WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Asiawealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook

 

น้ำมันกลับมากดดันตลาด
  หลังจากปรับตัวขึ้นช่วงหนึ่งเมื่อวาน คาดว่าหุ้นไทยวันนี้จะปรับตัวลงตามราคาน้ำมันที่กลับมาร่วงลงอีก แม้จะมีปัจจัยบวกในประเทศอยู่บ้างก็ตาม รถไฟรางคู่ยังเป็นไปตามกำหนดการ แนวโน้มการพิจารณาเข้าร่วม TPP ของรัฐบาล การขยายเวลาโครงการรับซื้อยาง เป็นปัจจัยบวก นอกเหนือไปจากน้ำมันที่ร่วงแรง 6% จากความกังวลอุปทานส่วนเกินกลับมา ความเชื่อมั่นทางธุรกิจเยอรมันที่ลดลง และความต้องการหนีความเสี่ยงเป็นปัจจัยภายนอกที่กดดันหุ้นไทย

หุ้นเด่นวันนี้ : SCC (ราคาปิด 420.00 บาท; NR; ราคาเป้าหมาย Bloomberg 559.36 บาท)
 เราเลือก บมจ. ปูนซีเมนต์ไทย เป้นหุ้นเด่นในวันนี้ หลังจากที่เห็นว่าราคาหุ้นในปัจจุบัน Laggard กับ Outlook ที่สดใสและพื้นฐานทางธุรกิจที่ยังแข็งแกร่ง ล่าสุดส่วนต่างราคา (Spread) HDPE-Naphtha สัปดาห์ที่แล้วสามารถฟื้นตัวกลับมาแตะระดับใกล้ 800 ดอลลาร์ฯ ต่อตัน สะท้อนถึงวงจรขาขึ้นของปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์อย่างแข็งแกร่งแม้ว่าจะมีความกังวลของเศรษฐกิจจีนเข้ามาเกี่ยวข้อง และเชื่อว่าธุรกิจปิโตรเคมีจะช่วยสร้างฐานกำไรที่มั่นคงให้กับ SCC ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ขณะที่ธุรกิจปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างกำลังจะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้น มูลค่ากว่า 1.80 ล้านล้านบาท และขับเคลื่อนผลการดำเนินงานการเติบโตนับจากนี้ไปที่จะฟื้นตัวจากภาวะชะลอตัวในปีที่แล้ว จากประมาณการกำไรของ Bloomberg consensus คาดว่าจะเห็นกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต 31% YoY

      แม้จะขยายตัวลดลงเป็น 4% ในปีนี้ แต่เชื่อว่าจะเห็นการปรับประมาณการกำไรของตลาดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของกำไรงวด 4Q58 ที่กำลังจะประกาศออกมาคาดว่าจะอยู่ที่ 9.8 พันลบ. สูงขึ้น 9% QoQ และ 11% YoY ขับเคลื่อนจากธุรกิจปิโตรเคมีที่แข็งแกร่งข้างต้นแม้เผชิญกับผลขาดทุนสต็อกบางส่วน และคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 2H58 ที่ให้ผลตอบแทนราว 4.1% เทียบรายปี และให้ผลตอบแทนต่อเนื่องในปีนี้และปีหน้าอีก 4.1-4.2% ราคาหุ้นปัจจุบันซึ่งซื้อขายที่ระดับ PBV และ PER ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังในอดีต 5 ปีอยู่ราว 3.0 S.D. และ 1.0 S.D. ตามลำดับเชื่อว่าเป็นการสะท้อน Downside ที่จำกัดของราคาหุ้นแล้ว ในส่วนของ Price Pattern ของ SCC ได้กลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ แม้ว่ายังมี Weekly & Monthly Sell Signal อยู่ จึงมีแนวโน้มที่จะเกิดการฟื้นตัวในระยะสั้น โดยคาดว่า Price Pattern ของ SCC จะปรับตัวขึ้นไปทดสอบเป้าหมายแรกที่ 436 บาท และหาก Price Pattern ของ SCC ยังมีความแข็งแกร่งมากพอ ก็จะมีโอกาสขึ้นไปทดสอบเป้าหมายเบื้องต้นที่ 456 บาท ตามลำดับ โดยมีจุด Stop Loss ในรอบนี้อยู่ที่ 400 บาท (แนวต้าน: 424.00, 428.00, 432.00; แนวรับ: 418.00, 414.00, 410.00)

ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :

      มาตรการหนุนยางพาราอาจขยายเวลา จากมาตรการรับซื้อยางพาราซึ่งเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ถึงสิ้นเดือน มิ.ย. นี้ รองนายกรัฐมนตรีได้รับฟังความกังวลที่ว่ามาตราการจะไปสิ้นสุดกลางช่วงเก็บเกี่ยวและรัฐบาลอาจจะขยายเวลารับซื้อยางพาราออกไปจนกว่าปัญหาจะถูกแก้ไข (Bangkok Post)
โครงการรถไฟรางคู่ยังเป็นไปตามแผน รองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าไทยและจีนจะบรรลุข้อตกลงความร่วมมืออย่างเป็นมิตรสำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่เส้นทางกรุงเทพ-หนองคาย และจะเริ่มงานก่อสร้างได้ภายในปีนี้ (Bangkok Post) ความเห็น: ล่าสุดจีนได้เห็นชอบที่จะให้เงินกู้ยืมสำหรับงานก่อสร้างดังกล่าวในอัตราดอกเบี้ย 2% ซึ่งเป็นคอขวดสำคัญประการหนึ่งในการเจรจาข้อตกลงดังกล่าว
      JFCCT เตือนเรื่องการเข้าร่วม TPP จากการประชุมร่วมกันระหว่างประธานสภาหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) และ รมว.กระทรวงพาณิชย์ นางอภิรดี โดย JFCCT ได้กล่าวอีกครั้งถึงความต้องการให้รัฐบาลแสดงความชัดเจนว่าไทยจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกในความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (TPP) หรือไม่และต้องการที่จะให้ประเทศไทยเข้าร่วม รมว.กระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าไทยกำลังติดตามเรื่องดังกล่าวแต่ยังต้องสรุปผลการศึกษาสุดท้ายถึงผลเสียที่จะกระทบต่อภาคส่วนต่างๆ และวิธีลดผลกระทบดังกล่าวหากเข้าร่วมเป็นสมาชิก (The Nation)
กลับมาพบโรคเมอร์สอีกครั้งนึง ในช่วงต้นอาทิตย์ ชายชาวตะวันออกกลางถูกกักตัวไว้หลังจากถูกวินิจฉัยพบว่าเป็นผู้ป่วยโรคเมอร์ส ซึ่งเป็นรายที่ 2 ในรอบ 7 เดือน โดยท่าอากาศยานไทยได้สงวนท่าเทียบเครื่องบินสองแห่งในการตรวจผู้โดยสารสำหรับสายการบินที่มาจากตะวันออกกลางแล้ว (The Nation) ความเห็น: เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่ามีผู้โดยสารที่เดินทางมากับผู้ป่วยจำนวน 239 คน โดย 32 คนจากจำนวนนี้ได้ถูกกักตัวไว้แล้ว ส่วนผู้โดยสารที่เหลือ ยังอยู่ในระหว่างเฝ้าติดตาม
    CPALL (41.50 บ.) มีหุ้นกู้จำนวน 11.8 พันลบ. ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 31 ต.ค. และบริษัทมีโอกาสสูงที่จะต้องออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อรีไฟแนนซ์ซึ่งอาจเผชิญความยากลำบากในการขายหุ้นกู้ดังกล่าว เนื่องจากนักลงทุนสถาบันส่วนใหญ่ได้ลดสถานะการลงทุนในหุ้น CPALL ลงหลังบริษัทไม่มีบทลงโทษเพิ่มเติมกรณีผู้บริหารใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้น ในกรณีเลวร้าย เรื่องดังกล่าวอาจมีผลต่อความน่าเชื่อถือต่อการระดมทุนของกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ (Bangkok Post)
     KBANK (ปิด 157.50 บาท ราคาเป้าหมาย 205 บาท) อยู่ระหว่างให้บอร์ดพิจารณาค้ำประกันให้แก่ผู้ชนะประมูล 4จีภายในพฤหัสนี้ ได้แก่ TRUE (6.55 บาท) และ JAS (3.10 บาท) แหล่งข่าวจากธนาคารพาณิชย์เผยว่าทรูมูฟน่าจะมีแบงค์การันตียื่นให้ กสทช.ได้ในเดือนหน้า และจะมีธนาคารอย่างน้อย 4 แห่งเข้าร่วม ได้แก่ BBL (145.50 บาท ราคาเป้าหมาย 188 บาท) SCB (ปิด 120 บาท ราคาเป้าหมาย 152 บาท) KBANK และไอซีบีซี (ไทย) แหล่งข่าวอ้างว่า KTB (ปิด 17.70 บาท ราคาเป้าหมาย 18 บาท) น่าจะกำลังยื่นเรื่องค้ำประกันต่อบอร์ดด้วยเช่นกัน แหล่งข่าวอีกแหล่งระบุว่า JAS เป็นผู้เล่นรายใหม่ในตลาดและลงทุนเป็นจำนวนมาก BBL เลยต้องระวังและต้องมีแผนธุรกิจอย่างละเอียดประกอบการพิจารณา (The Nation)
ต่างประเทศ

      ความต้องการสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำกลับมาใหม่ ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของราคาน้ำมันที่ร่วงลงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกทำให้เกิดความต้องการลงทุนในเงินเยน ทองคำ และพันธบัตรของเยอรมันและสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของตลาดนำโดยน้ำมันตั้งแต่เริ่มต้นปี 2016 ได้กระตุ้นความหวังว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นจากธนาคารกลางที่สำคัญ ๆ ของโลกและเฟดจะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย สัญญาณซื้อขายล่วงหน้าที่อิงกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐบ่งบอกว่าเทรดเดอร์มองว่ามีโอกาสเพียง 13% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ (Reuters)
การขาดทุนในราคาน้ำมันและตลาดหุ้นสหรัฐฉุดให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ลดลง 0.3% อยู่ที่ 99.254 จุด เงินเยนแข็งค่าขึ้นเทียบกับดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 118.30 เยนและทรงตัวเทียบเงินยูโรอยู่ที่ 128.41 เยน (Reuters)
ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและเยอรมันเพิ่มขึ้น โดยที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ลดลงกว่า 0.03% อยู่ที่ 2.01% ส่วน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเยอรมันอายุ 10 ปี ลดลง 0.01% อยูที่ 0.397% เนื่องจากราคาน้ำมันที่ร่วงลงหนุนความต้องการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำ (Reuters)
สหรัฐ :

     ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดลบหนักเมื่อวันจันทร์ จากหุ้นกลุ่มพลังงานเป็นตัวนำตลาดลงหลังจากราคาน้ำมันกลับมาลดลงเนื่องจากภาวะน้ำมันที่ยังคงล้นตลาด โดยดัชนีหลัก ๆ ต่างปรับตัวลงหลังจากที่สัปดาห์ก่อนปรับตัวขึ้นอย่างมาก ราคาน้ำมันร่วงลง 6% จากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์อุปทานล้นตลาดหลังจากมีข่าวว่าปริมาณน้ำมันที่อิหร่านผลิตบันทึกสถิติใหม่เมื่อเดือนก่อน (Reuters)
ยุโรป :

      หุ้นยุโรปร่วงในวันจันทร์ นำโดยหุ้นน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ซึ่งร่วงหนักมาก หลังจากราคาน้ำมันกลับมาตกต่อ หุ้นธนาคารสเปนและอิตาลี นำหุ้นธนาคารยุโรปลง ธนาคารอิตาลีกำลังประสบปัญหา NPL ในขณะที่หุ้นธนาคารสเปนโดนกดดันจากการที่สเปนยังไม่อาจจัดตั้งรัฐบาลได้ หลังการเลือกตั้งทั่วไปในปีที่แล้วไม่มีใครได้เสีบยงมากพอจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล (Reuters)
     ความเชื่อมั่นทางธุรกิจเยอรมันตกต่ำ สู่จุดต่ำสุดในรอบ 11 เดือน ในเดือน ม.ค. บ่งชี้ความวิตกกังวลที่มากขึ้นของบรรดาผู้บริหารระดับสูงของเยอรมัน (Reuters)
เอเชีย :

     ญี่ปุ่นและจีนกำลังแสวงหาความร่วมมือในการช่วยการปฏิรูปเงินหยวนและเศรษฐกิจจีน ทั้งสองฝ่ายต้องการความร่วมมือในทั้งระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล และธนาคามรกลางต่อธนาคารกลาง ในเรื่องการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีนโดยเฉพาะเงินหยวน ซึ่งกำลังส่งผลต่อประเทศต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะส่งสัญญาณให้เห็นความร่วมมือกันระหว่างยักษ์ใหญ่เศรษฐกิจเอเซียทั้งสอง (Reuters)
นักลงทุนจีนแห่ลงทุนใน IPO ขายใต้กฎตลาดใหม่ แม้ตลาดจะผันผวนมาก ภายใต้กฎตลาดใหม่ ซึ่งมีผลตั้งแต่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา นักลงทุนยังไม่ต้องจ่ายเงินในช่วงเวลาจองซื้อหุ้น ทำให้มีเงินไปซื้อหุ้นตัวอื่นๆได้ จนกว่าจะมีการส่งมอบหุ้นจริง นอกจากนี้นักลงทุนยังคาดว่า ข้อปฏิบัติที่ไม่เป็นทางการ แต่ถือปฏิบัติกันมาตลอดในการตั้งราคา IPO ที่ต่ำกว่าหุ้นที่อยู่ในตลาดมากนั้น ยังคงจะดำเนินต่อไป ซึ่งทำให้นักลงทุนล้วนมีกำไรในวันเข้าตลาดอย่างแน่นอน (Reuters)
      ธนาคารกลางจีนจะอนุญาตให้เงินในบัญชีของบุคคลที่มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศสามารถแปลงเป็นเงินฝากประจำได้ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนต่างชาติซึ่งมีรายได้จากการค้าขายกับประเทศจีนและช่วยรักษาเสถียรภาพของเงินทุนไหลออก. (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :

    น้ำมันดิบสหรัฐร่วง 6% วันศุกร์ หลุดระดับสำคัญ 30 ดอลลาร์ หลังมีข่าวว่าน้ำมันที่อิรักผลิตได้ทำสถิติในเดือนที่แล้ว ทำให้ตลาดกลับมากังวลเรื่องน้ำมันล้นเกิน กดราคาน้ำมันให้ลงไปแตะระดับต่ำสุดรอบ 12 ปี สัปดาห์ที่แล้ว น้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1.85 ดอลลาร์ (-5.8%) ปิดที่ 30.34 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล Brent ส่งมอบ มี.ค.ปรับลง 1.68 ดอลลาร์ (-5.2%) ปิด 30.50 ดอลลาร์(Reuters)
รมว.น้ำมันอิรักกล่าวว่าระดับการผลิตแตะสถิติใน ธ.ค. โดยบ่อน้ำมันภาคกลางและใต้ผลิตได้ถึง 4.13 ล้านบาร์เรลต่อวัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิรักกล่าวว่าอิรักจะอาจยิ่งเพิ่มระดับการผลิตด้วยซ้ำในปีนี้ (Reuters)
      ราคาทองขึ้นวันจันทร์ จากค่าดอลลาร์ที่อ่อนลงเพราะตลาดน้ำมันกลับมาอ่อนแอและความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วแค่ไหน ราคาทองคำตลาดจรปรับขึ้น 0.8% อยู่ที่ 1,106.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)

Thailand Research Department
  Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
  Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
  Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
  Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
  Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331

 

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!