WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

AIRA copyบล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ทิศทางตลาด
  คาดยังมีความผันผวน? โอกาสปรับขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ คาดเป็นไปอย่างจำกัด แม้ได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่พลิกกลับมาเพิ่มขึ้น จากความเป็นไปได้ที่กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันทั้งโอเปก และประเทศนอกกลุ่มโอเปก จะลดกำลังการผลิตลง แต่คาดภาพรวมกลุ่มพลังงานในบ้านเราอาจได้รับผลกระทบจากประเด็นที่ Moody’s จะมีการทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของ TOP, PTTGC และ IRPC ซึ่งคาดได้ข้อสรุปหลังทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของ PTT แล้วเสร็จใน 1Q/59
  นอกจากนี้คาดยังคงมีความกังวลต่อทิศทางการเติบโตเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีน แม้ในช่วงที่ผ่านมาทางการจีนจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม โดยการอัดฉีดเม็ดเงินต่อเนื่อง แต่ตลาดยังไม่สะท้อนปัจจัยดังกล่าวเท่าที่ควร
ขณะที่อยู่ระหว่างรอผลประชุมเฟด (เช้า พฤ.ตามเวลาไทย) คาดคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 0.25 – 0.50% แต่คาดเฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพียง 3
  ครั้งในปีนี้ ลดลงจากก่อนหน้านี้ที่เจ้าหน้าที่เฟดคาดปรับขึ้น 4 ครั้งในปีนี้ (เฟดมีประชุมทั้งหมด 8 ครั้ง/ปี)
  ส่วนทางด้านปัจจัยในประเทศ ภาพรวมยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ ทางด้าน Fund Flow มีความผันผวน แรงซื้อขายสุทธิของต่างชาติสลับกันไป YTD มียอดขายสุทธิสะสม เกือบ 11,000 ล้านบาท โดยยังคงแนะติดตามค่าเงินบาทประกอบ ล่าสุดเช้านี้เคลื่อนไหว 35.79 – 35.81 บาท แข็งค่าจากวานนี้ที่ 35.82 บาท
  อย่างไรก็ตามคาดหลังจากนี้ไป อาจได้รับปัจจัยบวกเข้ามาบ้างจากความเป็นไปได้ที่รัฐฯ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ทั้งกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ผ่านการปฏิรูปโครงสร้างภาษี และการกระตุ้นการท่องเที่ยวต่อเนื่อง ทั้งจากนักท่องเที่ยวในประเทศ และต่างชาติที่เดินทางเข้ามาไทย ที่คาดส่งผลดีต่อกลุ่มท่องเที่ยวทั้งกลุ่มโรงแรม และกลุ่มสายการบิน นอกเหนือจากการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการภาครัฐ ที่คาดยังเป็นปัจจัยหนุนภาพรวมกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
  ส่วนแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มสื่อสาร คาดมีความน่าสนใจในรูปของ Div.Yieldหลังราคาปรับลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามคาดภาพรวมของกลุ่มฯ ยังคงมีความกังวลต่อภาวะการแข่งขันหลังมีผู้เล่นรายที่ 4 เข้ามาในตลาด
  ยังแนะจับตา (1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่คาดหลังจากนี้มีการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการอื่นๆ ที่มีความพร้อมต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม เส้นทางศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี วงเงิน 110,116 ล้านบาท ที่คาดสามารถเปิดประมูลได้ในช่วง 1Q/59 และรถไฟทางคู่สายประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร วงเงิน ประมาณ 24,000 ล้านบาท ซึ่งคาดเปิดประมูลปลายม.ค.’59 ส่งผลดีต่อ CK และ UNIQ

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
  (+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA +282.01, NASDAQ +49.18, S&P +26.55
  FTSE +34.46, CAC +45.48 และ DAX +86.60
  จาก (1) ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน และ(2) ผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทหลายแห่ง รวมถึง 3M, พร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยราคาบ้าน - พ.ย. เพิ่มขึ้น 5.3%yoy จากปริมาณบ้านที่เสนอขายในตลาดมีจำกัด อัตราดอกเบี้ยจำนองอยู่ในระดับต่ำ และภาวะตลาดแรงงานดีขึ้น และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค - ม.ค. อยู่ที่ 98.1 เพิ่มขึ้นจาก 96.3 เมื่อ ธ.ค. อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างรอผลประชุมเฟด (เช้า พฤ. ตามเวลาไทย) ว่าจะส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่?
  ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มี.ค. +US$1.11 อยู่ที่ US$ 31.45
  ต่อบาร์เรล หลังมีรายงานว่า โอเปก และประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกอาจจะทำข้อตกลงร่วมมือกันปรับลดกำลังการผลิต เพื่อสกัดการร่วงลงของราคาน้ำมัน และแก้ไขปัญหาน้ำมันล้นตลาด
  ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. +US$14.9 อยู่ที่ US$ 1,120.2
  ต่อออนซ์ หลังเงินสหรัฐฯ อ่อนค่าลง โดยอยู่ระหว่างรอผลการประชุมเฟด (เช้า พฤ. ตามเวลาไทย) ซึ่งคาดว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้
  (-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -285 ล้านบาท สะสม YTD
-10,917 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
22.25 1.71 3.39
ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 30,767.18
สถาบัน -82.77
บัญชีหลักทรัพย์ +52.38
ต่างประเทศ -285.09
ในประเทศ +315.48

  (-) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยส่งออก - ธ.ค. ลดลง 8.73%yoy เป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน และต่ำกว่าที่คาดว่าจะลดลง 7.2% โดยทั้งปี’58 ลดลง 5.8% พร้อมตั้งเป้าหมายปี’59 กลับมาขยายตัว 5.0%

ประเด็นที่ต้องติดตาม 27 ม.ค. – 3 ก.พ. 2559
27/1/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
   ยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค.
   สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
   เฟด ประกาศมติการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน

28/1/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
   ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค.
   ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
   ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย(pending home sales) เดือนธ.ค.

29/1/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
   ตัวเลขประมาณการขั้นต้น GDP – 4Q/58
   ดัชนีต้นทุนการจ้างงาน - 4Q/58
   ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนม.ค.
   ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนม.ค.

3/2/59 : ประชุม กนง. (อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ล่าสุด 1.50%)
  (2) กลุ่มการบิน ที่คาดราคามีโอกาสฟื้นตัว หลังสายการบินของไทยผ่านการประเมินของสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป (EASA) และสามารถบินได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ และช่วง High Season ของการท่องเที่ยว คาดส่งผลดีต่อ BA, AAV
  (3) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, TOP และ SPRC จะได้รับผลบวกจากค่าการกลั่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจาก 4Q/58-1Q/59 แต่คาดผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 4Q/58 เป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น
  (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น TASCO เป็นต้น
  (5) หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT, CENTEL) และ AOT จากแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น และเข้าสู่ช่วง High season ใน 4Q/58 – 1Q/59
  (6) เริ่มเข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงาน คาดอาจมีแรงเก็งกำไร จนถึงปลายเดือน ก.พ.’59
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.03 อยู่ที่ 1.99% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.65 อยู่ที่ 22.50
หุ้นแนะนำ : CK

นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!