเป็นสัญญาณที่สร้างความกังวลแก่ผู้ควบคุมนโยบายว่าผลจากค่าเงินที่แข็งขึ้นอาจกลบผลเชิงบวกจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่รู้จักกันในชื่ออะเบะโนมิกส์ (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันดิบร่วง 7% วันอังคาร เพราะตลาดหุ้นยังอ่อนแอ โดยคาดการณ์ว่าตัวเลขสต็อกน้ำมันที่สูงทำสถิติแล้วนั้นจะยังเติบโตได้อีก ในขณะที่แนวโน้มด้านอุปสงค์ต่อน้ำมันของโลกยังไม่แข็งแรงพอจะลดทอนอุปทานที่ล้นเกินได้ Brent ส่งมอบ เม.ย. ปรับลง 2.34 ดอลลาร์ (-7.1%) ปิด 30.54 ดอลลาร์ น้ำมันดิบสหรัฐปรับลง 1.45 ดอลลาร์ (-4.9%) ปิดที่ 28.23 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองเพิ่มขึ้นวันอังคาร แต่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าจุดสูงสุดรอบ 7 เดือนครึ่งที่ 1,200 ออนซ์ หนุนโดยความผันผวนของตลาดหุ้นและดอลลาร์ยังอ่อนตัว ราคาทองคำตลาดจรเพิ่มขึ้น 0.1% แตะ 1,192.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำล่วงหน้าส่งมอบ เม.ย. ปรับขึ้น 70 เซนต์ อยู่ที่ 1,198.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331
