- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 01 February 2016 16:43
- Hits: 947
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1304 และ 1314
SET Index: 1301.62 เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 1300 จุด หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นมาทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1300 จุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่โครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นมีแนวต้านที่ 1306-1308 จุด ซึ่งเราคาดว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1314 จุด ควรใช้เป็นจังหวะขายทำกำไร เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระยะสั้นเหนือระดับ 1300 จุด จะมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบความแข็งแกร่งของแนวรับสำคัญที่ 1300 จุด ในขณะที่โครงสร้างในระยะยาวมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1350-1360 จุด
แนวต้าน : 1304 และ 1306
แนวรับ : 1298 และ 1295
ADVANC = 170 / 173, TRUE = 6.40 / 6.60, JAS = 3.00 / 3.08, PTT = 234 / 237, AOT = 372 / 375
Bangkok Bank (BBL TB; THB 152.00) – ซื้อ
แนวต้าน : 158 และ 160
แนวรับ : 152 และ 151
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคที่บริเวณแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ BBL โดยมีแนวรับที่ 152 และ 151 และมีแนวต้านที่ 158 และ 160 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 148 ลงไป
Superblock (SUPER TB; THB 1.20) – ซื้อ
แนวต้าน : 1.27 และ 1.35
แนวรับ : 1.20 และ 1.18
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานที่บริเวณเส้นแนวโน้มขาลง ล่าสุด ราคาหุ้นสามารถทะลุผ่านขึ้นมาได้แล้ว
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทดสอบระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ SUPER โดยมีแนวรับที่ 1.20 และ 1.18 และมีแนวต้านที่ 1.27 และ 1.35 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.16 ลงไป
SET50 Index Futures
S50H16 เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณแนวต้าน 814 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคที่ค่อนข้างแข็งแกร่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เราคาดว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 814 ขึ้นไป แนวโน้มในระยะสั้นอาจจะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 824-826 แต่เราแนะนำให้ใช้เป็นจังหวะขายทำกำไร
แนวต้าน : 814 และ 820
แนวรับ : 808 และ 804
คำแนะนำ: เราแนะนำให้เน้นการขายทำกำไรสถานะ Long ใน S50H16 ที่แนวต้าน 814 และ 824 เพื่อรอการปรับตัวลดลงมาทดสอบ 800 และ 795
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า S50H16 ปิดต่ำกว่า 790 ลงไป
TRUEH16
ปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคหลุดระดับ 6.80 และ 6.60 ลงไป หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคเหนือระดับ 7.00 ซึ่งเราคาดว่า การฟื้นตัวในระยะสั้นไปทดสอบ 6.50 และ 6.70 ยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวรับที่ 6.20-6.30 เป็นเป้าหมายในการปรับตัวลดลง
แนวต้าน : 6.50 และ 6.60
แนวรับ : 6.40 และ 6.36
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ STOP LOSS สถานะ Long ใน TRUEH16 ที่แนวต้าน 6.60 พร้อมกับเปลี่ยนเป็นสถานะ Short โดยมีแนวรับที่ 6.20 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า TRUEH16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 6.80 ขึ้นไป
TPIPLH16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคทะลุผ่านแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 2.14-2.20 ขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 2.50 บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และแนวโน้มขาลงในระยะยาว
แนวต้าน : 2.40 และ 2.44
แนวรับ : 2.32 และ 2.28
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน TPIPLH16 ที่แนวรับ 2.28 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.44-2.50
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า TPIPLH16 ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 2.20 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ยืนเหนือ 1300 จุด
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงทรงตัวในระดับเหนือ 33 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ จากการคาดหวังผลการเจรจาระหว่างผู้นำกลุ่ม OPEC นำโดยซาอุดิอาระเบียกับกลุ่ม Non OPEC ที่นำโดยรัสเชีย ที่จะร่วมกันลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 5% โดยข่าวดังกล่าวได้ยังคงต้องติดตามความคืบหน้า หากไม่บรรลุข้อตกลง ราคาน้ำมันน่าจะปรับตัวลงในกรอบ 30-27 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ แต่หากเกิดบรรลุข้อตกลง ราคาน้ำมันคาดจะดีดตัวขึ้นไปที่กรอบ 35-40 ดอลาร์ต่อบารเรล์ แต่หากมาดูทิศทางของ Hedge Fund ปรากกฏว่ามีการ Long Position เป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน
การปรับตัวขึ้นแรงของดัชนีในภูมิภาคเอเชียและดาวโจนส์ เมื่อวันศุกร์ เป็นผลโดยตรงจาก ธนาคารกลางญี่ปุ่นกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ ตัวเลข GDP Q4/15 ของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาดส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจจะพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยช้าลงและจำนวนครั้งที่ขึ้นน้อยลงจากเดิมที่คาดว่าจะปรับขึ้น 4 ครั้งแต่ตอนนี้เหลือ 2 ครั้งหรือ 1 ครั้ง
ภาพของตลาดหุ้นทั่วโลกหลังเกิดแรงคาดการณ์ว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยช้าลง ญี่ปุ่นยังกระตุ้นเศรษฐกิจและ ECB จะขยายวงเงินซื้อพันธบัตรเพิ่ม ส่งผลให้ทิศทางของเม็ดเงินที่เคยไหลออกจากตลาดหุ้นเกิดใหม่ เริ่มไหลกลับเข้ามารอบใหม่ จากการมองว่าตลาดหุ้นในประเทศพัฒนาแล้วทั้งสหรัฐและยุโรป อาจจะยังเผชิญกับความผันผวนที่รุนแรงจากผลการดำเนินงาน ตัวเลขเศรษฐกิจที่ทยอยออกมากำลังได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกและตลาดหุ้นยังแพงโดยเปรียบเทียบ ขณะที่ตลาดหุ้นเกิดใหม่ แม้จะมีความผันผวนแต่น่าจะน้อยกว่าประกอบกับพื้นฐานของตลาดถือว่าต่ำมากๆและมีบางอุตสาหกรรมที่ไม่แพง
ประเด็นที่ต้องจับตามองในอาทิตย์นี้ คือ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอย่าง ตัวเลขการจ้งงาน จีนจะออกมาตรการอะไรในก่อนช่วงตรุษจีนนี้และผลการดำเนินงาน Q4/15 ในสหรัฐ ประเด็นที่ถูกจับตามองที่สุดคือ จีนจะมีประเด็นอะไรออกมาในช่วงก่อนตรุษจีนนี้ โดยความกังวลอยู่ที่จีนจะกดดันให้ค่าเงินหยวนอ่อนตัวหรือไม่ หรือมีการฉีดเงินเงินเข้าสู่ระบบ
ทิศทางดัชนีทั่วโลกในอาทิตย์นี้ถือว่าน่าจะกระเตื้องขึ้นต่อ หลังมีสัญญาณในทางเชิงบวกในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่อาจจะผันผวนได้ในช่วงปลายสัปดาห์ โดยที่เห็นได้ชัดคือ เริ่มมีเม็ดเงินระยะสั้นไหลเข้ามาในตลาดหุ้นเกิดใหม่ในเอเชียในวันศุกร์ที่ผ่านมา (รูปด้านซ้าย) หลังมองทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐในปีนี้ลดน้อยลง โดยเริ่มมีการ Cover short กลุ่มสื่อสาร ปิโตรเคมี ธนาคารพาณิชย์และหุ้นพลังงาน (รูปขวา)
ทิศทางดัชนี SET ในสัปดาห์นี้ คาดจะขึ้นเหนือ 1300 จุด หลังมีสัญญาณเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้า หากราคาน้ำมันยังสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อ ก็น่าจะขึ้นไปที่กรอบ 35-40 ดอลลาร์ หุ้นไทยก็น่าจะขึ้นไปที่กรอบ 1320-1330 จุด แต่อาจจะเผชิญกับแรงขายช่วงสั้นๆ หากราคาน้ำมันเกิดปรับตัวลง ส่วนการประชุม กนง. คาดจะยังคงดอกเบี้ย ส่วนในต่างประเทศที่ต้องติดตาม คือ ตัวเลข PMI ของจีนและตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ วันนี้มองดัชนี SET จะขึ้นต่อจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มหลักและแรงหนุนของดัชนีในภูมิภาค แต่อาจมีแรงขายสลับออกมาแต่คงไม่แรง โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1310-1315 จุด และแนวรับที่ 1295-1290 จุด
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,301.62 จุด เพิ่มขึ้น 0.64 จุด (+0.05%) มูลค่าการซื้อขาย 21,758.00 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ผันผวนในกรอบ โดยมีแรงซื้อนำในหุ้นสื่อสารขนาดใหญ่อย่าง ADVANC ขณะที่หุ้นสื่อสารตัวอื่นได้รับแรงกดดันจากข่าวเพิ่มทุน ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ หลัง BOJ มีมติคงนโยบายทางการเงินเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย ผันผวนต่อเนื่อง คาดว่าจะยังมีแรงซื้อของต่างชาติเข้ามาพักในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง หลัง BOJ ลดดอกเบี้ย ภาพใหญ่ SET มีโอกาสเข้าทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1317 จุด และมีแนวรับที่ 1290 จุด โดยหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มธนาคาร สื่อสาร พลังงาน โรงแรม จะยังเป็นเป้าหมายในการเข้ามาพักเงิน อย่างไรก็ตามด้วยภาพเศรษฐกิจโดยรวมของไทยที่ยังอ่อนแอ ทำให้มองว่าการเข้ามาของต่างชาติจะยังไม่ต่อเนื่อง คาดว่าหากค่าเงินบาทเริ่มหยุดแข็งค่า ตลาดหุ้นไทยน่าจะเริ่มพักฐานหลังจากนั้น กลยุทธ์หลักยังเหมือนเดิมคือ ขึ้นแรงขาย ลงแรงซื้อ
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
Bangkok Bank (BBL TB; THB 152.00) - ซื้อ
Superblock (SUPER TB; THB 1.20) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]