- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 05 February 2016 16:55
- Hits: 666
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET อาจผันผวนและพักตัวบ้าง แต่ยังลุ้นขยับบวกต่อเนื่องได้!
กลยุทธ์ : แม้ว่า SET ยังมีแรงขายกดดันให้แกว่งผันผวนและอาจย้อนลบบ้าง แต่ FSS ยังคาดว่าเป็นช่วงแกว่งเพื่อบวกต่อขึ้นหาเป้าหมาย 1350 จุดหรือใกล้เคียงได้ตามคาด ดังนั้นยังเน้นถือต่อ เพื่อรอขายสูง และอ่อนตัวซื้อได้
หุ้นเด่นทางเทคนิค : MINT, RP, IVL(short)
แนวโน้ม : SET ยังขยับบวกต่อเนื่องอยู่วานนี้ แม้ว่าจะแกว่งตัวผันผวนในด้านบวกพอควร แต่ก็มีแรงซื้อหนุนให้ยังทรงตัวได้ดี โดยราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มมีจังหวะอ่อนตัวลงอีกครั้ง หลังจากยังไม่ได้มีความชัดเจนเกี่ยวกับการแก้ปัญหาภาวะน้ำมันล้นตลาดออกมาให้เห็น อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐที่ได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตวัตถุดิบ และกลุ่มอุตสาหกรรม รวมทั้งมุมมองที่ว่าการอ่อนค่าของดอลลาร์จะช่วยกระตุ้นราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และหนุนผลกำไรของบริษัทข้ามชาติให้ฟื้นตัวได้ ทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นบ้านเราเช้านี้น่าจะไม่เลวร้ายนัก แม้ว่า SET อาจจะยังถูกกดดันจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกบ้าง แต่ FSS คาดว่ากรอบพักตัวน่าจะยังค่อนข้างจำกัด และมีสิทธิที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาช่วยพยุงตลาดหรือผลักดันให้ขยับบวกต่อได้ โดยส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการเก็งกำไรตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในค่ำวันนี้ที่มีสิทธิจะช่วยย้ำความมั่นใจเกี่ยวกับการชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในการประชุมเฟดกลางเดือน มี.ค.ได้ หลังเมื่อคืนนี้จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด เราจึงยังคาดว่า SET จะแกว่งตัวขึ้นหาเป้าหมายของรอบในกรอบ 1330-1350 จุดได้ตามคาด
แนวรับ 1295-1292 , 1290-1284 จุด
แนวต้าน 1302-1308 , 1313-1316 , 1320-1324 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนกลับมาไหลเข้าภูมิภาคอีกครั้ง US$133 ล้าน โดยไหลเข้าเกาหลีใต้ US$137.2 ล้าน และกลุ่ม TIP รวม US$49 ล้าน ขณะที่ไหลออกไต้หวัน US$54.1 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนวันนี้น่าจะไหลเข้าตามค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงภายหลังสหรัฐตัวเลขการว่างงานที่พุ่งขึ้นและมีการคาดการณ์ว่า Fed จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปจากเศรษฐกิจทั่วโลกที่ยังชะลอตัว
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) ADVANC กำไร 4Q15 ดีตามคาด +23% Q-Q, +8% Y-Y จากต้นทุนค่า Regulatory cost และค่าเสื่อมราคาของเครือข่าย 2G ที่หายไปหลังสิ้นสุดสัมปทานสิ้น ก.ย. 2015 ชดเชยรายได้ที่ลดลงได้หมด ทำให้กำไรทั้งปีโตได้ 5% Y-Y แต่ในปี 2016 เราคาดกำไรหดตัวแรงชั่วคราวก่อนจะกลับมาโตอีกครั้งในปี 2017 เราปรับกำไรปี 2016 ลง 16% เป็นหดตัว 23.6% Y-Y แม้จะเป็นทางออกที่ดีที่ ADVANC จะ roaming สัญญาณไปบนเครือข่าย 2G ของ DTAC ในระหว่างย้ายลูกค้าไป 3G 2100MHz ซึ่งดีกับ DTAC และกันไม่ให้ TRUE ชิงลูกค้าไปได้ง่ายนัก แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม รวมถึงค่าเช่าโครงข่ายที่ต้องจ่ายให้ TOT ด้วย แต่คาดกำไรปี 2017 กลับมาโต 18% Y-Y เราปรับราคาพื้นฐานลงเป็น 188 บาทจาก 195 บาท ยังคงแนะนำซื้อ
(0) SAPPE เราปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ จากถือ เพราะ PE สิ้นปีนี้ที่ถูกเพียง 13.7 เท่า EV/EBITDA 8.7 เท่าและ Dividend yield 3.6% แต่ปรับราคาพื้นฐานลงเหลือ 21.60 บาทจาก 29 บาท และไม่มีประเด็นบวกหนุนราคาหุ้นระยะสั้น เพราะคาดกำไรสุทธิ 4Q15 ทำได้เพียง 51 ล้านบาท -5.6% Q-Q, +75.8% Y-Y แย่ที่สุดของปีจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากการย้ายสายการผลิตจากโรงงานเดิมที่บางชันไปที่โรงงานใหม่คลอง 13 ส่วนปี 2016 เราปรับกำไรลง 17.6% เหลือโต 16% Y-Y เพราะคำสั่งซื้อจากจีนที่ช้ากว่าคาด เพราะมีปัญหาถูกลอกเลียนแบบสินค้าโดยอดีตพันธมิตร และกำลังเจรจาหาพันธมิตรใหม่ ขณะที่ตลาดเครื่องดื่มในประเทศคาดทรงตัว การเติบโตหลักๆในปีนี้จึงมาจากประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้นหลังย้ายโรงงานมาอยู่ที่เดียวกัน และผลิตขวดเองแทนการซื้อจากข้างนอก
(+) MINT แนวโน้มกำไรใน 4Q15 จะออกมาดีเพราะเป็น high season (วันนี้มีประชุมนักวิเคราะห์) และคาดทั้งปี 2015 น่าจะโตได้ 8% Y-Y ส่วนกำไรปกติในปีนี้ที่เราคาดไว้เดิมว่าโต 14% Y-Y ยังไม่ได้รวมโรงแรม Tivoli ที่เพิ่งซื้อมา 7 แห่ง ราคาพื้นฐานที่ 36 บาทจึงมีโอกาสปรับขึ้น MINT ยังคงเป็นหุ้น Top pick ในกลุ่มท่องเที่ยวของเรา
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมายังสามารถปิดบวกได้เล็กน้อยท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่าคาดรวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ยังปรับตัวลงอีก
(0) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดผสมภายใต้การซื้อขายที่ผันผวนเช่นกัน โดยนักลงทุนยังคงให้น้ำหนักและจับตาภาวะเศรษฐกิจโลกและราคาน้ำมัน
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวค่อนในแดนลบจากบรรยากาศการลงทุนที่ไร้ปัจจัยบวกใหม่
(0) ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกด้านข้างหลังจากแข็งค่ามาค่อนข้างเร็ว ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.50-35.67 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ลดลง 0.56 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 31.72 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้นแรงในวันก่อนหน้า และตลาดยังไม่มั่นใจว่ากลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะร่วมมือกันปรับลดกำลังการผลิตได้หรือไม่
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. พุ่งขึ้น 16.20 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,157.50 ดอลลาร์/ออนซ์ สูงสุดในรอบ 3 เดือนจากแรงหนุนที่ว่า FED อาจยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้าเพราะภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่แน่นอน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
5-ก.พ. - อินโดนีเซีย: 4Q15 GDP (ตลาดคาด -1.9% Q-Q, +4.8% Y-Y ทั้งปี +4.7%)
- สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (ม.ค.) (ตลาดคาดจ้างงานเพิ่ม 1.9 แสนราย ลดลงจากเดือนก่อนที่เพิ่ม 2.75 แสนราย)
8 ก.พ. - อินเดีย: 2015 GDP
10 ก.พ. - จีน: ยอดสินเชื่อเดือน ม.ค.
11-ก.พ. - ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
12-ก.พ. - สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ม.ค.)
- ยูโรโซน: 4Q15 GDP, Industrial Production (ธ.ค.)
15 ก.พ. - ไทย: 2015 GDP (ตลาดคาดทั้งปี +2.7% Y-Y)
- จีน: ดุลการค้า (ม.ค.)
- ญี่ปุ่น: 2015 GDP (ตลาดคาด -1.2%)
16 ก.พ. - เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (ก.พ.)
17-ก.พ. - ไต้หวัน: 4Q15 GDP
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- สหรัฐ: Housing starts & Building permits (ม.ค.), Fed Minutes จากการประชุม 26-27 ม.ค.
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch