WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

AIRA copyบล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ทิศทางตลาด
  คาดยังผันผวน? ภายใต้ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน ที่ยังคงให้น้ำหนักประเด็นต่างประเทศจากตลาดทุนโลกที่มีความผันผวนสูง รวมถึงทิศทางการเติบโตเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีนและสหรัฐฯ หลังเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดไม่ดี ขณะที่มีความกังวลต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงต่อเนื่อง และอยู่ในระดับต่ำ ว่าอาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทพลังงาน รวมถึงประเทศที่ต้องพึ่งพาการส่งออกน้ำมัน


  ส่วนทางด้านปัจจัยในประเทศ ภาพรวมยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ ทางด้าน Fund Flow มีความผันผวน แรงซื้อขายสุทธิของต่างชาติสลับกันไป อย่างไรก็ตามยังคงแนะติดตามค่าเงินบาทประกอบ ล่าสุดเช้านี้เคลื่อนไหว 36.26 – 36.28 บาท ทรงตัววานนี้ที่ 36.26 บาท
อย่างไรก็ตามคาดหลังจากนี้ไป อาจได้รับปัจจัยบวกเข้ามาบ้างจากความเป็นไปได้ที่รัฐฯ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ทั้งกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ผ่านการปฏิรูปโครงสร้างภาษี และการกระตุ้นการท่องเที่ยวต่อเนื่อง ทั้งจากนักท่องเที่ยวในประเทศ และต่างชาติที่เดินทางเข้ามาไทย ที่คาดส่งผลดีต่อกลุ่มท่องเที่ยวทั้งกลุ่มโรงแรม และกลุ่มสายการบิน


  ส่วนแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มสื่อสาร คาดมีความน่าสนใจในรูปของ Div.Yieldหลังราคาปรับลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามคาดภาพรวมของกลุ่มฯ ยังคงมีความกังวลต่อภาวะการแข่งขันหลังมีผู้เล่นรายที่ 4 เข้ามาในตลาด
  ยังแนะจับตา (1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่คาดหลังจากนี้มีการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการอื่นๆ ที่มีความพร้อมต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม เส้นทางศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี วงเงิน 110,116 ล้านบาท ที่คาดสามารถเปิดประมูลได้ในช่วง 1Q/59 และรถไฟทางคู่สายประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร วงเงิน ประมาณ 24,000 ล้านบาท ซึ่งคาดเปิดประมูลปลายม.ค.’59 ส่งผลดีต่อ CK และ UNIQ
  (2) กลุ่มการบิน ที่คาดราคามีโอกาสฟื้นตัว หลังสายการบินของไทยผ่านการประเมินของสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป (EASA) และสามารถบินได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ลดลง และเริ่มเข้าสู่ช่วง High Season ส่งผลดีต่อ BA, AAV
  (3) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, TOP และ SPRC จะได้รับผลบวกจากค่าการกลั่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจาก 4Q/58-1Q/59 แต่คาดผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 4Q/58 เป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น
  (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น TASCO เป็นต้น

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
  (-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA -249.28, NASDAQ -5.26, S&P -22.00
  FTSE -203.22, CAC -147.31 และ DAX -272.57
  ภายใต้ปัจจัยลบ (1) ราคาน้ำมันที่ลดลงต่อเนื่อง อาจะส่งผลกระทบต่อบริษัทพลังงาน และประเทศที่ต้องพึ่งพาการส่งออกน้ำมัน (2) แนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยเฉพาะจีนและสหรัฐฯ หลังจีนเปิดเผย ตัวเลข FDI - ธ.ค. ลดลง 5.8%YoY อยู่ที่ 7.702 หมื่นล้านหยวน (1.223 หมื่นล้านUSD) และสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้าน – ธ.ค. ลดลง 2.5% อยู่ที่ 1.149 ล้านยูนิต ต่ำกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.2 ล้านยูนิต และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) – ธ.ค. ลดลง 0.1%MoM จากราคาน้ำมันที่ลดลง และเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่า
  ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. -US$1.91 อยู่ที่ US$ 26.55ต่อบาร์เรล จากความกังวลภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด หลังสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) เปิดเผย สต็อกน้ำมันดิบล่าสุด เพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรล และการที่อิหร่านเตรียมส่งออกน้ำมันในตลาด หลังนานาชาติยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร ขณะที่ EIA จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการในวันนี้ เวลา 23.00 น.ตามเวลาไทย
  ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. +US$17.1 อยู่ที่ US$ 1,106.2
  ต่อออนซ์ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกส่งสัญญาณชะลอตัว รวมถึงตลาดหุ้นทั่วโลกที่ลดลง ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง
  (+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +63 ล้านบาท สะสม YTD
-10,862 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
21.90 1.68 3.45
ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 42,510.39
สถาบัน +248.08
บัญชีหลักทรัพย์ -2,403.27
ต่างประเทศ +62.90
ในประเทศ +2,092.29

ประเด็นที่ต้องติดตาม 21 - 26 ม.ค. 2559
21/1/59 : ประชุมธนาคารกลางยุโรป – ECB
สหรัฐฯ เปิดเผย
   จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

22/1/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
   ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนธ.ค.
   ยอดขายบ้านมือสองเดือน ธ.ค.
   ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐฯ เดือน ธ.ค.

26/1/59 : เฟด ประชุมวันแรก
  (5) หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT, CENTEL) และ AOT จากแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น และเข้าสู่ช่วง High season ใน 4Q/58 – 1Q/59
  (6) เริ่มเข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงาน คาดอาจมีแรงเก็งกำไร จนถึงปลายเดือน ก.พ.’59 โดยเริ่มจากกลุ่มธนาคารที่คาดทยอยประกาศในสัปดาห์นี้
  ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.05 อยู่ที่ 1.98% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
  ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +1.54 อยู่ที่ 27.59
  หุ้นแนะนำ : SUTHA
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!