- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 26 January 2016 17:31
- Hits: 1002
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : น้ำมันรายวัน
Stock of the town : PIMO J
หุ้นแนะนำพิเศษ : ORI
หุ้นเด่นรายวัน : TOG BEAUTY SEAFCO PYLON
SET วานนี้อ่อนตัวลงเล็กน้อยจากแรงขายกลุ่มท่องเที่ยวตอบรับข่าวพบผู้ป่วยโรค "MERS" รายที่ 2 ในไทย ประกอบกับราคาน้ำมันย่อตัวลง ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,267.70 จุด (-0.33 จุด) Volume 4.3 หมื่นลบ. โดย Foreign Net -96 ลบ. , Net TFEX +1,200 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
- ตลาดหุ้น DJ -208.29 จุด จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงรวมถึงนักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนการประชุม FOMC 26 – 27 ม.ค.
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงล่าสุด 29.88 USD/Barrel หลังจากการผลิตน้ำมันดิบของอิรักพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งกลุ่มโอเปกไม่มีแนวโน้มจัดประชุมฉุกเฉิน แม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวลง
- สาธารณสุขเผยผู้ป่วยโรค "MERS" อาการทรงตัว นำผู้สัมผัสโรคเสี่ยงสูงเข้าสังเกตอาการเพิ่ม
+ รัฐเร่งอัดฉีดงบประมาณและเซ็นสัญญาโปรเจ็กต์ยักษ์ ทางหลวง รถไฟทางคู่ สนามบินสุวรรณภูมิ และท่าเรือแหลมฉบัง มูลค่า 9 แสนลบ.ภายในปีนี้
+ กพท.ชง ครม. 2 ก.พ.นี้ ขอใช้งบกลาง 250 ล้านจ้างผู้เชี่ยวชาญจากอังกฤษ ปลดล็อกธงแดง ICAO
+/- ผลสำรวจการประชุม FOMC ในวันที่ 26 – 27 ม.ค. คาดว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ย แต่อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.
+/- สบน.เตรียมเสนอแผนก่อหนี้ใหม่เพิ่ม 1.3 แสนล้านเข้าครม. เพิ่มเป็น 1.74 ล้านล้านบาท ดันหนี้ต่อจีดีพี 45.1% ถึงปี 63 เพิ่มเป็น 50.6% ของจีดีพี
+/- Fund Flow ต่างชาติเป็น Net Sell ตั้งแต่ต้นปีราว 1 หมื่นลบ แต่ Net Long TFEX 6.7 หมื่นสัญญา
แรงกดดันจากราคาน้ำมันทีทรุดตัวหลุด 30 USD/Barrel อีกครั้ง รวมถึง Sentiment เชิงลบจากตลาดหุ้นรอบบ้าน และการชะลอการลงทุนเพื่อรอผลการประชุม FOMC ในวันที่ 26 – 27 ม.ค. ดังนั้นคาดว่าSET จะปรับอ่อนตัวลงโดยมีแนวรับบริเวณ 1,250 - 1,260 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
แนะนำ Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยบวก ได้แก่
High season การท่องเที่ยวและต้นทุนน้ำมันปรับตัวลง AOT BA AAV
กลุ่มที่คาดว่างบปี 58 และ Q4/58 เติบโตขึ้น EPG DCC QTC FSMART KCE TVT GL BEAUTY BRR EA SYNEX SMPC SPALI ORI
ประเด็นข่าวอื่น
บอร์ด TWZ อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 60 ลบ. คิดเป็นหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 260 ล้านหุ้น หรือ 4.17% มีกำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืน 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.-8 ส.ค.59
KBANK เสนอบอร์ดร่วมให้แบงก์การันตีกับ TRUE-JAS ในสัปดาห์นี้
คาดการณ์วันประกาศงบ
26 ม.ค. DCC VGI / 27 ม.ค. SCC / 28 ม.ค. PTTEP / 3 ก.พ. DTAC / 4 ก.พ. ADVANC / 9 ก.พ. IRPC / 10 ก.พ. THCOM / 11 ก.พ. LPN / 12 ก.พ. TOP / 15 ก.พ. PTTGC / 17 ก.พ. INTUCH / 18 ก.พ. IVL / 25 ก.พ. DCON TRUE
หุ้นแนะนำพิเศษ
ORI ราคาปิด 13.80 บาท
กำไรปี 58 มีแนวโน้มเติบโตก้าวกระโดด จากรายได้ปี 58 ราว 2,050 ลบ.โตเกือบ 4เท่าจากปี 57ที่มีรายได้ 559 ลบ. ในช่วง 9M58 มีรายได้ 1,350 ลบ.และกำไร 262 ลบ.เพิ่มขึ้น 356% และ 673% ตามลำดับ ความสามารถในการทำกำไรอยู่ในระดับดี มีอัตรากำไรขั้นต้น 42% สูงที่สุดในกลุ่มอสังหาฯ อัตรากำไรสุทธิ 19%
ปี59 ตั้งเป้ายอดขาย presale เติบโตเป็น 7,500 ลบ.จาก 5,300 ลบ.ในปี 58 เป้ารายได้ 4,000 ลบ. ปลายปี 58 มียอดขายรอโอน (backlog) 7,158 ลบ. มีกำหนดโอนปีนี้ 3,282 ลบ. โดยเน้นกลยุทธ์เรื่อง blue ocean ในการเปิดโครงการก่อนผู้ประกอบการรายอื่น เกาะเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย และนิคมอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพเติบโตอาทิ auto หรือ high technology เจาะลูกค้าเกรด B ที่มีกำลังซื้อ โครงการที่จะเปิดขายใน Q1 มี 2 โครงการอยู่แถวนิคมฯแหลมฉบังและสะพานใหม่มูลค่ารวม 2,450 ลบ.จากที่จะเปิดทั้งหมด 8 -10 โครงการมูลค่ารวม 1 หมื่นลบ.ในปีนี้
แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ผลประกอบการปี 58 ที่คาดว่าจะเติบโตสูง (คาดส่งงบการเงินราวปลายเดือนก.พ.59)
หุ้นเด่นรายวัน
TOG (ราคาปิด 5.95) ปี 59 มีโอกาสทำรายได้และกำไรสุทธิให้เติบโตมากกว่าเป้าที่ 8% พร้อมทุ่มงบลงทุน 200 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตเลนส์สั่งฝนพิเศษ เหตุมาร์จิ้นดี ส่วนงบปี 2558 มั่นใจรายได้และกำไรสุทธิโต 10% ตามเป้า (ที่มา:ข่าวหุ้น)
BEAUTY (ราคาปิด 5.60 ซื้อเก็งกำไร) เจาะตลาดอินโดโกยเงิน เตรียมตั้งตัวแทนจำหน่ายสินค้าสิ้นมกราคมนี้ บอสใหญ่ "นพ.สุวิน ไกรภูเบศ" ดันสัดส่วนรายได้นอกบ้านพุ่งทะยานปักหมุดรายได้ปีลิงแตะ 2.1 พันล้านบาท ลั่นขอรักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 20% ลุยเพิ่มไลน์สินค้าอัพยอด โชว์งบ Q4/58 สุดพีค (ที่มา:ทันหุ้น)
SEAFCO (ราคาปิด 8.60 ซื้อเก็งกำไร) และ PYLON (ราคาปิด 10 ซื้อเก็งกำไร) เป็นผู้รับเหมางานด้านฐานรากได้รับประโยชน์ก่อนผู้รับเหมารายอื่นจากนโยบายรัฐในการเร่งอัดฉีดงบ 9 แสนล้านบาทและจะเร่งเซ็นสัญญาภายในปีนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : -208.29 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,885.22 จุด ร่วงลง 208.29 จุด หรือ -1.29% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,518.49 จุด ลดลง 72.69 จุด หรือ -1.58%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,877.08 จุด ลดลง 29.82 จุด หรือ -1.56%
โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงและได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงด้วย นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ
ตลาดน้ำมัน NYMEX : -1.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 1.85 ดอลลาร์ หรือ 5.8% ปิดที่ 30.34 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่าการผลิตน้ำมันดิบของอิรักพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งข่าวที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไม่มีแนวโน้มจัดประชุมฉุกเฉิน แม้ว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลงอย่างมากก็ตาม
Analyst : วิลาสินี บุญมาสูงทรง
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ชัยยศ จิวางกูร
บุญฤทธิ์ เบญจธนารักษ์