- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 26 January 2016 09:04
- Hits: 910
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: ทดสอบ 1280-1285 ถ้าผ่าน 1287 สัญญาณซื้อต่อเนื่อง
SET Index : 1282.09 ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1280-1285 จุด พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านที่ 1270 จุดขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1285 จุด ถ้าสามารถทะลุผ่านแนวต้านที่ 1287จุดขึ้นไปได้ แนวโน้มของ SET Index จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1300 จุด และมีแนวต้านถัดไปที่ 1314 จุด
แนวต้าน : 1285 และ 1287**
แนวรับ : 1280 และ 1278
PTC = 227 / 230&236, PTTEP = 52.50 / 55.00, PTTGC = 51.00 / 52.00, JAS = 2.90 / 3.00, SCC = 424 / 428
Bangkok Bank (BBL TB; THB 148.00) - ซื้อ
แนวต้าน : 154 และ 160
แนวรับ : 148 และ 147
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงในระยะยาวที่ 144-145 แล้วสร้างฐานเหนือกรอบแนวโน้มขาลง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง
MACD เคลื่อนไหวออกด้านข้างในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้นต่อเนื่อง RSI เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50
แนะนำซื้อ BBL โดยมีแนวรับที่ 148 และ 147 และมีแนวต้านที่ 154 และ 160 เป็นจุดขายทำกำไร
ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 144 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 140
Samart I-Mobile (SIM TB; THB 1.18) - ซื้อ
แนวต้าน : 1.40 และ 1.45
แนวรับ : 1.18 และ 1.16
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เริ่มสูงขึ้น หลังจากฟื้นตัวจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น เหนือเส้นแนวโน้มขาลงในระยะยาวเดิม ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวลดลงทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 50
แนะนำซื้อ SIM โดยมีแนวรับที่ 1.18 และ 1.16 และมีแนวต้านที่ 1.40 และ 1.45 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.14 ลงไป
Analysts : Teerasak Tanavarakul
+662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ยังดีดขึ้นต่อ
สภาพการลงทุนในตอนนี้ต้องจับตาดู 3 ปัจจัยหลัก คือ 1. ตลาดหุ้นจีน 2. ตลาดหุ้นสหรัฐและ 3. ราคาน้ำมัน โดยตัวแปรทั้ง 3 ตัวนี้คาดยังเป็นปัจจัยหน่วงตลาดหุ้นทั่วโลกในขณะนี้ และยังไม่มีแนวโน้มจะคลายตัวลง หลังมีแรงขายหุ้นในเอเชียโดยเฉพาะ ญี่ปุ่น จีน และฮ่องกง จนตลาดหุ้นญี่ปุ่นและจีน เข้าสู่ตลาดหมี (ลงไปมากว่า 20% จากจุดสูงสุดของรอบ) ประเด็นที่น่าห่วงตอนนี้คือ แนวโน้มของตลาดหุ้นสหรัฐจะลงต่อหรือไม่ โดยส่วนใหญ่นักวิเคราะห์ยังมองลงได้อีก หากไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆเข้ามา
ปัจจัยที่จะทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงต่อ คือ 1. ผลดำเนินงาน Q4/15 ของบริษัทใน S&p 500 ที่ตอนนี้มองอัตราการขยายตัวของกำไรต่อหุ้น -4.7% จากประมาณการณ์เดิมที่ -1% 2. ราคาน้ำมันที่ยังไม่รู้ว่าจุดต่ำสุดจะอยู่ที่เท่าไรแต่ตอนนี้ดีดตัวกลับจากการ Cover short และภาวะอากาศหนาวจัด และ 3. แนวโน้มเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะการลดค่าเงินหยวน ที่ตลาดกำลังคาดว่าอาจจะลดอีก หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น คือราคาน้ำมันดิ่งลงต่ออย่างรวดเร็วหรือยังเกิดแรงขายในตลาดหุ้นสหรัฐ คาดตลาดหุ้นทั่วโลกยังสามารถปรับตัวลงได้อีก
อย่างไรก็ตามบรรยากาศการลงทุนเริ่มเห็นสัญญาณในเชิงบวกเกิดขึ้นมาบ้าง อย่าง ECB อาจจะขยายวงเงินซื้อพันธบัตรหรือลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค. จีนอาจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือน ก.พ. ญี่ปุ่นอาจจะออกนโยบายผ่อนคลายทางการเงินอีกในการประชุมปลายอาทิตย์นี้ และในการประชุม FOMC ของสหรัฐในวันที่ 27 ม.ค. อาจจะพิจารณาทบทวนการขึ้นดอกเบี้ย หลังเกิดความผันผวนรอบใหม่ขึ้นมา นอกจากนั้ยังมีสัญญาณบางตัวอย่าง VIX และ Bullish Sentiment กับตลาดหุ้นสหรัฐ
สัญญาณทั้ง VIX และ Bullish sentiment ของตลาดหุ้นสหรัฐ จากรูปด้านซ้ายและขวา กำลังบ่งชี้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐยังลงได้อีก แต่คงไม่มาก โดยดัชนี VIX ที่บ่งชี้ถึงความกลัว ตอนนี้กำลังจะขึ้นไปแตะ 30 ที่โดยปกติหากไม่มีอะไรที่รุนแรงไปมากกว่านี้ ดัชนี VIX มักจะปรับตัวลง ซึ่งหมายถึงดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐจะดีดตัวกลับ โดยในรอบ 10 ปีดัชนี VIX จะขึ้นเหนือ 30 ได้จะเกิดแค่ 3 ครั้งคือในปี 2008 2010 และ 2011 ซึ่งในปีเหล่านี้มีเหตุการณ์ที่รุนแรงทั้งสิ้น อย่างปี 2008 เกิดวิกฤติ Subprime ปี 2010 เกิดความกังวนว่า FED จะทำ QE2 หรือไม่และปี 2011 สหรัฐถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ ในส่วนของ Bullish sentiment ของที่ปรึกษาทางการเงินที่เป็นบรรดากองทุนทั่วโลก พบว่ากำลังจะลงในระดับที่ต่ำกว่า 30 ซึ่งเป็นปีที่ 2 ที่สัญญาณดังกล่าวลงมาในระดับที่รุนแรงเท่าๆปี 2008 โดยหากต่ำกว่า 30 จะเป็นสัญญาณซื้อ
ภาพการลงทุนในอาทิตย์นี้ คาดจะรีบาวน์ไปทดสอบ 1300 จุด หากผ่านจะขึ้นไปที่ระดับ 1320-1330 จุด หลังตลาดซึมทราบข่าวในเชิงลบไปมากแล้ว โดยราคาน้ำมันอาจดีดตัวขึ้นไปที่ระดับ 34-35 ดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกดีดตัวตาม นอกนั้นหากผลการประชุม FOMC ออกมาว่า FED กังวลกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน ก็น่าจะเป็นผลบวกกับตลาดหุ้นทั่วโลก วันนี้มองทิศทางดัชนี SET จะขึ้นต่อจากแรงหนุนของราคาน้ำมัน ผลดำเนินงานกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และการเปิดบวกของดัชนีตลาดหุ้นภูมิภาค ส่วนปัจจัยลบจากการพบผู้ป่วยเมอร์ส คาดไม่น่าส่งผลต่อตลาดเนื่องจากอยู่ในการควบคุม โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1280-1285 จุด ส่วนแนวรับที่ 1264-1260 จุด
Analysts :
Kiatkomg Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,282.09 จุด เพิ่มขึ้น 14.06 จุด (+1.11%) มูลค่าการซื้อขาย 21,341.26 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากราคาน้ำมันปรับขึ้น ธนาคารจีนและญี่ปุ่นมีแนวโน้มอัดฉีดสภาพคล่องเพื่อพยุงเศรษฐกิจ JAS รายงานผลประกอบ 4Q58 มีกำไรสุทธิ 1,050 ล้านบาท (EpS 0.15) เพิ่มขึ้น 19% YoY และ 19% QoQ (น้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ 75%) ปี 2558 บริษัทมีกำไรสุทธิ 15,710 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 380% YoY บริษัทจ่ายปันผลปี 58 ที่ 0.30 บาท/หุ้น คิดเป็น Div.Yield 10% (XD : 25/2/59) โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 3.54 บาท (Buy/Hold/Sell : 2/2/5)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย มีโอกาสลดช่วงบวกลง แรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานเป็นปัจจัยหนุน SET ประกอบกับมีแรงซื้อ Cover short เข้ามาเสริม หลังสภาพอากาศที่หนาวเย็นในสหรัฐหนุนให้เกิดความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความต้องการใช้ดังกล่าวเป็นความต้องการใช้ที่เกิดนอกฤดูกาล ทำให้มีโอกาสสูงที่จะเป็นรีบาวน์ขึ้นสั้นๆของราคาน้ำมัน ทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานมีโอกาสถูกขายทำกำไรได้ทุกเวลา หากราคาน้ำมันเริ่มอ่อนตัวลง ดังนั้น เราแนะนำให้หาจังหวะขายทำกำไรเล่นรอบ ตามแนวต้านสำคัญ มองแนวต้านถัดไปที่ 1285 จุด และ 1300 จุด ส่วนแนวรับจะอยู่ที่ระดับ 1265 จุด
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
Bangkok Bank (BBL TB; THB 148.00) - ซื้อ
Samart I-Mobile (SIM TB; THB 1.18) - ซื้อ
Analysts : Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233
[email protected]/ [email protected]