WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KGI copyบล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)

แกว่งลงตามหุ้นน้ำมัน แนะหาจังหวะเข้าเก็งกำไร
        KGI คาด SET วันอังคารลง คงแนะซื้อเก็งกำไร (วานนี้อ่อนกว่าคาด หลัง PMI จีนและยุโรปลดลงต่อ) หุ้นน้ำมันน่าจะอ่อนลงตามตัวเลข PMI ข้างต้น และข่าวรอยเตอร์ชี้โอเปกจะไม่เรียกประชุมฉุกเฉินใน 2 เดือนจากนี้ ส่งผลน้ำมันร่วงเมื่อคืน แต่คาด SET มีความเสี่ยงจำกัด เพราะทุนต่างชาติดูดีอยู่ ทั้งนี้เงินบาทแข็งค่าต่อเมื่อวานหลังเครื่องชี้เศรษฐกิจหลักล้วนส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มขึ้น + เฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ยอีกยาว แนะทยอยซื้อเก็งกำไร เน้นหุ้นใหญ่ valuations น่าสนใจ ผสานหุ้นปันผลเด่น

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)

เก็งกำไร KTB*, LIT, ASEFA
- KTB* (เป้าพื้นฐาน 20.7 บาท) 1) ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้ม NPL ผ่านจุดพีคไปแล้ว ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นมี Upside risk ในด้านการลด Credit cost จาก NPL Coverage ตอนนี้ที่สูงเกิน 100% (ฝ่ายวิจัยฯประเมินว่า KTB สามารถลด Credit cost ลงได้อีก 50 - 60bps ซึ่งทุกๆ Credit cost ที่ลดลง 10bps จะส่งผลบวกต่อกำไรสุทธิ 3.5%) … ดูบทวิเคราะห์กลุ่มธนาคารพาณิชย์วันที่ 25 ม.ค.59 2) เราประเมินราคาหุ้น KTB laggard กลุ่มแบงก์ใหญ่ อย่าง SCB* และ KBANK* โดยอัตราส่วนราคา KTB/*SCB* และ KTB*KBANK* ลงมาแตะกรอบล่าง Bollinger band (ในเชิง Pair trading อาจพิจารณา Long KTB*/Short SCB* หรือ Long KTB*/short KBANK*) 3) คาดปันผลที่จะประกาศในปลายเดือน ก.พ. - ต้นเดือน มี.ค = 0.78 บาท/หุ้น (Dividend yield 4.5%) 4) ประเมินแนวรับ 17.3 บาท แนวต้านใกล้ 17.8 บาท หากผ่านได้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ?18.5 บาท
- LIT (เป้า Consensus 12.4 บาท) 1) รูปแบบราคายังเป็นการ Sideway up ประเมินแนวต้าน 9.75 บาท แนวรับ 9 บาท 2) ในเชิงพื้นฐานเราประเมินกำไรไตรมาส 4/58 โตราว ?5% QoQ (ทำนิวไฮต่อเนื่อง) แม้จะเป็น Low season ก็ตาม (อานิสงส์ภาครัฐฯเร่งงานประมูลเล็กๆ < 100 ล้านบาท) ส่งผลให้ปี 2558 กำไรรวมอยู่ที่ ?70 ล้านบาท (+46% YoY) และ Earnings Momentum ยังเดินหน้าต่อ (คาดโตแบบไตรมาสต่อไตรมาสต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 3/59 เป็นอย่างน้อย)
- ASEFA (เป้าพื้นฐาน 7 บาท) 1) วานนี้ปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน ?6.8 บาทที่เราประเมินไว้ แต่ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ แนะนำ "เก็งกำไร" แนวรับ 6.35 บาท คาดในภาพรวมยังเป็น Sideway up (ประเมินหากดีดผ่านแนวต้าน 6.8 บาทได้ มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 7.2 บาท) 2) เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 1 - 2 ปี นับจากนี้ของ ASEFA ที่กำลังการเข้าสู่ช่วงขาขึ้นของอุตสาหกรรมงานระบบไฟฟ้า ทั้งงานภาครัฐ อาทิ ระบบไฟฟ้าของรถไฟฟ้า (ASEFA ได้งานสายสีเขียวและสีน้ำเงินแล้ว อยู่ระหว่างการทยอยส่งมอบ) และงานภาคเอกชน เช่น โครงการพลังงานทดแทน ระบบไฟฟ้าโรงงานอุตสาหกรรมที่จะเพิ่มขึ้น ตามนโยบายภาครัฐ (ปลดล๊อกผังเมือง, สนับสนุนคลัสเตอร์) และอุตสาหกรรมโทรคมนาคม (4G + Datacenter) + มีการขยายกำลังการผลิต +50% ใน 1H59 รองรับดีมานด์ 3) คาดกำไรโต 18% ต่อปี (CAGR 2558 - 2561) ขณะที่ PE ปี 2559 ตอนนี้ 15.6 เท่า ต่ำกว่าอัตราการเติบโต (PEG < 1 เท่า) PE มีโอกาสถูก Re-rate ขึ้นตามอัตราการเติบโต

หุ้นในกระแส
- หุ้นกลุ่มสื่อสาร ราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารที่เป็นผู้เล่นรายเดิมอย่าง ADVANC* และ DTAC* Outperform ตลาดฯ ในช่วงที่ผ่านมา คาดเป็นผลจากการที่ผู้เล่นรายใหม่อย่าง JAS* ยังมีความเสี่ยงที่ธนาคารพาณิชย์อาจจะไม่ปล่อยกู้การลงทุน 4G (การที่ TRUE* ประกาศเพิ่มทุนเป็นการส่งสัญญาณว่า JAS* มีโอกาสที่จะเพิ่มทุนเช่นกัน) ดังนั้นในระยะสั้นที่ JAS ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการลงทุน 4G จะทำให้ ADVANC* และ DTAC* Outperform แนะนำ "เก็งกำไร" เลือก ADVANC* เป็นหุ้นเด่น
- หุ้นกลุ่มพลังงานทดแทน (IFEC, GUNKUL*) วันศุกร์ที่ผ่านมา กกพ แจ้งเลื่อนการประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติโครงการโซลาร์ส่วนราชฯ โดยจะรอให้ที่ประชุม กพช กำหนดเกณฑ์ใหม่ (จากข่าวใน นสพ กรุงเทพธุรกิจ ผู้ประกอบการบางรายคาด กพช ประชุมเดือน มี.ค.) ให้สอดรับกับการปลดล๊อกปัญหาผังเมือง (ที่มีการประกาศในราชกิจจาฯไปในช่วงกลางเดือน ม.ค.) เราประเมินเป็น 2 มุมมองดังนี้
i) การเลื่อนฯ สามารถพิจารณาได้ทั้งมุมบวกและลบ: มุมบวกคือ มีโอกาสที่โครงการของผู้ประกอบการที่ยื่นไปก่อนหน้า แล้วติดปัญหาผังเมืองจะได้รับการพิจารณาเพิ่ม ขณะมุมลบคือเป็นการเลื่อนโครงการออกไป ซึ่งอาจกระทบต่อ Sentiment การลงทุน (เรายังคงมุมมองเดิมว่า โครงการนี้มี IRR ต่ำ เป็นเพียง Event ปลดล๊อกอุตฯเท่านั้น)
ii) ผู้ประกอบการที่ กระจายการลงทุนไปยังพลังงานทดแทนในต่างประเทศ และธุรกิจอื่นๆ จะเด่นกว่าหุ้นที่หวังพึ่งเพียงการประมูลจากรัฐบาลไทย: IFEC มีการเตรียมแผนรองรับโดยการเข้าลงทุนในต่างประเทศ (พลังงานลมที่เกาหลี คาดโอนหุ้นเสร็จในเดือน มี.ค., พลังงานลมที่เวียดนามเริ่มเดินหน้าแล้ว, พลังงานลมที่ออสเตรเลียคาดรอการสรุปแผนลงทุนกับ Goldwind, โซลาร์ฟาร์มที่กัมพูชา คาดจะ COD เดือน ก.พ.นี้) และการลงทุนในธุรกิจ รร ดาราเทวี / ขณะที่ GUNKUL* มีการศึกษาลงทุนโซลาร์ฟาร์มที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น
- หุ้นปันผล i) PS* (เป้าพื้นฐาน 32.3 บาท) ฝ่ายวิจัยฯประเมินปันผลที่เหลือของปี 2558 ที่จะประกาศจ่ายหลังปิดงบปี ?0.8 บาท/หุ้น ii) KTB* (เป้าพื้นฐาน 18.3 บาท) ฝ่ายวิจัยฯประเมินปันผล 0.78 บาท/หุ้น (ประกาศช่วงปลาย ก.พ. - ต้น มี.ค.) iii) ASK (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) 1) ฝ่ายวิจัยฯประเมินปันผล 1.53 บาท/หุ้น (ประกาศช่วงปลาย ก.พ. - ต้น มี.ค.) iv) BJCHI* (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) ประเมินปันผล 0.55 บาท/หุ้น

หุ้นมีข่าว
BBL* - มีแนวโน้มต้องจ่ายค่าใบอนุญาตแทนบ.ไทยทีวีให้กับกสทช. หลังจากที่ไทยทีวีปฏิเสธไม่ชำระเงินค่าประทีวีดีจิทัลงวดที่ 2 ซึ่งถึงกำหนดในเดือนพ.ค.2558 และทางกสทช.ได้ดำเนินการไกลเกลี่ยรวมถึงพักการใช้ใบอนุญาต 90 วัน ซึ่งจะถึงกำหนดในวันที่ 3 ก.พ.2559 ซึ่งหากไทยทีวียังปฏิเสธการจ่ายเงินดังกล่าว ทางกสทช.จะเรียกให้ BBL ซึ่งเป็นธนาคารที่ออกหนังสือค้ำประกันต้องเป็นผู้ชำระแทน ความเห็น: เราเชื่อว่า BBL อยู่ในฐานะที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องจะชำระเงินส่วนนี้ให้กับกสทช. และกรณีนี้กำลังจะเป็นความเสี่ยงจริงที่มีผลต่อผลการเนินงานของ BBL ทั้งนี้หาก BBL ไม่มีหลักประกันชำระหนี้จากบ.ไทยทีวี BBL จำเป็นต้องตั้งสำรองเงินส่วนนี้ทั้งจำนวน ซึ่งจะกระทบกับ EPS และ Book value ประมาณ 0.68 บาท/หุ้น เราเชื่อว่าตลาดได้รับรู้ความเสี่ยงนี้เข้าไปในราคาของ BBL แล้ว ซึ่งปัจจุบัน BBL ซื้อขายด้วย PE เพียง 8 เท่า และ PBV เพียง 0.7 เท่า เราคงคำแนะนำ Neutral (ราคาเหมาะสม 195 บาท)
(0) CPI ม.ค. หดตัวเป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกัน อาจกลับเป็นบวกใน Q2/59 ก.พาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ในเดือน ม.ค. ลดลง -0.53% YoY ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) เพิ่มขึ้น 0.59% YoY ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อได้แก่ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศที่ลดลง ค่ารถประจำทาง และค่าเรือโดยสาร ลดลงตามต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลง อัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ(เอฟที) ในรอบเดือนม.ค.-เม.ย. ลดลง 4.80 สตางค์/หน่วย ตามต้นทุนก๊าซธรรมชาติในตลาดโลก นอกจากนี้ ก.พาณิชย์ยังขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ให้ลดราคาสินค้าลงตามต้นทุนน้ำมันและค่าขนส่ง โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการสินค้าลดราคาสินค้าใน 9 หมวดรายการของสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น นมผง ข้าวสาร ปูนซีเมนต์และเหล็กเส้น (Bisnews) เรายังคงคาดว่าเงินเฟ้อเฉลี่ยปี 2559 จะติดลบ -0.3% ส่วน กนง. จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% ไปในปี 2560 ถ้าเศรษฐกิจไม่ทรุดตัวลงจากระดับปัจจุบัน โอกาสขึ้นดอกเบี้ยไม่มีในปีนี้ แต่ถ้าภาวะแห้งแล้งรุนแรงหนักและเศรษฐกิจต่างประเทศส่งผลให้เศรษฐกิจทรุดตัวลงเราอาจจะเห็น กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงได้
(+) ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในอาเซียนมีมุมมองบวกในปีนี้ โดยอยากให้มี single-visa เกิดขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวตะวันตก (เดอะ เนชั่น) เรายังคงมุมมองบวกต่อการท่องเที่ยว หนุนโดยตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในไทย ขณะที่ PATA (Pacific Asia Travel Association) คาดตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเข้ามาในอาเซียนเพิ่มจาก 115 ล้านคนในปี 2015 เป็น 128, 147 และ 173 ล้านคนในปี 2016-18 ตามลำดับ เราให้ AOT* และ BA* เป็นหุ้นเด่น เป้าหมาย 409 และ 28.50 บาท ตามลำดับ
(+) โปรเจกต์1.7ลล. มอเตอร์เวย์-รถไฟ เดินหน้าตามแผน (ASTVผู้จัดการรายวัน) "คมนาคม" สั่ง ทอท.ทำ Time Frame "สุวรรณภูมิเฟส 2 หลังพบล่าช้ากว่าแผนแล้ว 2 เดือน หวั่นหลุดกรอบเปิดประมูลในปีนี้ พร้อมสั่ง ร.ฟ.ท.กรอบเวลา รถไฟความ เร็วสูง 2 สาย ชง กก. PPP ใน ก.พ.นี้ มั่นใจ 20 โครงการคมนาคมกระตุ้น ศก.กว่า 1.7 ล้านล. ยังเดินหน้าตามแผน ทั้งมอเตอร์เวย์-รถไฟ ทางคู่ เดินหน้าทยอยเปิดประมูล

นักวิเคราะห์: อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!