- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 04 February 2016 18:49
- Hits: 1607
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : เขียวสดใส
Stock of the town : WICE CPR
หุ้นแนะนำพิเศษ : PF GRAND
หุ้นเด่นรายวัน : PIMO SC MTLS DTAC
SET วานนี้ปรับตัวขึ้นตอบรับกนง.คงอัตราดอกเบี้ย R/P ที่ 1.5% รวมถึงแรงซื้อกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นยืนเหนือ 30 USD/Barrel ได้อีกครั้ง ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,291.77 จุด (+6.47 จุด) Volume 3.9 หมื่นลบ. โดย Foreign Net -1,184 ลบ. , Net TFEX -1,604 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ ตลาดหุ้น DJ +183.12 จุด ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 205,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค.
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นล่าสุด 32.77 USD/Barrel เนื่องจากรัสเซียพร้อมเจรจากับกลุ่มโอเปก เพื่อร่วมมือกันกระตุ้นราคาน้ำมัน
+ ประธานFED สาขานิวยอร์ก ส่งสัญญาณว่าเฟดยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 15 – 16 มี.ค. เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ และการแข็งค่าของดอลลาร์
+ กนง.มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ตามคาด เนื่องจากความเสี่ยงปัจจัยต่างประเทศเพิ่มขึ้น แต่มองว่า GDP ยังขยายตัว 3.5% จากอุปสงค์ภายในประเทศเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก
+/- กสทช.มั่นใจ JAS TRUE จ่ายค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 MHz งวดแรกได้ทัน 21 มี.ค.
+/- กสทช.เสนอทางออกยึดเงินเฉพาะงวดที่จ่ายไปแล้วหากทีวีดิจิตอลคืนไลเซ่นส์ ทั้งนี้ BBL ออกหนังสือค้ำประกันชำระเงิน 1.6 พันลบ.ให้แก่ไทยทีวี
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการในเขตยูโรโซน ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ 53.6 ในเดือนม.ค.
ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นเหนือ 30 US/Barrel รวมถึง FED อาจยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทยวันนี้ ดังนั้นประเมินว่า SET จะปรับตัวขึ้นโดยมีแนวต้านบริเวณ 1,300 – 1,310 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
แนะนำ Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยบวกและซื้อสะสมหุ้นที่งบเติบโตขึ้น
กลุ่มพลังงาน ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น
กลุ่ม High Dividend INTUCH ADVANC KTB
High season การท่องเที่ยวและต้นทุนน้ำมันปรับตัวลง AOT BA AAV
กลุ่มที่คาดว่างบปี 58 และ Q4/58 เติบโตขึ้น EPG QTC FSMART KCE TVT GL BEAUTY BRR EA SYNEX SMPC SPALI ORI UBIS
ประเด็นข่าวอื่น
BEM ประธานบอร์ด กทพ.เผยจะไม่ต่อสัญญาบริหารทางด่วนขั้นที่ 2 กับ BEM หลังครบสัมปทานปี 2563 ชี้บริหารเองรับรายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยกว่า
CPALL เตรียมประชุมบอร์ดวันที่ 23 ก.พ. ลุ้นมีพิจารณาเรื่องกรณีที่ผู้บริหารระดับสูงใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้น MAKRO
EFORL เตรียมส่ง "ดับบลิวซีไอฯ" เจ้าของ "วุฒิศักดิ์คลินิก" แต่งตัวเข้า SET ปีนี้ คาดระดมทุนกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้หนี้และขยายสาขา
RS อนุมัติเงิน 470 ล้านบาท ทยอยซื้อหุ้นคืน 50.70 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.02% ของทุนจดทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 25 กพ.-24 สค. 2559
คาดการณ์วันประกาศงบ
4 ก.พ. ADVANC / 9 ก.พ. IRPC / 10 ก.พ. THCOM /
11 ก.พ. LPN / 12 ก.พ. TOP / 15 ก.พ. PTTGC / 17 ก.พ. INTUCH /
18 ก.พ. BCP IVL / 25 ก.พ. DCON TRUE RML
Analyst Meeting
PF-GRAND
ปีนี้จะเป็นปีที่ PF ควบรวมกิจการกับ GRAND เต็มปีจากที่ควบรวมงบการเงินเฉพาะครึ่งปีหลังปี 58
PF-ตั้งเป้ารายได้รวมปี 59 เติบโต 67%YoY สู่ 2 หมื่นล้านบาท โดยมีแผนเปิดโครงการเพิ่ม 17 โครงการมูลค่ารวม 2.4 หมื่นล้านบาท (แนวราบ 12 โครงการมูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท และแนวสูง 5 โครงการมูลค่า 7.2 พันล้านบาท) โดยยังคงเน้นเปิดโครงการตามเส้นทางรถไฟฟ้าที่จะทยอยเกิดขึ้นในอนาคตทั้งสายสีม่วง สายสีชมพู และสายสีส้ม
GRAND-เน้นขยายโรงแรมและพัฒนาคอนโดฯ เพิ่มเติมโดยในปัจจุบันมีโรงแรม 3 แห่งคือ โรงแรมเวสทินสุขุมวิท เชอราตันหัวหิน เชอราตันปราณบุรี และกำลังก่อสร้างโรงแรมไฮแอทรีเจนซี่สุขุมวิท ทางด้านคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จแล้ว 1 แห่งคือ ไฮด์สุขุมวิท 13 และกำลังก่อสร้างเพิ่มเติมอีก 1 แห่งคือ ไฮด์สุขุมวิท 11 โดยแผนปี 59 ต้องการลงทุนในโรงแรมและคอนโดเพิ่มอย่างละ 1 แห่ง
PF-GRAND มีแผนตั้งกองทุน REIT เพื่อเข้าลงทุนในโรงแรมของทั้ง 2 บริษัทที่ดำเนินการอยู่ 4 แห่ง (PF-คิโรโระสกีรีสอร์ท ประเทศญี่ปุ่น GRAND-เวสทินสุขุมวิท เชอราตันหัวหิน และเชอราตันปราณบุรี)มูลค่ารวมราว 1 หมื่นล้านบาท โดยจะทยอยขายสินทรัพย์ราวปีละ 2-3 พันล้านบาทเข้ากองทุน REIT เพื่อนำเงินไปลงทุนในโครงการใหม่เพิ่มเติมโดยไม่เพิ่มภาระหนี้สิน
หุ้นเด่นรายวัน
PIMO (ราคาปิด 2.08 ซื้อเก็งกำไร) เตรียมจรดปากกาเซ็นสัญญาตั้งตัวแทนจำหน่ายในออสเตรเลียมีนาคมนี้ ชี้อนาคตออเดอร์ พุ่ง 100% บอสใหญ่ "วสันต์ อิทธิโรจนกุล" เล็งสยายปีกรุกต่างประเทศเต็มสูบ แย้มมีแผนรุกแคนนาดา อเมริกา เพิ่มเติม ปักธงรายได้ปี 2559 โต 20% (ที่มา: ทันหุ้น)
SC (ราคาปิด 2.98 ซื้อ เป้าหมาย 4.40) ฝ่ายวิจัยคาดกำไรปี 58 ราว 1.8 พันล้านบาท ซึ่งจะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากปี 57 ที่มีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับเกือบ 1.6 พันล้านบาท ราคาที่ปรับลงตามภาวะตลาดทำให้มี yield ที่สูงราว 6% เป็นระดับที่น่าสนใจ จากที่คาดเงินปันผลปี 58 ราว 0.18 บาทต่อหุ้น
MTLS (ราคาปิด 20.50) ลุ้นกำไรไตรมาส 4/2558 เติบโตสูง 55% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แตะระดับ 231 ล้านบาท หลังเดินหน้าขยายสาขาเชิงรุกพร้อมวางเป้าสินเชื่อเติบโตอีกปีละ 50% ในช่วง 2 ปีข้างหน้า ทุ่มงบเปิดสาขาใหม่อีก 400 แห่งในปี 2559 (ที่มา:ทันหุ้น)
DTAC (ราคาปิด 35.25 ขาย เป้าหมาย 32) มีกำไรสุทธิ 4Q58 เท่ากับ 998 ล้านบาท ลดลง 19%QoQ และ 47%YoY นอกจากนี้เปลี่ยนแปลงนโยบายปันผลจาก 80%ของกำไรสุทธิและจ่ายทุกไตรมาส เป็น 50%ของกำไรสุทธิและจ่ายทุกครึ่งปี
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : +183.12 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,336.66 จุด พุ่งขึ้น 183.12 จุด หรือ +1.13% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,504.24 จุด ลดลง 12.71 จุด หรือ -0.28% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,912.53 จุด เพิ่มขึ้น 9.50 จุด หรือ +0.50%
โดยดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนบวกเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นสูงกว่าการคาดการณ์ในเดือน ม.ค.
ตลาดน้ำมัน NYMEX : +2.4 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 2.4 ดอลลาร์ หรือ 8% ปิดที่ 32.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
หลังจากที่รัสเซียส่งสัญญาณพร้อมเปิดช่องทางในการเจรจากับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพื่อร่วมมือกันกระตุ้นราคาน้ำมัน โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นและสามารถสกัดปัจจัยลบจากรายงานที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
Analyst : วิลาสินี บุญมาสูงทรง
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ชัยยศ จิวางกูร
บุญฤทธิ์ เบญจธนารักษ์
