WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

 

SET Index: มีโอกาสทะลุผ่าน 1287 ไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1300
      SET Index : 1279.89 ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1286 จุดอีกครั้ง แต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ แต่เมื่อพิจารณามูลค่าการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบาง จึงทำให้การปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้นไม่น่ากังวลแต่อย่างใด จึงทาให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ถ้าทะลุผ่านระดับ 1287 จุดขึ้นไปได้ จะเป็นจังหวะซื้อเก็งกำไรต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1300 และ 1314 จุดเป็นจังหวะขายทำกำไรในระยะสั้น


แนวต้าน : 1284 และ 1287
แนวรับ : 1278 และ 1275

SCB = 125 / 128, AOT = 365 / 370, PTTEP = 52.00 / 54.00, JAS = 3.04 / 3.14, TASCO = 35.00 / 36.50

PTT (PTT TB; THB 229.00) - ซื้อ

แนวต้าน : 240 และ 244
แนวรับ : 229 และ 228
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นไปทดสอบแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลง หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น ซึ่งเราคาดว่า น่าจะทะลุผ่านขึ้นไปได้
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ PTT โดยมีแนวรับที่ 229 และ 228 และมีแนวต้านที่ 240 และ 244 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 224 ลงไป
Eureka Design (UREKA TB; THB 1.61) - ซื้อ

แนวต้าน : 1.76 และ 1.80
แนวรับ : 1.60 และ 1.58
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคต่อเนื่อง พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ UREKA โดยมีแนวรับที่ 1.60 และ 1.58 และมีแนวต้านที่ 1.76 และ 1.80 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.53 ลงไป

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

SET...ตลาดหุ้นไทยยืนบวกเป็นประเทศแรก
  ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐประจำเดือน ม.ค. ปรากฏว่าทาง FED มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม และยังส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังเติบโตในระดับปานกลางจากแรงหนุนของภาคการจ้างงาน โดยจะยังมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่อย่างไรก็ตามทาง FED ยังคงติดตามสถานการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกและการเงินอย่างใกล้ชิด ผลการประชุมที่ออกมาส่งผลให้นักลงทุนผิดหวัง เนื่องจากมองว่าทาง FED คงจะมีการพูดถึงสถานการณ์ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน ที่จะส่งผลต่อการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต อย่างไรก็ตามแม้ FED จะยังมีแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. แต่มีเปอร์เซ็นลดลงจากเดิม โดยโพสล์สำรวจของนักเศรษฐศาสตร์ พบว่าสหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้แค่ 3 ครั้งจากเดิม 4 ครั้ง
  การผิดหวังจากการแถลงของ FED และผลการดำเนินงานที่ออกมาผิดหวังของ APPLE และ Boeing ส่งผลให้เกิดแรงขายหุ้นในตลาดหุ้นสหรัฐและดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 222 จุด แต่ในส่วนของราคาน้ำมันกลับดีดตัวขึ้นแรงจากความหวังว่าทางรัสเชียและซาอุดิอาระเบีย จะบรรลุข้อตกลงในการลดปริมาณการผลิตน้ำมัน โดยล่าสุดทางรัสเชียส่งสัญญาณว่าจะให้ความร่วมมือการเจรจากับทางกลุ่ม OPEC นอกจากประเด็นดังกล่าวจะเป็นข่าวหนุนราคาน้ำมัน ทาง EIA รายงานปริมาณสต๊อกน้ำมันที่กลั่นแล้วของสหรัฐกลับลดลงมากกว่า 4 ล้านบารเรล์จากที่คาดดว่าจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบารเรล์ จากความต้องการใช้น้ำมันในช่วงฤดูหนาว
  ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นมายืนเหนือ 30 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ ถือเป็นปัจจัยบวกกับหุ้นโรงกลั่นและ E&P โดยราคาน้ำมันเบนรท์ขึ้นมาที่ 33 ดอลลาร์ต่อบารเรล์และ WTI ที่ 32 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ ทิศทางราคาน้ำมันจะเป็นอย่างไรหลังจากนี้ยังต้องติดตามและรอดูความชัดเจนของผลการเจรจาระหว่างรัสเชียและกลุ่ม OPEC จากภาวะอากาศที่หนาวเย็นผิดปกติในตอนนี้ทั้ง สหรัฐ ยุโรป และเอเชียบางประเทศ คาดจะยังส่งผลต่อความต้องการใช้น้ำมัน (Heating oil) และผลิตภัณฑ์น้ำมันที่กลั่นแล้ว เพิ่มขึ้น
  สถานการณ์ตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลก เปิดขึ้นมาตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ปรากฏว่าตลาดหุ้นไทย ดีที่สุด คือ ตลาดหุ้นไทยปิดเป็นบวกที่ 0.6% สะท้อนมุมมองที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ จากรูปด้านซ้าย จะพบว่าดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลกยังติดลบ 9.8% และตลาดหุ้นพัฒนาแล้วติดลบ 7.8% อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของตลาดหุ้นเกิดใหม่ ยังมีแนวโน้มผันผวนต่อไปอีกระยะ จากภาะวะราคาน้ำมันและทิศทางตลาดหุ้นจีน
  ราคาน้ำมันที่ยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น น่าจะเป็นปัจจัยที่จะทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปรับตัวขึ้นได้ (แม้วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐและภูมิภาคจะปรับตัวลง) จากแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยวันนี้คาดดัชนีจะผันผวนแต่ไม่แรง และทำให้ดัชนี SET ปรับตัวทั้งแดนบวกและลบ แต่ด้วยมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน เข้ามาพยุงตลาด โดยเฉพาะหุ้นโรงกลั่น (TOP) ที่น่าจะกำลังได้ประโยชน์จากค่าการกลั่นที่ทรงตัวในระดับสูง วันนี้มองแนวต้านที่ 1285-1290 จุด แนวรับที่ 1272-1268 จุด

Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]

บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,279.89 จุด เพิ่มขึ้น 1.60 จุด (+0.13%) มูลค่าการซื้อขาย 18,178.55 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ผันผวนในกรอบ 1276-1285 จุด เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ หลังเฟดกังวลความผันผวนในตลาดการเงินอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ

Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย ยังผันผวนต่อเนื่อง ภาพใหญ่ SET ยังไม่สามารถข้ามไปยืนเหนือระดับ 1285 จุด ได้ตลอด มีผลให้สัญญาเก็งกำไรดูอ่อนแรงลง ลักษณะนี้เราคาดว่าจะยังมีผลให้ SET จะยังมีแนวโน้ม sideway ออกด้านข้างไปอีกสักระยะเพื่อรอปัจจัยใหม่ๆมากำหนดแนวโน้มที่ชัดเจน โดยมองกรอบการแกว่งตัวในช่วง 1260-1285 จุด หากหลุดต่ากว่า 1260 จุด จะเกิดสัญญาณขาย แต่ถ้าทะลุ 1285 จุด ไปได้ก็จะเป็นสัญญาณซื้อ กลยุทธ์หลักยังเหมือนเดิมคือ ขึ้นแรงขาย ลงแรงซื้อ

Fundamental Picks & Technic (PM) ...

PTT (PTT TB; THB 229.00) - ซื้อ
Eureka Design (UREKA TB; THB 1.61) - ซื้อ
Turnover List preview (Cash Balance) : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : ACD*, J*, TKN* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)

Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!