- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 01 February 2016 16:49
- Hits: 1081
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ความเชื่อมั่นเป็นบวก
หุ้นไทยน่าจะทรงตัวในแดนบวกวันนี้หนุนโดยปัจจัยบวกทั้งภายนอกภายในประเทศ ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้สร้างความประหลาดใจด้วยการลดดอกเบี้ยลงไปติดลบเพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นและความต้องการความเสี่ยงของโลก ขณะเดียวกันตัวเลข GDP สหรัฐที่อ่อนแอก็ผ่อนคลายความกังวลว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตและน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นก็เป็นบวกต่อภาคพลังงาน เราไม่คาดว่าตัวเลข PMI จีนที่ออกมาแย่ในเช้านี้จะกดดันความเชื่อมั่นทางบวกข้างต้นมากนัก ในประเทศ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของจีนแสดงความสนใจ Thailand Future Fund หนุนแนวโน้มที่ดีให้แก่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานไทย นอกจากนี้ตัวเลขผู้โดยสารที่ดีกว่าคาดและการพิจารณามาตรการกระตุ้นอีกล็อตของรัฐบาลยิ่งส่งเสริมความเชื่อมั่น
หุ้นเด่นวันนี้ : INTUCH (ราคาปิด 56.25 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย AWS ปี 58 99.00 บาท)
ตอนนี้ เราเห็นว่า INTUCH เป็นหุ้นที่ดีที่สุดในหมวดโทรคมนาคมเนื่องจากอนาคตที่สดใสอันจะนำมาซึ่งกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งต่อเนื่องและการเติบโตที่แข็งแรงจากหุ้นลูกคือ THCOM และ INTUCH โดย THCOM ในฐานะเป็นผู้นำในการให้บริการทั้งดาวเทียมถ่ายทอดโทรทัศน์และดาวเทียมบรอดแบนด์จะประโยชน์ได้อย่างมากจากการเปลี่ยนผ่านจากช่องธรรมดา (SD) เป็นช่องความคมชัดสูง (HD) รวมถึงแนวโน้มเติบโตขาขึ้นในตลาดบรอดแบนด์ด้วย ADVANC เป็นตัวสร้างกระแสเงินสดชั้นดีซึ่งให้กระแสรายได้ที่คงที่แก่ INTUCH จากปันผลที่สูงอย่างสม่ำเสมอในแต่ละปี นอกจากนี้การก้าวเข้าสู่ตลาด 4จีอย่างเป็นทางการด้วยการเปิดตัว 4G Advanced สัปดาห์นี้ ช่วยปลดล็อคศักยภาพการเติบโตด้วยสถานะอันแข็งแกร่งในตลาดจากฐานลูกค้าจำนวนมากสุด การได้ใบอนุญาตมาใหม่ทำให้ ADVANC สามารถขยายฐานลูกค้าได้ ช่วยประหยัดค่าส่วนแบ่งรายได้และค่าตัดจำหน่ายที่ลดลงรวมถึงค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มตอนช่วงที่ยังขาดแคลนคลื่นอยู่
หากเทียบบริษัทจดทะเบียนใน SET ที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุด 15 อันดับแรก พบว่า INTUCH ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงที่สุด และคาดว่าปีนี้ปันผลตอบแทนจะอยู่ที่ระดับ 9.61% รูปแบบราคาของ INTUCH ได้เกิดการฟื้นตัวขึ้นในระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง จากการเกิดสัญญาณซื้อรายวันครั้งใหม่ แม้จะถูกกดดันจากการเกิดทั้งสัญญาณขายรายสัปดาห์และรายเดือนอยู่ ทั้งนี้เมื่อพิจารณารูปแบบราคาของ INTUCH ที่สามารถปิดตลาดเหนือ 54.25 บาทไปแล้ว จึงคาดว่าจะขึ้นไปทดสอบเป้าหมายแรกที่ 59.50 บาท นอกจากนี้ยังพบว่ามีการเปิด Falling Gap สำคัญอยู่ที่ 61.75 บาท ซึ่งมีโอกาสจะสามารถไปปิด Falling Gap นี้ด้วย โดยมีจุด Stop Loss อยู่ที่ 52 บาท (แนวต้าน: 57.50, 58.75, 60.75; แนวรับ: 55.75, 54.50, 52.50)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
กองทุนจีนสนใจร่วมหุ้น Thailand Future Fund รมว.คลังกล่าวว่า China Investment Corporation (CIC) ซึ่งเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของประเทศจีนได้แสดงความสนใจที่จะลงทุนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund หรือ TFF) เนื่องจาก TFF มีนโยบายที่สอดคล้องกับเงื่อนไขของจีนที่จะหาโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพและความมั่นคงด้วยผลตอบแทนที่มีแนวโน้มดีในระยะยาว (Bangkok Post)
พิจารณามาตรการกระตุ้นอีกล็อต รมว.คลังกำลังอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการกระตุ้นอีกชุดเพื่อกระตุ้นการบริโภคสำหรับผู้มีรายได้ต่ำเนื่องจากคนกลุ่มนี้เป็นภาคส่วนที่อ่อนไหวที่สุดของสังคมดังนั้นจึงสมควรได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ โดยในปีที่แล้วได้มีมาตรการรัฐวงเงิน 1.36 แสน ลบ.เน้นช่วยผู้มีรายได้น้อยไปแล้ว (Bangkok Post)
กำลังเจรจาการค้าเสรีกับปากีสถาน กรมเจรจาการค้ากล่าวว่าไทยและปากีสถานมีความคืบหน้าในการเจรจาข้อสัญญาการค้าเสรีครั้งที่สอง โดยได้สรุปเรื่องมาตรฐานของสุขอนามัยและเทคนิคที่เกี่ยวกับการกีดกันทางการค้า ขณะที่คาดการณ์ว่าประเด็นการเจรจาที่เหลือจะสามารถได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ก่อนเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 60 (The Nation)
AOT (378 บ., AWS 59 TP 400 บ.) รายงานจำนวนผู้โดยสารเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 21.3% YoY ในปี 2558 และจำนวนเครื่องบินขึ้นลงจอดเติบโต 16.6% YoY มาอยู่ที่ 727,750 เที่ยวบิน บริษัทได้ประมาณการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารด้วยมุมมองที่ระมัดระวังว่าจะเติบโตได้ 11% ในปี 2559 ความล่าช้าในการขยายท่าอากาศยานภูเก็ตจะแล้วเสร็จในเดือน ก.พ.นี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารที่ภูเก็ตได้เท่าตัวเป็น 12.5 ล้านคน จากปัจจุบันรองรับได้เพียง 6.5 ล้านคน (Bangkok Post) ความเห็น: ด้วยมุมมองที่เป็นบวกอย่างมากสำหรับปีงบประมาณ 59 (ต.ค. 58-ก.ย.59) เราได้ประมาณการว่าผลประกอบการปกติของ AOT จะสามารถเติบโตได้ถึง 25% YoY
ต่างประเทศ
บีโอเจประกาศอัตราดอกเบี้ยติดลบ: ธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือบีโอเจออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าธนาคารจะใช้อัตราดอกเบี้ย -0.1% สำหรับบัญชีที่สถาบันการเงินหลายแห่งนำมาฝากไว้กับบีโอเจ โดยจะคิดดอกเบี้ยจากเงินฝากสำรองส่วนเกิน ธนาคารกล่าวว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหากมีความจำเป็น (Reuters) ความเห็น: เห็นได้ชัดเจนว่าบีโอเจต้องการให้ธนาคารพาณิชย์เร่งการปล่อยสินเชื่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อวันศุกร์ หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) สร้างความประหลาดใจโดยประกาศใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบ ราคาพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ล่าสุดเพิ่มขึ้น 17/32 ให้อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 1.93% หลังจากที่ร่วงลงถึง 1.91% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่ 2 ต.ค. 58 (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นมากเมื่อวันศุกร์ แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์เทียบกับเงินเยน หลังจากที่บีโอเจประกาศใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายติดลบและตัวเลขจีดีพีสหรัฐเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 1.1% อยู่ที่ 99.586 จุด สูงสุดนับแต่ 3 ธ.ค. 58 ค่าเงินดอลลาร์ล่าสุดแข็งค่าขึ้น 1.9% อยู่ที่ 121.05 เยน (Reuters)
ประเด็นที่จับตามองในสัปดาห์นี้: รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่นักลงทุนให้ความสนใจในสัปดาห์นี้คือรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐประจำเดือนมกราคม ซึ่งมีกำหนดออกรายงานในวันศุกร์นี้ (Reuters)
สหรัฐ :
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีททะยานขึ้นกว่า 2% เมื่อวันศุกร์ หลังจากบีโอเจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่ำกว่าศูนย์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างไม่คาดคิด ตัวเลขการเติบโตของจีดีพีสหรัฐไตรมาส 4/58 ที่อ่อนแอกระตุ้นให้เกิดความเห็นว่าเฟดอาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป ยิ่งไปกว่านั้น ราคาน้ำมันดิบสหรัฐยังคงปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (Reuters)
ตัวเลขจีดีพีสหรัฐขยายตัว 0.7% ต่อปีในไตรมาส 4/58 หลังจากที่ขยายตัว 2% ในไตรมาส 3/58 ซึ่งใกล้เคียงกับประมาณการของนักเศรษฐศาสตร์ ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.4% ในปี 2558 หลังจากมีการขยายตัวแบบเดียวกันในปี 2557 (รอยเตอร์)
การใช้จ่ายผู้บริโภคในสหรัฐซึ่งคิดเป็นกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มขึ้นในอัตราแข็งแกร่งที่ 2.2% (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันศุกร์ปรับตัวสูงขึ้นในรายสัปดาห์ หนุนจากมาตรการดอกเบี้ยนโยบายติดลบของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อและเศรษฐกิจให้ขยายตัว (Reuters)
เอเชีย :
ประเด็นลบจากดอกเบี้ยนโยบายติดลบของ BOJ ที่มีต่อธนาคารญี่ปุ่น เพิ่มเติมไปจากปัจจุบันที่สร้างผลตอบแทนในระดับต่ำจากการให้กู้ยืมอยู่แล้วรวมไปถึงการกู้ยืมภาคเอกชนที่อ่อนแอ และนับเป็นปัญหาของธนาคารญี่ปุ่นที่มีมานานในการสร้างผลตอบแทนที่งอกเงยจากเงินสดมหาศาลในมิอ นอกจากนี้แล้วการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลปัจจุบันก็ยังไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเช่นในอดีต (Reuters)
กิจกรรมภาคการผลิตจีนเดือน ม.ค. หดตัวมากกว่าคาด โดยจีนประกาศดัชนี PMIภาคการผลิตออกมาอยู่ที่ 49.4 ปรับตัวลดลงจากตัวเลขเมื่อเดือน ธ.ค. ที่ 49.7 และน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 49.6 นอกจากนี้ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ซึ่งสะท้อนถึงการหดตัวลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน (Reuters)
การขยายตัวของกิจกรรมภาคการบริการชะลอลงในเดือน ม.ค. โดยจีนประกาศดัชนี PMIภาคการบริการออกมาอยู่ที่ 53.5 ลดลงจากตัวเลขเมื่อเดือน ธ.ค. ที่ 54.4 แต่ยังยืนเหนือระดับ 50 ซึ่งสะท้อนถึงภาวะการขยายตัว (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันดิบราคาขึ้นในวันศุกร์ ดีดกลับกว่า 25% จากจุดต่ำสุดรอบ 12 ปีที่ทำไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วและล้างการเป็นลบระหว่างเดือน ด้วยมุมมองเกี่ยวกับการตกลงกันของผู้ส่งออกน้ำมันเพื่อลดกำลังการผลิตและบรรเทาภาวะน้ำมันล้นตลาด แต่การเป็นบวกก็ได้ลดทอนไปบางส่วนจากรายงานว่าอิหร่านอาจไม่เข้าร่วมข้อตกลงดังกล่าว Brent ส่งมอบ มี.ค. ปรับขึ้น 85 เซนต์ (+2.5%) ปิด 34.74 ดอลลาร์หลัง 20 ม.ค. เคยไปแตะจุดต่ำสุดนับแต่ พ.ย. 46 ที่ 27.10 ดอลลาร์ น้ำมันดิบสหรัฐบวก 40 เซนต์ (+1.2%) ปิดที่ 33.62 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองบวกวันศุกร์ หลังตัวเลขสหรัฐชี้ว่าการเติบโตเศรษฐกิจชะงักแรงในไตรมาส 4/58 และใกล้ตรุษจีน ราคาทองคำตลาดจรปรับขึ้น 0.2% อยู่ที่ 1,116.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำล่วงหน้าส่งมอบ ก.พ. ปรับขึ้น 0.2% อยู่ที่ 1,116.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331