WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSS copyบล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน



คาดช่วงนี้ยังมีบวก-ลบสลับ จึงรอเลือกหุ้นซื้อช่วงอ่อนตัวได้!!

  กลยุทธ์ : แม้ SET ยังดีดบวกได้แรงวานนี้ แต่ก็เริ่มเห็นแรงขายกดดันมากขึ้น ทำให้ระยะสั้นดัชนีมีสิทธิผันผวนและย้อนลบได้อีกตามคาด ดังนั้นสำหรับเทรดดิ้งสั้นหลังจากแบ่งส่วนทำกำไรช่วงบวกแล้ว สามารถรอเลือกหุ้นซื้อกลับช่วงปรับตัวลงได้ แต่ส่วนลงทุนยาวยังแนะนำให้เน้นถือต่อเนื่องดีกว่า
  หุ้นเด่นทางเทคนิค : TU, TNP, KCE(short)
  แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET ยังขยับบวกต่อขึ้นแรงพอควรในช่วงเช้า ก่อนที่จะเริ่มมีแรงขายทำกำไรกดดันให้แกว่งผันผวนและย้อนกลับมาบวกน้อยลง เนื่องจากยังไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่สนับสนุน ขณะที่ในระหว่างวันราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ยังอ่อนตัวลงอีกครั้ง ก่อนที่จะเริ่มไต่ระดับขึ้นได้ดีตั้งแต่ช่วงเย็นไปจนถึงค่ำ โดยเฉพาะเมื่อได้รับแรงหนุนจากรายงานของ EIA ที่ระบุว่าการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งข่าวที่ว่าบริษัทพลังงานของรัสเซียเตรียมเจรจาเพื่อลดกำลังการผลิตร่วมกับ OPEC และซาอุดิอาระเบีย จนในที่สุดราคาน้ำมันดิบโลกพลิกกลับมาปิดบวกเกือบ 3% ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นยุโรปยังปิดบวกได้ดี อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นสหรัฐกลับปรับพักตัวลบลงมาค่อนข้างแรง แม้ว่าที่ประชุมเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน แต่ก็ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนในตลาดเงินที่อาจส่งผลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ทำให้เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียยังเปิดทำการโดยมีทั้งเป็นบวกและลบสลับ ซึ่ง FSS คาดว่าน่าจะส่งผลกดดันต่อ SET ด้วย เพราะเราเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรในระหว่างวันวานนี้ด้วยเช่นกัน แต่กรอบการปรับลงน่าจะยังค่อนข้างจำกัด และเรายังคาดหมายโอกาสพลิกกลับไปบวกต่อได้อีก
  แนวรับ 1275-1270 , 1265-1263 จุด
  แนวต้าน 1283-1286 , 1290-1295 จุด

Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคแต่เบาบาง US$5ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้ากลุ่ม TIP รวม US$22 ล้าน นำโดยไทย US$13.2 ล้าน อินโดนีเซีย US$6.4 ล้านและฟิลิปปินส์ US$2.4 ล้าน ขณะที่ไหลออกเกาหลีใต้ US$14.1ล้าน และเวียดนาม US$4.7ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค การประชุม Fed เมื่อคืนนี้ มีมติคงอัตราดอกเบี้ย แต่ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค. ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อการลงทุนในตลาดเกิดใหม่

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) Fed คงดอกเบี้ยตามคาด แต่ส่งสัญญาณว่าอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค. กดดันดาวโจนส์ลบ 222 จุด แต่หากดูจาก Implied Fed Fund Future พบว่าโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ย มี.ค. มีเพียง 21% น้ำหนักส่วนใหญ่อยู่ที่เดือน มิ.ย. เป็นต้นไป เมื่อคืนราคาน้ำมันขึ้นต่อ 2-4% (รัสเซียมีท่าทีลดกำลังการผลิต) ค่าเงินหยวนและเอเชียยังมีเสถียรภาพ บรรยากาศโดยรวมยังเป็นบวกต่อตลาดหุ้น

(+) SMPC เรากลับมาแนะนำซื้ออีกครั้ง (เดิมขาย) ที่ราคาพื้นฐานใหม่ 9.20 บาท ปัจจัยบวกระยะสั้นคือกำไรสุทธิ 4Q15 มีแนวโน้มทำสถิติสูงสุดใหม่ +49% Q-Q, +315% Y-Y จากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นมากตามความต้องการใช้ LPG ในภาคครัวเรือนแทนการใช้ฟืนที่มากขึ้นหลังน้ำมันดิบร่วง โมเมนตัมยังดีต่อด้วยคำสั่งผลิตล่วงหน้าที่ยาวไปถึง 2Q16 เราปรับกำไรปกติปี 2015-16 ขึ้นปีละ 21% ราคาปัจจุบันคิดเป็น Forward PE ที่ 11 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 12 เท่าและต่ำกว่าในช่วงที่กำไรเป็นขาขึ้นที่ 15-17 เท่า

(+) ERW แนวโน้มกำไร 4Q15 ยังแข็งแกร่งแม้ถูกกระทบจากเหตุระเบิด เราคาดว่าจะพลิกเป็นกำไร 98 ล้านบาทจากขาดทุน 20 ล้านบาทใน 3Q15 และโตถึง 90.7% Y-Y ส่วนปี 2016 เราปรับประมาณการกำไรปกติลง 10% จากการฟื้นตัวที่ยังไม่เต็มที่ของโรงแรม Grand Hyatt เอราวัณ และการเลื่อนเปิดโรงแรม Hop Inn บางแห่ง แต่ยังโตได้ถึง 60.6% Y-Y ปรับราคาพื้นฐานลงเหลือ 5 บาทจาก 5.4 บาท ยังคงคำแนะนำซื้อ

(+) HMPRO เราคาดกำไรสุทธิ 4Q15 +32.3% Q-Q, +3.2% Y-Y ทำจุดสูงสุดใหม่เพราะได้ประโยชน์จากมาตรการลดหย่อนภาษี 15,000 บาทเต็มที่ และคาดกำไรทั้งปี 2015 +3.2% Y-Y แม้ว่ากำลังซื้อในประเทศยังไม่สดใสแต่หากความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้น HMPRO จะได้ประโยชน์ก่อน GLOBAL เพราะฐานลูกค้าหลักมีกำลังซื้ออยู่แล้ว เราคาดกำไรปีนี้ +14% Y-Y จากการขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ ยังคงราคาพื้นฐาน 10 บาท แนะนำซื้อ

(+) GLOBAL เราคาดกำไรสุทธิ -10.4% Q-Q เพราะมีขาดทุนจาก FX แต่กำไรปกติคาด +30.6% Q-Q, +20.1% Y-Y จากการปรับ Product mix ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น แต่ GLOBAL ไม่ได้ประโยชน์จากมาตรการลดหย่อนภาษี 15,000 บาทเพราะฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร สำหรับปี 2016 ราคาสินค้าเกษตรที่ต่ำยังมีผลต่อกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้ากลาง-ล่างซึ่งเป็นฐานลูกค้าของบริษัท กำไรในปี 2016 ที่เราคาดโต 22% Y-Y มาจากฐานต่ำ เราคงราคาเป้าหมาย 12 บาท แนะนำซื้อ แต่ชอบ HMPRO มากกว่า

(-) BIGC ยอดขายสาขาเดิมติดลบต่อเนื่อง -4.8% Y-Y ใน 4Q15 แต่เราคาดกำไรสุทธิทำจุดสูงสุดของปี +58.6% Q-Q หนุนด้วย High season และการจัดโปรโมชั่น และคาดกำไรสุทธิปี 2015 -4.8% Y-Y ส่วนปี 2016 การเปิดสาขาใหม่ๆทำให้คาดกำไรกลับมาโต 11.6% Y-Y เป็น 7.69 พันล้านบาทซึ่งไม่ใช่ระดับที่ดีนัก ราคาหุ้นปรับขึ้นมาชนราคาพื้นฐานของเราที่ 230 บาท และตอบรับประเด็นขายกิจการของ Casino แล้ว (เราประเมินราคาขายที่ 230-250 บาท) ถือเป็นจังหวะขายทำกำไร (ปรับลดจากเดิมซื้อ)

(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาพลิกมาปิดลบกว่า 200 จุดซึ่งมีความผันผวนค่อนข้างมาก โดยแม้ FED จะยังคงดอกเบี้ยจากการประชุมครั้งนี้ แต่ยักังวลต่อเศรษฐกิจโลก
(0) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกได้หลังราคาน้ำมันยังดีดตัวขึ้น และตลาดปิดทำการก่อนทราบผลการประชุม FED
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมแม้หลัง FED ยังคงดอกเบี้ยและส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯอาจอ่อนแอลง
(0) ค่าเงินบาทแกว่งทรงตัวออกข้าง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.75-36.90 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น 0.85 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 32.33 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีความเป็นไปได้ว่ารัสเซียจะร่วมมือกับกลุ่ม OPEC ซึ่งสร้างความหวังว่าจะลดความกังวลเรื่อง Oversupply ได้บ้าง
  ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ลดลง 4.40 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,115.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ก่อนที่จะทราบผลการประชุม FED แต่เชื่อว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นหลัง FED ประกาศคงดอกเบี้ยและระบุว่าติดตามสถานการร์เศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

28-29 ม.ค. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
28-ม.ค. - ฟิลิปปินส์: 4Q15 GDP

- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ธ.ค.), Pending home sales (ธ.ค.)

- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ม.ค.)
29-ม.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ธ.ค.

- สหรัฐ: 4Q15 GDP (ตลาดคาด +0.9% ชะลอจากไตรมาสก่อนที่ +2%)
1 ก.พ. - ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.)

- จีน: Manufacturing PMI (ม.ค.), Caixin China PMI Mfg (ม.ค.)

- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (ม.ค.)
2 ก.พ. - อินเดีย: ธนาคารกลาง (RBI) ประชุม

- ออสเตรเลีย: ธนาคารกลาง (RBA) ประชุม
3-ก.พ. - ไทย: กนง.ประชุม

- จีน: Caixin China PMI Composite (ม.ค.)

- สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (ม.ค.)

- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ม.ค.)
4 ก.พ. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ม.ค.)

- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ธ.ค.)

Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!