WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Asiawealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook

 

มีความหวังจากการเจรจารัสเซีย-OPEC
  คาดหุ้นไทยวันนี้เดินหน้าได้จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นในระยะสั้นอันเป็นผลจากการเจรจาระหว่างรัสเซียกับ OPEC ในเรื่องควบคุมปริมาณการผลิตน้ำมัน กับตัวเลขเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ไม่ค่อยดีทำให้มีลุ้นว่า BOJ อาจจะออกมาตรการกระตุ้นเพิ่ม ภายในประเทศข่าวการเร่งโครงการรถไฟความเร็วสูงของรัฐบาลและคาดประมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงตรุษจีน เป็นบวกต่อตลาด

หุ้นเด่นวันนี้ : SAMTEL (Bt16.20; AWS: NR; TP Bloomberg Bt22.62)
 บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทให้บริการระบบไอซีทีชั้นแนวหน้าที่จะได้ประโยชน์จากงานในมือหลายพัน ลบ. ทั้งจากภาครัฐและเอกชน มีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจ ได้แก่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมที่ดิน สำนักงานกรุงเทพมหานคร การรถไฟฯ กองทัพบก ฯลฯ บริษัทมีความสัมพันธ์อย่างเหนียวแน่นและยาวนานกับองค์กรเหล่านี้และมีความคุ้นเคยกับระบบที่เกี่ยวข้องมากกว่าคู่แข่งจึงน่าจะได้ดีลอย่างต่อเนื่องและเป็นการพิเศษ เมื่อได้ดีลแล้วลูกค้าก็มีแนวโน้มที่จะใช้บริการต่อเพราะหากไปใช้อีกระบบก็จะเชื่อมกันลำบากกว่า SAMTEL มีขนาดบริษัทที่ใหญ่และมีบริการที่ครบวงจรทำให้สามารถรับโครงการใหญ่ที่มีความต้องการที่ซับซ้อนได้ เราเชื่อว่ารายได้ของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นชัดปีนี้เนื่องจากโครงการที่ล่าช้าไปได้เริ่มดำเนินการแล้วในไตรมาส 4/58 และยังมีโครงการไอซีทีอื่นๆที่จะเข้ามาในปี 59 อีก จากคาดการณ์เฉลี่ย Bloomberg แม้กำไรปีนี้จะร่วง 19% แต่การเติบโตน่าจะกลับมาได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 58 และพุ่ง 50% ในปี 59 ปันผลตอบแทนสำหรับปี 59 ก็อยู่ในระดับที่ดีราว 4.6% รูปแบบราคาของ SAMTEL มีความแข็งแกร่งชัดเจนในระยะสั้นและระยะกลางจากการเกิดสัญญาณซื้อทั้งรายวันและรายสัปดาห์ แม้ยังคงถูกกดดันจากแนวโน้มระยะยาวที่เป็นแนวโน้มขาลง (Downtrend) จากสัญญาณขายรายเดือนที่ยังคงอยู่ คาดว่า SAMTEL น่าจะปรับตัวขึ้นเพื่อไปทดสอบเป้าหมายแรกที่ 17.50 บาท น่าจะทะลุผ่านไปยังเป้าหมายถัดไปที่ 19.70 บาท โดยมีจุด Stop Loss ของ SAMTEL ในรอบนี้อยู่ที่ 15.80 บาท (แนวต้าน: 16.40, 16.70, 16.90; แนวรับ: 16.00, 15.80, 15.50)

ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :

      ผู้ส่งออกข้าวมองแง่ลบ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยคาดราคาน้ำมันและความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนกดดันการเติบโตส่งออกปี 59 โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าส่งออกข้าวจะลดลง 6.72% จาก 4.61 พันล้านดอลลาร์ไปสู่ 4.3 พันล้านดอลลาร์ขณะที่ปริมาณส่งออกจะลกลง 8.07% จาก 9.79 ตันเหลือ 9 ตัน อย่างไรก็ดีสมาคมเชื่อว่าราคาข้าวน่าจะแตะจุดต่ำสุดแล้วและจะกลับตัวขึ้น (Bangkok Post)
รมว.พาณิชย์ตั้งเป้าส่งออกโต 5% สู่ระดับ 2.25 แสนล้านดอลลาร์ปีนี้หรือเฉลี่ยน 1.88 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนโดยให้เหตุผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า (Bangkok Post) ความเห็น: รมว.คลังให้ความเห็นอีกอย่างว่าการส่งออกควรจะโตอย่างน้อย 2% ปีนี้ สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยคิดว่าน่าจะไม่เติบโตปีนี้
ผลักดันโครงการรถไฟเส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง รมว.กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง มูลค่า 1.52 แสนลบ. ว่าจะสามารถดำเนินการภายใต้ความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชน (PPP) เป็นวาระเร่งด่วนได้หรือไม่ โดย รมว.กระทรวงการคลังจะส่งแผนเข้าสู่การประชุมบอร์ดนโยบายโครงการความร่วมมือภาครัฐและภาคเอกชนในครั้งหน้า (The Nation)
คาดมีจำนวนนักท่องเที่ยวหนึ่งล้านคนในช่วงตรุษจีน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประมาณการว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมายังไทยในช่วงตรุษจีนประมาณหนึ่งล้านคนในปีนี้ ซึ่งจะสร้างรายได้ให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวรวม 29 พันลบ. โดยคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 1.01 ล้านคนหรือเติบโต 19% จากปีก่อนและรายได้อาจเติบโตได้ที่ 32% YoY (The Nation)


BAY (ปิด 30.75 บาท ราคาเป้าหมายปี 59 ที่ 39.00 บาท) ได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท Hattha Kaksekar Limited หรือ HKL ซึ่งเป็นสถาบันไมโครไฟแนนซ์รายใหญ่ในกัมพูชา โดยธนาคารคาดว่าการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการขยายธุรกิจของธนาคารไปต่างประเทศ อีกทั้งยังช่วยแสวงหาโอกาสในการเติบโตในตลาด CLMV โดยใช้ความเชี่ยวชาญของธนาคารในธุรกิจสินเชื่อรายย่อยและไมโครไฟแนนซ์ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวยังต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานทางการที่กำกับดูแลและข้อตกลงระหว่างกันได้ปฏิบัติครบถ้วน ซึ่งรวมถึงการได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของธนาคาร (Bangkok Post)


SCC ประกาศกำไรสุทธิงวด 4Q58 เพิ่มขึ้น 27% QoQ และ 29% YoY มาอยู่ที่ 1.14 หมื่นลบ. ซึ่งสูงกว่าประมาณการกำไรของ Bloomberg consensus 17% ทั้งนี้บริษัทฯ ประกาศจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิครึ่งปีหลังของปี 58 ในอัตรา 8.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทนงวดครึ่งปีที่ 2.0% (4.0% เทียบรายปี) วันขึ้นเครื่องหมาย XD คือวันที่ 4 เม.ย. 59 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 28 เม.ย. 59 (SET) ความเห็น: ผลประกอบการที่โดดเด่นมาจากสายธุรกิจปิโตรเคมีทีกำลังอยู่ในวงจรขาขึ้น แม้เผชิญกับขาดทุนจากสต็อกสินค้าคงเหลือส่วนหนึ่ง ขณะที่การดำเนินงานจากกลุ่มธุรกิจอื่น (ซีเมนต์ วัสดุก่อสร้างและกระดาษ) ยังคงซบเซา


ต่างประเทศ

     ไม่มีสัญญาณว่าเฟดจะกลับไปลดอัตราดอกเบี้ย: เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิมตามที่คาดการณ์และเฟดกล่าวว่าเฟดกำลัง “เฝ้าสังเกตอย่างใกล้ชิด” การพัฒนาทางการเงินและเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม เฟดคงมุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐในแง่บวกโดยไม่มีสัญญาณว่าจะกลับไปลดอัตราดอกเบี้ยถึงแม้เศรษฐกิจทั่วโลกจะตกต่ำ (Reuters) ความเห็น: นักลงทุนเป็นกังวลว่าเฟดอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปถึงแม้จะมีความวุ่นวายในตลาดการเงินและเศรษฐกิจทั่วโลก
    ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลง เทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆเมื่อวันพุธ เนื่องจากราคาน้ำมันลดลงก่อนการแถลงนโนบายของเฟดครั้งล่าสุด ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ลดลง 0.26% อยู่ที่ 99.101 จุด อยู่ที่ระดับต่ำว่าจุดสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ที่ 99.799 เมื่อวันพฤหัสที่แล้ว (Reuters)
     อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้นเมื่อวันพุธ ก่อนการประกาศถ้อยแถลงของเฟดครั้งล่าสุด โดยราคาพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีล่าสุดลดลง 9/32 และให้อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 2.03% เพิ่มขึ้นจาก 2.00% เมื่อวันอังคาร (Reuters)
สหรัฐ :

      ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงลงเมื่อวันพุธ หลังจากเฟดสร้างความผิดหวังในแก่นักลงทุนซึ่งหวังว่าเฟดจะส่งสัญญาณชัดเจนว่าเฟดอาจจะหันกลับไปลดอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจและการเงิน ก่อนหน้านี้ตลาดวอลล์สตรีทปรับตัวขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นหลังจากรัสเซียกล่าวว่ากำลังหารือถึงความเป็นไปได้ที่จะร่วมมือกับโอเปคและข้อมูลจากสหรัฐแสดงถึงความต้องการพลังงานในระยะสั้นที่เพิ่มขึ้น (Reuters)
ยอดขายบ้านใหม่สำหรับสำหรับครอบครัวเดี่ยวในสหรัฐในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีรากฐานที่มั่นคงถึงแม้มีการเทขายหุ้นอย่างหนักและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 10.8% อยู่ที่ 544,000 หน่วยต่อปี ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 14.5% อยู่ที่ 501,000 หน่วยในปี 2558 สูงสุดนับแต่ปี 2550 นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านใหม่ซึ่งคิดเป็น 9.1% ของตลาดอสังหาขยับขึ้นสู่ระดับ 500,000 หน่วยในเดือนก่อน (Reuters)
ยุโรป :

      หุ้นยุโรปฟื้นตัวมาปิดบวกได้ในวันพุธ จากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงท้ายตลาด ช่วยล้มล้างแรงกดดันต่อราคาหุ้นทั้งตลาดจากผลประกอบการล่าสุดจากหลายบริษัทที่อ่อนแอ (Reuters)
เอเชีย :

     ยอดค้าปลีกญี่ปุ่นลดลงมากกว่าคาดในเดือน ธ.ค. บ่งชี้ความอ่อนแอของการบริโภคครัวเรือนซึ่งจะทำให้การขยายตัว GDP ของไตรมาส 4/58 อ่อนแอไปด้วย ยอดค้าปลีกลดลง 1.1% YoY ในเดือน ธ.ค. นับเป็นเดือนที่สองติดต่อกันที่ลดลง และลดลงมากกว่าที่ตลาดซึ่งคาดว่าจะลดลง 0.1% (Reuters)
BOJ น่าจะยังคงจุดยืนเดิมสำหรับการประชุมนโยบายทางการเงินสัปดาห์นี้ โดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายส่วนใหญ่ยังคงมุมมองการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น แม้ว่าสถานการณ์ตลาดโลกในปัจจุบันกำลังเพิ่มแรงกดดันต่อ BOJ ให้ใช้มาตรการกระตุ้นที่มากขึ้นก็ตาม (Reuters)
ตลาดหุ้นจีนเมื่อวันพุธปรับตัวลดลงต่อเนื่องท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ซึ่งทำให้ผลตอบแทนตลาดหุ้นจีนนับตั้งแต่ต้นปี 2559 ติดลบไปแล้วถึง 22% หรือคิดเป็นมูลค่า 12 ล้านล้านหยวน (1.8 ล้านล้านดอลลาร์ฯ) และตลาดมีความกังวลวต่อความเป็นไปได้ที่จะเกิด Margin call ภายใต้ภาวะเช่นนี้ (Reuters)
     Ma Ying-jeou ปธน.ไต้หวัน เดินทางไปถึงเกาะ Itu Aba ในทะเลตอนใต้ของจีนที่กำลังเป็นประเด็นความขัดแย้งในปัจจุบัน เพื่อเป็นการย้ำจุดยืนถึงอำนาจอธิปไตยการปกครองของไทเป (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :

      น้ำมันดิบล่วงหน้าสหรัฐพุ่งขึ้นวันพุธ หลังรัสเซียกล่าวว่ากำลังเจรจาความเป็นไปได้ในการร่วมมือกับโอเปค ซึ่งอาจทำให้มีการดำเนินการเรื่องการลดการผลิตน้ำมันอันทำให้ราคาน้ำมันแตะจุดต่ำสุดในรอบหลายสิบปีในปีที่แล้ว น้ำมันดิบสหรัฐบวก 0.85 ดอลลาร์ (+2.7%) ปิดที่ 32.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยขึ้นไปสูงสุดถึง 32.84 Brent ปรับขึ้น 1.30 ดอลลาร์ (+4.1%) ปิด 33.10 ดอลลาร์หลังไปแตะจุดสูงสุดของวันที่ 33.49 ดอลลาร์ (Reuters)
ราคาทองยังคงรักษาระดับต่ำกว่าจุดสูงสุดรอบ 12 สัปดาห์ในวันพุธ เพราะนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับถ้อยแถลงนโยบายการเงินครั้งแรกของ Fed ราคาทองคำตลาดจรปรับลง 0.2% อยู่ที่ 1,117.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เทียบกับจุดสูงสุดนับแต่ 3 พ.ย. ที่ 1,122.90 ดอลลาร์ในวันอังคาร (Reuters)

Thailand Research Department
  Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
  Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
  Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
  Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
  Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!