- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 09 February 2016 17:00
- Hits: 708
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Sideways
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ แกว่งไต่ระดับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และขึ้นไปทดสอบด่านแถว 1,310-1,315 จุด แม้ว่าตลาดหุ้นในเอเชียปิดทำการเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่การเข้าซื้อหุ้น BIGC ของกลุ่มคุณเจริญ ทำให้หุ้นในกลุ่มคุณเจริญขยับขึ้นเด่น ทั้งนี้เกิดแรงขายทำกำไรในช่วงท้ายตลาด กดให้ SET INDEX บวกเพียง 1.28 จุด มาอยู่ที่ 1,307.57 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียง 27,024 ล้านบาท
ด้านกระแสเงินทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 เพียง 45 ล้านบาท แต่ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 มากถึง 13,443 สัญญา แม้ว่าจะขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 1,132 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ตลาดหุ้นจีน / ไต้หวัน /เวียดนาม ปิดทำการตลอดทั้งสัปดาห์นี้
กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอตัว เนื่องจาก ฮ่องกงและสิงคโปร์ ปิดทำการวันนี้
ติดตามการประชุมครม.วันนี้ อาจมีการพิจารณาแผนการลงทุนขนาดใหญ่ หลังงดการพิจารณามาระยะหนึ่ง
ราคาน้ำมันดิบ NYMEX กลับมาปิดต่ำกว่า US$30/barrel ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า COMEX ใกล้ทดสอบด่าน US$1,200/ounce
ค่าเงินเยนแข็งค่าแตะระดับ Yen115/US$ เช้านี้ กดดันตลาดหุ้น Nikkei
มุมมองต่อตลาด
เราประมาณการกรอบแกว่งของ SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1,300-1,315 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระดับ 3.0 หมื่นล้านบาท/วัน ใกล้เคียงกับวันก่อนหน้า เพราะยังเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน Financial Hub ฮ่องกง และ สิงคโปร์ ยังคงปิดการทำการอีกวัน
ประเด็นสำคัญคือ ต่างชาติ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 มากถึง 13,443 สัญญา เป็นระดับที่หนาแน่น และทำให้ QTD นักลงทุนต่างชาติ Long สุทธิมากถึง 87,781 สัญญา สะท้อน Downside risk ของตลาดหุ้นไทยในมุมมองของต่างชาติเป็นไปอย่างจำกัด ตามความเห็นของเรา ส่วนหนึ่งเป็นผลจากเงินปันผลงวดปี 2558 หรือ 2H58
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่นักลงทุนทั่วโลกต่างรอฟังคือ ถ้อยแถลงของประธานเฟดในค่ำคืนวันพุธ และพฤหัสบดี ตามเวลาประเทศไทย เพื่อประเมินโอกาสที่เฟดจะพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.นี้ได้หรือไม่ ตามความเห็นของเรา เชื่อว่าเฟดจะอ้างถึงความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลก และราคาน้ำมันดิบที่ยังอยู่ในระดับต่ำ จะกดดันอัตราเงินเฟ้อในระยะกลางถึงยาว จนทำให้เฟดต้องประวิงเวลาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปอีกระยะหนึ่ง แต่ยังคงยืนยันที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้เช่นเดิม
เมื่อปัจจัยสำคัญ ยังต้องรอความชัดเจน หุ้นขนาดกลางและเล็กน่าจะกลับมาโดดเด่นในช่วง 1-2 วันนี้ หุ้นขนาดใหญ่จะเข้าสู่โหมดการพักฐานช่วงสั้น
กลยุทธ์การลงทุน
เราแนะนำให้ "นักลงทุนอาจพิจารณาขายทำกำไรรอบสั้นบริเวณ 1,310 จุด +/- เพิ่มขึ้น และพร้อมเข้าซื้อเก็งกำไร หากราคาหุ้นเป้าหมายย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย"
Speculative Buy: AAV/ TASCO
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "เก็งกำไร" ได้แก่
1. TASCO : ราคาปิด 31.25 บาท ราคาเหมาะสม 45.00 บาท
a) MBKET คาดว่าราคาหุ้นจะได้ Sentiment เชิงบวก หลังราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนนี้ ได้แก่ NYMEX -3.8% และ BRENT -3.5% dod เนื่องจาก TASCO เป็น 1 ในบริษัทที่ได้ประโยชน์จากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบ และจะส่งผลให้ส่วนต่างราคายางมะตอยเพิ่มสูงขึ้น
b) แม้ผลประกอบการ 4Q58 คาดว่าจะชะลอตัวลง -16% qoq แต่ยังเพิ่มขึ้นถึง +135% yoy เป็น 1,221 ล้านบาท จากยอดขายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.15 แสนตัน เติบโต +25% yoy และ +2% qoq อย่างไรก็ตามอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงเหลือ 20% จากไตรมาสก่อนที่ 22% ส่งผลให้กำไรสุทธิจะลดลง qoq แต่ดีขึ้นมากจาก 4Q57 ที่อัตรากำไรขั้นต้นต่ำเพียง 8%
c) หากกำไรสุทธิ 4Q58 ออกมาใกล้กับคาดการณ์ จะส่งผลให้กำไรสุทธิปี 2558 เติบโตสูงถึง +326% yoy เป็น 5,117 ล้านบาท
d) คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2559 จากแรงหนุนของยอดขายยางมะตอยที่ 2.7 ล้านตัน แบ่งเป็นส่งออก 2.2 ล้านตัน และในประเทศที่ 5 แสนตัน ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากแผนลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ ดังนั้น เราคาดว่ากำไรสุทธิปี 2559 จะทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 5,314 ล้านบาท
e) Valuation ไม่แพง ซื้อขายระดับ PER2559 ที่ 9.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มรับวัสดุก่อสร้างที่12.7 เท่า
2. AAV : ราคาปิด 5.55 บาท ราคาเหมาะสม 6.50 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มสายการบินจะปรับตัว Outperform ตลาดในวันนี้ จาก Sentiment บวกหลังราคาน้ำมันดิบ NYMEX และ BRENT ปรับตัวลง -3.8% dod และ -3.5% dod
b) เนื่องจากต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นต้นทุนหลักในการดำเนินธุรกิจสายการบิน ซึ่งแทบทุกสายการบิน ณ ปัจจุบัน ไม่มีการซื้อสัญญาล่วงหน้าน้ำมัน เพื่อเปิดรับประโยชน์อย่างเต็มที่กับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่อยู่ในช่วงขาลง
c) เราประเมินว่าผลการดำเนินงานของ AAV ใน 4Q58 เติบโต yoy และ qoq อย่างโดดเด่น จากผลของฤดูกาล และต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินที่ลดลง และด้วยราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวในระดับต่ำเชื่อว่าจะเป็น Upside Risk ต่อประมาณการกำไรปี 2559 ให้มีโอกาสถูกปรับขึ้นได้เช่นกัน
d) การเปิดอาคาร 2 ของสนามบินดอนเมือง ย่อมเป็นบวกต่อธุรกิจโลว์คอร์สแอร์ไลน์ อย่าง AAV จะสามารถเพิ่มปริมาณการรองรับเที่ยวบิน และ จำนวนผู้โดยสารได้มากขึ้น ทำให้แนวโน้มผลประกอบการปี 2559 เติบโตเด่น นอกเหนือจากอานิสงค์ของต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลง และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเป็นบวกต่อรายได้การให้บริการเส้นทางบินในประเทศ และส่งผลให้ Passenger Yild ปรับตัวขึ้น ดังนั้น คาดว่ากำไรปกติปี 2559 จะเติบโต +29.7% yoy เป็น 2,244.6 ล้านบาทในปี 2559
e) Valuation มีความน่าสนใจ ซื้อขายระดับ PER16 เพียง 12.1 เท่า เทียบกับ BA ที่ 21.1 เท่า ส่วน NOK / THAI แม้ว่าจะมี valuation ที่ถูกกว่า AAV แต่ในแง่ของภาพธุรกิจขาดทิศทางที่ชัดเจน ส่งผลต่อแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจยังเป็นสิ่งที่เรากังวล
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิเล็กน้อย เนื่องจากตลาดส่วนใหญ่ปิดทำการ
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติ Long สุทธิใน SET50 Index Futures อย่างหนาแน่น
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 เพียง 45 ล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิ 1,844 ล้านบาท เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 2,614 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิลดลงเล็กน้อย เป็น 8,738 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 3 มากถึง 13,443 สัญญา รวม 3 วันทำการ Long สุทธิ 28,184 สัญญา เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 10,913 สัญญา คาดเป็นการเปิดสถานะ Long ต่อเนื่อง และ S50H16 ยืนเหนือ 810 จุดต่อเนื่อง แต่กดดันให้ S50H16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเหลือ 10.88 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 11.68 จุด ทำให้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิทะลุ 80,000 สัญญา มาเป็น 87,781 สัญญา
แม้ว่า ตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เพียง 1,132 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 10,636 ล้านบาท เมื่อค่าเงินบาทแข็งค่าทะลุแนว 35.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใต้ราคาพันธบัตรไทยแกว่งในกรอบแคบ ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เพียง 0.83bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 0.02bps ปิดที่ 2.291%
Short-Selling วานนี้
ลดลงเป็นวันที่ 3 เหลือ 536 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 849 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR กลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ แต่เป็นเพียงการปรับน้ำหนักระหว่างกลุ่มหลักเท่านั้น
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาเป็นการขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เพียง 3 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,250 ล้านบาท โดยเป็นการปรับน้ำหนักการลงทุนระหว่างกลุ่มหลักเท่านั้น สรุปภาพรวมได้ดังต่อไปนี้
1. กลุ่มธนาคารกลับถูกขายสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 147 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 520 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม ICT ขายสุทธิ 116 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 549 ล้านบาท และกลุ่มค้าปลีก ขายสุทธิ 22 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มพลังงานซื้อสุทธิสูงสุด 138 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 403 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 70 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 110 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ไม่มี
ยุโรป
ไม่มี
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
รัสเซียเตรียมออกขายพันธบัตรครั้งแรกนับตั้งแต่มาตรการคว่ำบาตร: รมว.คลัง รัสเซีย เตรียมเสนอขายพันธบัตรมูลค่า 3.0 พันล้านยูโร อายุ 10 ปี ถือเป็นการเสนอขายครั้งแรกนับตั้งแต่ยุโรปเริ่มใช้มาตรการคว่ำบาตรตั้งแต่ปี 2557 จากกรณีความวุ่นวายในยูเครน
เศรษฐกิจอินเดียคาดขยายตัวในอัตราเร่ง: รมว.ด้านสถิติ ประเมินเศรษฐกิจปี 2558 สิ้นสุดเดือนมี.ค. 2559 ขยายตัว 7.6% จากปีก่อนหน้าที่ 7.2% สูงกว่าที่ Bloomberg consensus คาด 7.4%
ไทย
ไม่มี
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530