WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Asiawealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook

 

มีลุ้นเรื่องน้ำมัน
  คาดว่าหุ้นไทยปรับตัวขึ้นวันนี้ แม้จะไม่มาก จากความหวังว่า OPEC กับ รัสเซีย จะเจรจาลดกำลังการผลิตน้ำมันกันได้ แม้โอกาสความเป็นไปได้ยังไม่มากก็ตาม ปัจจัยภายในประเทศก็เป็นบวก ไม่ว่าจะเป็นข่าวไทยจะร่วมลงขัน AIIB มุมมองบวกจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ นายกยืนยันเลือกตั้ง ก.ค. 60 ไม่ว่ารัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติหรือไม่ ทำให้ความไม่แน่นอนทางการเมืองลดลงพอสมควร

หุ้นเด่นวันนี้ : GFPT (ราคาปิด 11.90 บาท; NR; ราคาเป้าหมาย Bloomberg 12.96 บาท)
  บมจ. จีเอฟพีที ประกอบธุรกิจชำแหละและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่ บริษัทฯ เป็นหุ้นที่น่าจะได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องและปัญหาอุปทานส่วนเกินของเนื้อไก่ภายในประเทศมีแนวโน้มคลี่คลายลงในปีนี้ ในปี 2558 ปัญหาอุปทานส่วนเกินของไก่ส่งผลให้ราคาเนื้อไก่ในประเทศปรับตัวลดลง ~10% มาอยู่ที่ 37 บาท/กก. อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าอุปสงค์และอุปทานของเนื้อไก่จะค่อยๆ ปรับตัวเข้าสู่ดุลยภาพได้ในปีนี้หลังจากที่ทางการไทยได้สั่งห้ามการนำเข้าไก่ปู่ย่าพันธุ์จากประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ ม.ค.57 จากปัญหาไข้หวัดนกระบาดในสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลให้อุปทานเนื้อไก่เริ่มปรับตัวลดลงตั้งแต่ไตรมาส 2/59 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ผลประกอบการของบริษัทงวดไตรมาส 4/58 มีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อเนื่องทั้ง QoQ และ YoY สนับสนุนโดย 1) ปริมาณการส่งออกไปยังญี่ปุ่นและยุโรปเพิ่มขึ้น 2) อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นจากราคากากถั่วเหลืองที่ลดลง (ใช้เป็นส่วนผสม ~35% ของวัตถุดิบอาหารสัตว์) และ 3) ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม (GFN,McKey) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY ตามประมาณการของ Bloomberg consensus คาดว่าบริษัทจะมีกำไรจากการดำเนินงานเติบโต 22% ในปี 59 และเติบโตชลอลงเป็น 9% ในปี 60 ทั้งนี้ รูปแบบราคาของ GFPT ได้เกิดสัญญาณซื้อในรายวันและรายสัปดาห์ซึ่งบ่งชี้ความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น-กลาง หากราคาหุ้นสามารถปิดตลาดโดยยืนเหนือ 10.70 บาทในวันศุกร์นี้ก็จะกลับมาเกิดสัญญาณซื้อในรายเดือนด้วย ราคาหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นไปทดสอบเป้าหมายถัดไปที่ 13.20 บาทต่อไป โดยมีจุด Stop Loss ในรอบนี้อยู่ที่ 11.00 บาท (แนวต้าน: 12.00, 12.20, 12.50; แนวรับ: 11.80, 11.60, 11.30)

 

ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :

      นายกประยุทธ์ จันโอชา กล่าววานนี้ว่าจะมีการเลือกตั้งก่อน ก.ค.60 เป็นไปตามแผน 6-4-6-4 ของรัฐบาล แม้ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะถูกปฏิเสธจากสภาปฏิรูป นายกปฏิเสธที่จะอธิบายถึงแผนการรับมือต่อเหตุการณ์ที่ร่างรัฐธรรมนูญอาจจะไม่ผ่านประชามติ โดยได้กล่าวว่าจะเปิดเผนดังกล่าวก็ต่อเมื่อร่างดังกล่าวไม่ผ่านประชามติจริง (The Nation) ความเห็น: นี่เป็นการขยายระยะเวลาที่ช่วยลดความไม่แน่นอนทางการเมืองในปีนี้เนื่องจากการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญถูกกำหนดขึ้นประมาณ ก.ค.-ส.ค. นี้


ส่งออกหดตัวเกือบ 6% ในปี 58 การส่งออกตลอดปี 58 หดตัว 5.8% สู่ระดับ 2.4137 แสนล้านดอลลาร์ (7.22 ล้าน ลบ.) แย่กว่าที่กระทรวงคาดว่าจะลดลง 5.5% เพราะราคาน้ำมันที่ต่ำกว่าคาด โดยน้ำมันและผลผลิตเกี่ยวเนื่องคิดเป็น 11% ของการส่งออกในไทย นำเข้าร่วง 11% สู่ระดับ 2.0265 แสน ลบ. ซึ่งมากที่สุดในรอบหกปี ทำให้ไทยเกินดุลการค้า 1.172 หมื่น ลบ. (The Nation) ความเห็น: กระทรวงคาดว่าปี 59 จะพลิกกลับมาเติบโตได้ แต่ก็น่าจะต้องหนุนจากน้ำมันและเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัว โดยทั้งคู่ยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่
เห็นชอบวงเงิน 5.282 หมื่นลบ. เข้าร่วม AIIB ครม.วานนี้ได้เห็นชอบงบประมาณ 5.282 หมื่น ลบ.เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ไทยเพื่อเข้าร่วมธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (AIIB) ที่นำโดยจีน และไทยจะถือหุ้นธนาคารราว 1.43% และจะแบ่งจ่ายเป็น 5 งวดๆ ละ 2.112 พัน ลบ. งวดแรกในสิ้นปี 62 (Bangkok Post)


ผู้ค้าปลีกหวังยอดขายเพิ่มขึ้นในช่วงตรุษจีน ผู้ค้าปลีกรายใหญ่คาดการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะสูงขึ้นในช่วงวันตรุษจีนซึ่งตรงกับวันที่ 8 กุมภาพันธ์ในปีนี้ เช่น เทสโก้โลตัสคาดยอดขายจะเพิ่มขึ้น 20% ในช่วงเวลาดังกล่าว ระหว่างที่เดอะมอลล์กรุ๊ปและฟิวเจอร์พาร์คคาดยอดขายจะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ถึงแม้จะไม่สามารถบอกตัวเลขคาดการณ์ได้ชัดเจน (The Nation)


ผู้ประกอบการสร้างบ้านมองบวกในปี 59 สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านคาดความต้องการในการสร้างบ้านด้วยตัวเองในปีนี้จะสูงขึ้นอย่างมีนัยยะ เนื่องจากผู้บริโภคได้แสดงความสนใจอย่างมากในปี 58 แต่ได้ยืดเวลาตัดสินใจออกไปก่อนเนื่องจากขาดความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจ ทั้งนี้ สมาคมฯคาดการสร้างบ้านด้วยตัวเองจะเติบโต 15% อยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาทในปีนี้ (Bangkok Post)


VGI (Bt3.70, AWS TP Bt4.20) รายงานผลกำไรสุทธิงวด 3QFY59 (ต.ค.-ธ.ค.58) อยู่ที่ 232 ลบ. ลดลง 3% QoQ และ 23% YoY หากไม่รวมกำไรพิเศษ 10 ลบ. บริษัทจะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ 222 ลบ. เพิ่มขึ้น 11% QoQ แต่ยังคงลดลง 15% YoY บริษัทประกาศจ่ายปันผลสำหรับผลประกอบการช่วง เม.ษ.-ก.ย.58 ที่ 0.05 บาทต่อหุ้น วันขึ้นเครื่องหมาย XD 8 ก.พ. 59 (SET) ความเห็น: กำไรสุทธิเป็นไปตามการประมาณการของบลูมเบิร์กที่ 224 ลบ. แต่สูงกว่าที่เราประมาณการไว้ที่ 195 ลบ. เรายังคงคำแนะนำ “ถือ”


ต่างประเทศ

โอเปกและรัสเซียก้าวสู่การเจรจาถึงความเป็นไปได้ที่จะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาภาวะน้ำมันดิบล้นตลาดในช่วงหลายทศวรรษ โอเปกย้ำว่าโอเปกจะพิจารณาการปรับลดกำลังการผลิต แต่เหล่าผู้ผลิตนอกโอเปกต้องดำเนินการแบบเดียวกันด้วย จนถึงตอนนี้ รัสเซียปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ อย่างไรก็ตามแรงกดดันเพิ่มมากขึ้นทางฝั่งรัสเซียเพื่อป้องกันรายได้ของรัฐและหลีกเลี่ยงความไม่พอใจของประชาชนเนื่องจากค่าเงินรูเบิลอ่อนตัวแตะระดับต่ำสุดที่เคยมีมาเมื่อสัปดาห์ก่อนและจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในอีก 2 ปีข้างหน้า (Reuters)
เบาะแสการขึ้นอัตราดอกเบี้ย คาดว่าเฟดจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 2 วันนี้ซึ่งได้เริ่มขึ้นแล้วเมื่อวันอังคาร อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจะกลั่นกรองความเห็นของเฟดเพื่อวัดว่าความปั่นป่วนทั่วโลกในช่วงนี้จะมีผลกระทบต่อความเป็นไปได้ในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอย่างไร (Reuters)
ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อวันอังคาร เนื่องจากเฟดได้เริ่มการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายระยะเวลา 2 วัน โดยที่ราคาพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีล่าสุดเพิ่มขึ้น 7/32 และให้อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 1.999% ลดลงจาก 2.022% เมื่อวันจันทร์ (Reuters)
สหรัฐ :

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดีดกลับกว่า 1% เมื่อวันอังคาร โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นและผลประกอบการอันแข็งแกร่งจาก3เอ็ม, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และ พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล 10 ภาคหลักของ S&P 500 ปิดบวกทั้งหมด นำโดยภาคพลังงานที่ขยับขึ้นถึง 3.78% ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น 3.7% จากความหวังว่าโอเปกและประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกจะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาน้ำมันล้นตลาด (Reuters)
ความคาดหวังโดยรวมเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทในดัชนี S&P500 ยังคงอ่อนแอ ส่วนใหญ่มาจากเรื่องราคาน้ำมัน คาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทใน S&P500 โดยเฉลี่ยจะลดลง 4.9% จากข้อมูลของทอมสัน รอยเตอร์ หากไม่รวมกลุ่มพลังงาน คาดว่ากำไรของบริษัทในดัชนีดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 1.1% (Reuters)
ราคาบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยวในสหรัฐในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 16 เดือน ดัชนี S&P/Case Shiller Composite ซึ่งสำรวจ 20 เมืองใหญ่ เพิ่มขึ้น 5.8% YoY ในเดือนพ.ย. เทียบกับ 5.5% ในเดือนต.ค. สูงกว่าประมาณการที่ 5.7% จากผลสำรวจจากรอยเตอร์ซึ่งสอบถามนักเศรษฐศาสตร์และเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับแต่เดือนก.ค. 57 (Reuters)
ยุโรป :

ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันอังคารฟื้นตัวสูงขึ้น ชดเชยกันการหดตัวลงก่อนหน้านี้ นำโดยราคาหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่ดีดตัวตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ โดยราคาน้ำมันดิบมีการฟื้นตัวท่ามกลางความคาดหวังว่ากลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะเจรจาหาทางออกในการบรรเทาภาวะอุปทานส่วนเกินในปัจจุบัน (Reuters)
เอเชีย :

ตลาดหุ้นจีนเมื่อวันอังคารปรับตัวลดลงกว่า 6% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน จากแรงขายอย่างรุนแรงหลังจากที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอีกครั้ง ประกอบกับนักลงทุนยังมีความกังวลต่อการอ่อนค่าที่มากขึ้นของเงินหยวน แม้ว่า PBOC พยายามที่จะทำให้เงินหยวนมีความเสถียรภาพมากขึ้นก็ตาม (Reuters)
การปฏิรูปภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในปีนี้ของจีนจะช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมประหยัดภาษีไปได้ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ หรือราว 5.6 แสนล้านหยวน จากที่จ่ายในปี 2558 (Reuters)
นาย Akira Amari รมว.เศรษฐกิจญี่ปุ่นเตรียมอธิบายในประเด็นข้อกล่าวหาการติดสินบน โดยคาดว่าจะมีการจัดประชุมแถลงข่าวในวันพฤหัสบดีนี้ (Reuters)


สินค้าโภคภัณฑ์ :

น้ำมันดิบสหรัฐขึ้นกว่า 4% วันอังคาร ด้วยความหวังของนักลงทุนว่าประเทศผู้ผลิตน้ำมันทั้งในและนอกโอเปคจะมีควาบคืบหน้าไปสู่ข้อตกลงการลดกำลังการผลิตในช่วงนี้ที่มีผลผลิตล้นตลาดในรอบหลายทศวรรษ น้ำมันดิบสหรัฐบวก 1.11 ดอลลาร์ (+3.7%) ปิดที่ 31.45 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล Brent ปรับขึ้น 1.30 ดอลลาร์ (+4.26%) ปิด 31.80 ดอลลาร์(Reuters)
ราคาทองขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 12 สัปดาห์ในวันอังคาร แม้หุ้นจะแข็งแกร่งก็ตาม นักลงทุนก็เข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยจากการที่ Fed เริ่มประชุม โดยคาดจะมีการบอกใบ้เกี่ยวกับจังหวะเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งถัดไป ราคาทองคำตลาดจรปรับขึ้น 1.3% อยู่ที่ 1,121.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำล่วงหน้าส่งมอบ ก.พ. ปรับขึ้น 1.3% อยู่ที่ 1,120.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จุดสูงสุดนับแต่ต้น พ.ย. (Reuters)

Thailand Research Department
  Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
  Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
  Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
  Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
  Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!