- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 03 February 2016 19:20
- Hits: 1090
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ทิศทางตลาด
ตามตลาดต่างประเทศ? คาดมีโอกาสปรับลง แม้ไม่มีประเด็นใหม่ๆ แต่ภายใต้ปัจจัยเดิมคาดมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ปรับลดลงต่ำกว่า 30USD อีกครั้ง จากภาวะอุปทานส่วนเกินที่คาดอยู่ในระดับสูงขึ้นอีก หลังยังไม่มีสัญญาณว่าผู้ผลิตรายใหญ่จะตกลงกันด้ในเรื่องการปรับลดการผลิต ซึ่งคาดกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานต่อไป อย่างไรก็ตามคาดมีแรงเก็งกำไรกลับเข้าไปในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลง เช่น กลุ่มการบิน เป็นต้น
นอกจากนี้คาดยังคงมีความกังวลต่อทิศทางการเติบโตเศรษฐกิจ ทั้งสหรัฐฯ และจีน ซึ่งล่าสุดตัวเลขการผลิตยังไม่ดี แม้ในช่วงที่ผ่านมาทางการจีนใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม โดยการอัดฉีดเม็ดเงินต่อเนื่อง แต่ตลาดยังไม่สะท้อนปัจจัยดังกล่าวเท่าที่ควร
ส่วนทางด้านปัจจัยในประเทศ อยู่ในช่วงของการประกาศผลการดำเนินงานที่คาดมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่องถึงปลายก.พ. แต่คาดได้รับปัจจัยลบจากความผันผวนของ Fund Flow โดย YTD ยอดขายสุทธิสะสมของต่างชาติ อยู่ที่ประมาณ 9,400 ล้านบาท และแรงขายของสถาบันในประเทศ ยังคงแนะติดตามค่าเงินบาทประกอบ ล่าสุดเช้านี้เคลื่อนไหว 35.82 – 35.84 บาท อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากวันก่อนหน้าที่ 35.83 บาท รวมถึงการประชุม กนง. ในวันนี้ คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50%
อย่างไรก็ตามคาดหลังจากนี้ไป อาจได้รับปัจจัยบวกเข้ามาบ้างจากความเป็นไปได้ที่รัฐฯ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ทั้งกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ผ่านการปฏิรูปโครงสร้างภาษี และการกระตุ้นการท่องเที่ยวต่อเนื่อง ทั้งจากนักท่องเที่ยวในประเทศ และต่างชาติที่เดินทางเข้ามาไทย ที่คาดส่งผลดีต่อกลุ่มท่องเที่ยวทั้งกลุ่มโรงแรม และกลุ่มสายการบิน นอกเหนือจากการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการภาครัฐ ที่คาดยังเป็นปัจจัยหนุนภาพรวมกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
ส่วนแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มสื่อสาร คาดมีความน่าสนใจในรูปของ Div.Yieldหลังราคาปรับลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามคาดภาพรวมของกลุ่มฯ ยังคงมีความกังวลต่อภาวะการแข่งขันหลังมีผู้เล่นรายที่ 4 เข้ามาในตลาด
ยังแนะจับตา (1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่คาดหลังจากนี้มีการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการอื่นๆ ที่มีความพร้อมต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม เส้นทางศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี วงเงิน 110,116 ล้านบาท ที่คาดสามารถเปิดประมูลได้ในช่วง 1Q/59 และรถไฟทางคู่สายประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร วงเงิน ประมาณ 24,000 ล้านบาท คาดส่งผลดีต่อ CK และ UNIQ
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA -295.64, NASDAQ -103.42,
S&P -36.35, FTSE -138.09, CAC -108.34 และ DAX -176.84
จากการขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมัน ลดลงต่ำกว่า 30 ดอลลาร์/บาร์เรล อีกครั้ง ภายใต้คาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะสูงขึ้นอีก เนื่องจากผู้ผลิตรายใหญ่ยังไม่มีแนวโน้มที่จะตกลงกันได้ในเรื่องการปรับลดกำลังการผลิต รวมทั้งผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัทพลังงานรายใหญ่ เช่น เอ็กซอน โมบิล ที่มีกำไรรายไตรมาสต่ำที่สุดในรอบกว่า 10 ปี อยู่ที่ 2.78 พันล้านดอลลาร์ หรือ 67 เซนต์/หุ้น ใน 4Q/58 และบีพี ที่ขาดทุน 6.5 พันล้านดอลลาร์ หนักสุดเป็นประวัติการณ์ในปี’58 พร้อมประกาศปลดพนักงาน 7 พันคน ภายในปลายปี’60
ขณะที่ S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของบริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ลงสู่ระดับ A+ จากระดับ AA- และมีแนวโน้มอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงอีก
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มี.ค. -US$1.74 อยู่ที่ US$ 29.88ต่อบาร์เรล หลังกระทรวงพลังงานรัสเซีย เปิดเผยปริมาณการผลิตน้ำมันของรัสเซีย - ม.ค. เพิ่มขึ้น 1.5% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10.88 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า รัสเซีย และโอเปก ยังไม่มีแนวโน้มที่จะทำข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต พร้อมกับคาดว่าโอเปกจะยังไม่มีการจัดประชุมฉุกเฉินในระยะนี้
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน เม.ย. -US$0.8 อยู่ที่ US$ 1,127.2 ต่อออนซ์ อยู่ระหว่างรอข้อมูลแรงงานศุกร์นี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบ่งชี้ทิศทางนโยบายของเฟด
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 45,479.33
สถาบัน -1,933.82
บัญชีหลักทรัพย์ +499.60
ต่างประเทศ -632.45
ในประเทศ +2,066.67
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -632 ล้านบาท สะสม YTD
-9,397 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 2 – 5 ก.พ. 2559
3/2/59 : ประชุม กนง. (คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่ 1.50%)
สหรัฐฯ เปิดเผย
ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.
ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนม.ค.
สต็อกน้ำมัน
4/2/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ข้อมูลที่มีการปรับแก้ไขของประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจำไตรมาส 4/2015
ยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนธ.ค.
5/2/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.
ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค.
(2) กลุ่มการบิน ที่คาดราคามีโอกาสฟื้นตัว หลังสายการบินของไทยผ่านการประเมินของสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป (EASA) และสามารถบินได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ และช่วง High Season ของการท่องเที่ยว คาดส่งผลดีต่อ BA, AAV
(3) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, TOP และ SPRC จะได้รับผลบวกจากค่าการกลั่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจาก 4Q/58-1Q/59 แต่คาดผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 4Q/58 เป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น
(4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC, SCCC และ TPIPL เป็นต้น โดยเฉพาะใน 2H/59 ที่คาดความต้องการดีกว่า 1H/59
(5) หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT, CENTEL) และ AOT จากแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น และเข้าสู่ช่วง High season ใน 4Q/58 – 1Q/59
(6) เริ่มเข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงาน คาดอาจมีแรงเก็งกำไร จนถึงปลายเดือน ก.พ.’59
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.10 อยู่ที่ 1.86% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +2.00 อยู่ที่ 21.98
หุ้นแนะนำ : PS
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788