- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 09 July 2014 16:29
- Hits: 2544
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : แนวต้าน 1,520
Technical : แนวรับ 1,500 /1,489 แนวต้าน 1,520 / 1,535
หุ้นแนะนำพิเศษ : KTB แนวรับ 21.80/21.20 แนวต้าน 22.50/23
หุ้นเด่นรายวัน : MPG TKS GFPT
วันอังคารตลาดหุ้นไทยปิดบวก 4.37 จุด รับแรงซื้อกลุ่มแบงก์-สื่อสาร, เริ่มหันไปโฟกัสงบฯ Q2/57 ดัชนี SET ปิดที่ 1,507.58 จุด เพิ่มขึ้น 4.37 จุด
(+0.29%) มูลค่าการซื้อขาย 36,587.12 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,129.39 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,485-1,520 และยังคงแนวโน้มเชิงบวกจากการสร้างจุดสูงใหม่ต่อเนื่อง โดยกลุ่มธนาคารมีแรงซื้อเพิ่มเข้ามาโดดเด่น(ภายใน 21 ก.ค.หุ้นกลุ่มธนาคารจะรายงานผลการดำเนินงาน 2Q57) ในขณะที่ SET50 สร้างจุดสูงใหม่อย่างต่อเนื่องเป็นสัญญาณบวกทิศทางขาขึ้นตามกันกับSMA5วันที่ทำหน้าที่เส้นแนวรับขาขึ้น แนวรับ 1,011 / 1,006 GFQ14 เก็งกำไรในกรอบ 20,130-20,6520 GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 20,190-20,580
กลยุทธ์ ระดับดัชนียืน 1,500 ได้มั่นคงด้วยแรงซื้อระยะสั้น และการสลับกลุ่มเพื่อเล่นรอบส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายหรือการหมุนเวียนของหุ้นสร้างSentimentด้านบวก กลุ่มพลังงาน มีแนวโน้มพักหรือปรับระยะสั้น รอซื้อเมื่อปรับตัว PTTEP PTT TOP กลุ่มพาณิชย์ ROBINS BIGC HMPRO กลุ่มสื่อสาร ปรับตัวลงซื้อเก็งกำไรเล่นรอบ DTAC ADVANC JAS กลุ่มธนาคาร ซื้อเก็งกำไรหรือมีแรงขายปรับตัวลงแรงซื้อถือ กลุ่มธนาคาร คาดการณ์ผลประกอบการในสัปดาหน้าเชิงบวก การปรับตัวลงแนะนำซื้อเพื่อเล่นรอบ / ระยะกลางถือ หุ้นรายหลักทรัพย์ AOT STPI TCJ ระยะกลาง ถือ และซื้อเพิ่มเมื่อปรับตัวลงแรง
หุ้นแนะนำพิเศษ
KTB (ราคาปิด 22.30 ซื้อ เป้าปี 57, 25.20) เป็นแบงก์รัฐทำให้ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ สิ้นเดือนพ.ค. 57 สินเชื่ออัตราการเติบโตสูงสุดในกลุ่มที่ 4.8%YTD ตั้งแต่ 2Q57 เป็นต้นไป ธนาคารเพิ่มการกันสำรองหนี้สูญจากเดิมเดือนละ 500 ล้านบาทเป็น 700 ล้านบาทเพื่อให้เหมาะสมกับยอดสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น ปลายมี.ค.57 มีอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อ NPL (Coverage Ratio) อยู่ที่ 106% ลดลงจาก 114% เมื่อปลายปี 56และอยู่ในระดับต่ำที่สุดในกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่ จึงน่าจับตาว่าในช่วงครึ่งหลังของปีจะมีการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มเติมหรือไม่ ฝ่ายวิจัยบล.โกลเบล็กคาดกำไรในช่วง2Q57 ราว 8.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 38%YoY จากค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญลดลง และเพิ่มขึ้น 17%QoQ ตามการเติบโตของสินเชื่อ คาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลปี 57 ราว 0.89 บาทต่อหุ้น yield 4% สูงที่สุดในหุ้นกลุ่มธนาคาร
หุ้นเด่นรายวัน
MPG (ราคาปิดล่าสุด 0.13 ซื้อเก็งกำไร) พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอนจะเริ่มซื้อขายในตลาด MAI วันนี้เป็นวันแรกเนื่องจากบริษัทได้ปรับปรุงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานแล้ว และแสดงให้เห็นว่าปัจจุบันบริษัทยังคงมีการประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าโฮมเอนเตอร์เทนเม้นท์ซอฟแวร์ และถือลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ และเพลงสากล เพื่อผลิตสินค้าในรูปแบบบลูเรย์ ดิสก์ และดีวีดี รวมถึงสินค้าลิขสิทธิ์ภายใต้ตราสินค้าของคู่ค้ารายอื่น จำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกสิ่งบันเทิงในนาม"แมงป่อง" ในช่วง 1Q57 มีกำไร 2.02 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น ณ 31 มี.ค.57 เท่ากับ 197.72 ล้านบาท
TKS (ราคาปิด 9.95ซื้อเก็งกำไร) ได้รับอาสิสงส์จากการเป็นผู้พิมพ์ไปรษณียบัตรฟุตบอลโลก ดันรายได้ 2Q57 ดีกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 300.62 ล้านบาท ซึ่งอาจทำให้ต้องปรับเป้ารายได้ทั้งปี 2557 เพิ่มจากเดิมตั้งไว้ 1,600 ล้านบาท เติบโต 10% คาดผลงานครึ่งปีหลังเติบโตดีจากการเพิ่มกำลังการผลิต บวกกับเป็นช่วงไฮซีซัน
GFPT (13.10 ซื้อเก็งกำไร) คาดผลประกอบการใน 2Q57 จะปรับตัวดีขึ้นทั้ง QoQ และ YoY โดยมีแรงหนุนจากยอดขายที่สูงขึ้น ขณะที่ 3Q57 คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเพราะเข้าสู่ช่วง High Season
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* BMCL / RPC มีผลบังคับใช้ 2 มิ.ย. - 10 ก.ค. 57
* RASA มีผลบังคับใช้ 9 มิ.ย. – 18 ก.ค. 57
* AJD / TFI / TH / TRUE / UV มีผลบังคับใช้ 16 มิ.ย. - 25 ก.ค. 57
* IFEC / PF / SLC มีผลบังคับใช้ 23 มิ.ย. - 1 ส.ค.57
* EFORL / TSF มีผลบังคับใช้ 30 มิ.ย. - 8 ส.ค.57
* BTC/ KC/ MAX/ NUSA/ TFD/ VIH / VTE มีผลบังคับใช้ 7 ก.ค. - 15 ส.ค. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : ลดลง 117.59 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวลดลง 117.59 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังเทขายทำกำไรจากดัชนีที่เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานตัวเลขดัชนีของธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐในเดือนมิ.ย.ที่ลดลง 1.6 จุด สู่ระดับ 95 ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 97 ขณะเดียวกันนักลงทุนบางส่วนเลือกชะลอการลงทุนเพื่อรอดูรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้ เพื่อดูว่าเฟดจะส่งสัญญาณใดๆเกี่ยวกับนโยบายอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์ลดลง 117.59 จุด หรือ -0.69% ปิดที่ 16,906.62 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 60.07 จุด หรือ -1.35% ปิดที่ 4,391.46 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 13.94 จุด หรือ -0.70%ปิดที่ 1,963.71 จุด
ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 13 เซนต์
ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 13 เซนต์ ตลาดคลายกังวลต่อสถานการณ์ในอิรักหลังเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันไม่ได้ขยายตัวไปยังพื้นที่ทางตอนใต้ของอิรักซึ่งเป็นพื้นที่ผลิตน้ำมันดิบ 3 ใน 4 ของประเทศ นอกจากนี้ตลาดยังถูกกดดันจากความคืบหน้าของการส่งออกน้ำมันดิบของลิเบีย ซึ่งมีรายงานว่าท่าเรือเอส ซีเดอร์ ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของลิเบีย และท่าเรือราส ลานุฟ ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ มีน้ำมันดิบในปริมาณ 7.5 ล้านบาร์เรลที่พร้อมจะส่งออกไปยังต่างประเทศ ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 13 เซนต์ ปิดที่ 103.40 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 1.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.94 ดอลลาร์/บาร์เรล