WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

AIRA copyบล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ทิศทางตลาด
  ผันผวน? ภายใต้ (-) จากตัวเลขการจ้างงานล่าสุดของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาด และชะลอตัวจากเดือนที่ผ่านมา ทำให้เกิดความกังวลต่อทิศทางการเติบโตของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม (+) จากตัวเลขดังกล่าวทำให้คาดการณ์ในเชิงบวกต่อการชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดออกไป
  ขณะที่การลงทุนในกลุ่มพลังงานยังแนะนำเพียงการเก็งกำไรตามราคาน้ำมัน +/-จากความไม่แน่นอนว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่จะปรับลดกำลังการผลิตหรือไม่? หลังภาวะอุปทานในตลาดโลกอยู่ในระดับที่สูง และคาดยังถูกกดดันจากประเด็นเดิม จากความกังวลต่อทิศทางการเติบโตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจีน แม้ในช่วงที่ผ่านมาทางการจีนใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม โดยการอัดฉีดเม็ดเงินต่อเนื่อง แต่ตลาดยังไม่สะท้อนปัจจัยดังกล่าวเท่าที่ควร
  ส่วนทางด้านปัจจัยในประเทศ อยู่ในช่วงของการประกาศผลการดำเนินงานที่คาดมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่องถึงปลายก.พ. ขณะที่คาดในวันนี้ยังได้รับปัจจัยบวกเข้ามาบ้างจากแรงซื้อสุทธิต่อเนื่องของทั้งสถาบันในประเทศ และต่างชาติ ยังคง
  แนะติดตามค่าเงินบาทประกอบ ล่าสุดเช้านี้เคลื่อนไหว 35.55 – 35.57 บาท อ่อนค่าจากวันก่อนหน้าที่ 35.52บาท อย่างไรก็ตามคาดมีแนวโน้มแข็งค่าส่วนหนึ่งจากคาดการณ์ว่าเฟดชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป
  อย่างไรก็ตามคาดหลังจากนี้ไป อาจได้รับปัจจัยบวกเข้ามาบ้างจากความเป็นไปได้ที่รัฐฯ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ทั้งกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ผ่านการปฏิรูปโครงสร้างภาษี และการกระตุ้นการท่องเที่ยวต่อเนื่อง ทั้งจากนักท่องเที่ยวในประเทศ และต่างชาติที่เดินทางเข้ามาไทย ที่คาดส่งผลดีต่อกลุ่มท่องเที่ยวทั้งกลุ่มโรงแรม และกลุ่มสายการบิน นอกเหนือจากการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการภาครัฐ ที่คาดยังเป็นปัจจัยหนุนภาพรวมกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
  ยังแนะจับตา (1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่คาดหลังจากนี้มีการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการอื่นๆ ที่มีความพร้อมต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม เส้นทางศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี วงเงิน 110,116 ล้านบาท ที่คาดสามารถเปิดประมูลได้ในช่วง 1Q/59 และรถไฟทางคู่สายประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร วงเงิน ประมาณ 24,000 ล้านบาท คาดส่งผลดีต่อ CK และ UNIQ
  (2) กลุ่มการบิน ที่คาดราคามีโอกาสฟื้นตัว หลังสายการบินของไทยผ่านการประเมินของสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป (EASA) และสามารถบินได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ และช่วง High Season ของการท่องเที่ยว คาดส่งผลดีต่อ BA, AAV

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
  (-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA -211.61, NASDAQ -146.41, S&P -35.40, FTSE -50.70, CAC -27.86 และ DAX -107.13
ภายใต้ความกังวลจากความไม่ชัดเจนในทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร – ม.ค. เพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่ง ชะลอตัวจาก 262,000 ตำแหน่ง เมื่อธ.ค. และต่ำกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง แบ่งเป็น การจ้างงานภาคเอกชน เพิ่มขึ้น 158,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานลดลง 7,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตามอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปี เทียบกับที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ที่ 5.0%
  นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยกดดันจากราคาน้ำมันที่ลดลงต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน จากอุปทานน้ำมันในระดับสูง รวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
  ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มี.ค. -US$0.83 อยู่ที่ US$ 30.89ต่อบาร์เรล โดยยังได้รับแรงกดดันจาก (1) ภาวะน้ำมันล้นตลาด และ (2) ความไม่แน่นอนว่าประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่จะปรับลดกำลังการผลิตหรือไม่?
  ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน เม.ย. +US$0.2 อยู่ที่ US$ 1,157.7
  ต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ข้างต้น

  (+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +961 ล้านบาท สะสม YTD
-8,782 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)

P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
22.90 1.76 3.26
ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 40,034.87
สถาบัน +355.53
บัญชีหลักทรัพย์ +1,285.35
ต่างประเทศ +960.79
ในประเทศ -2,601.67

ประเด็นที่ต้องติดตาม 8 - 12 ก.พ. 2559

8/2/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
   ดัชนีแนวโน้มการจ้างงาน (ETI) เดือนม.ค.

9/2/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
   สต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนธ.ค.

10/2/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
   สต็อกน้ำมัน
   งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนม.ค.

11/2/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
   ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน

12/2/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
   ราคานำเข้าและส่งออกเดือนม.ค.
   ยอดค้าปลีกเดือนม.ค.
   ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.พ.
   สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค.
  (3) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, TOP และ SPRC จะได้รับผลบวกจากค่าการกลั่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจาก 4Q/58-1Q/59 แต่คาดผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 4Q/58 เป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น
  (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC, SCCC และ TPIPL เป็นต้น โดยเฉพาะใน 2H/59 ที่คาดความต้องการดีกว่า 1H/59
  (5) หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT, CENTEL) และ AOT จากแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น และเข้าสู่ช่วง High season ใน 4Q/58 – 1Q/59
  (6) เริ่มเข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงาน คาดอาจมีแรงเก็งกำไร จนถึงปลายเดือน ก.พ.’59
  ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.02 อยู่ที่ 1.85% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
  ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +1.54 อยู่ที่ 23.38
  หุ้นแนะนำ : PS

นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!