- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 20 January 2016 16:48
- Hits: 1523
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ทิศทางตลาด
ผันผวน? คาดมีโอกาสปรับลดลง หลังวานนี้ปรับตัวค่อนข้างแรง ซึ่งคาดเป็นการฟื้นตัวทางเทคนิค ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังคงมีน้ำหนักต่อภาพรวมตลาด (1) จีนเปิดเผยตัวเลข GDP ปี’58 ขยายตัว 6.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 25 ปี และยังคงมีความกังวลต่อทิศทางการเติบโตที่คาดมีแนวโน้มชะลอตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประเทศคู่ค้าต่างๆ และมีผลต่อเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตามมีความคาดหวังในเชิงบวกต่อมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ที่คาดจีนนำมาใช้ต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น และ (2) ราคาน้ำมันยังปรับลดลงต่อเนื่อง จากความกังวลต่อปริมาณน้ำมันในตลาดโลกที่จะเพิ่มขึ้นอีก หลังอิหร่านมีแผนเพิ่มการส่งออกน้ำมันทันที 500,000 บาร์เรล/วัน และเพิ่มอีก 500,000 บาร์เรล/วัน ในช่วงเวลาถัดไป และคาดยังส่งผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน ยกเว้นกลุ่มโรงกลั่นที่ได้รับปัจจัยหนุนอยู่จากค่าการกลั่นที่อยู่ในระดับสูง ล่าสุดที่ 10.80USD
ส่วนทางด้านปัจจัยในประเทศ ภาพรวมยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ ทางด้าน Fund Flow มีความผันผวน แรงซื้อขายสุทธิของต่างชาติสลับกันไป อย่างไรก็ตามยังคงแนะติดตามค่าเงินบาทประกอบ ล่าสุดเช้านี้เคลื่อนไหว 36.28 – 36.30 บาท แข็งค่าเล็กน้อยจากวานนี้ที่ 36.30 บาท
อย่างไรก็ตามคาดหลังจากนี้ไป อาจได้รับปัจจัยบวกเข้ามาบ้างจากความเป็นไปได้ที่รัฐฯ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ทั้งกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ผ่านการปฏิรูปโครงสร้างภาษี และการกระตุ้นการท่องเที่ยวต่อเนื่อง ทั้งจากนักท่องเที่ยวในประเทศ และต่างชาติที่เดินทางเข้ามาไทย ที่คาดส่งผลดีต่อกลุ่มท่องเที่ยวทั้งกลุ่มโรงแรม และกลุ่มสายการบิน
ขณะที่มีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มสื่อสาร หลังราคาปรับลดลงต่อเนื่อง และทำให้มีความน่าสนใจในรูปของ Div.Yield อย่างไรก็ตามคาดภาพรวมของกลุ่มฯ ยังคงมีความกังวลต่อภาวะการแข่งขันหลังมีผู้เล่นรายที่ 4 เข้ามาในตลาด
ยังแนะจับตา (1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่คาดหลังจากนี้มีการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการอื่นๆ ที่มีความพร้อมต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม เส้นทางศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี วงเงิน 110,116 ล้านบาท ที่คาดสามารถเปิดประมูลได้ในช่วง 1Q/59 และรถไฟทางคู่สายประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร วงเงิน ประมาณ 24,000 ล้านบาท ซึ่งคาดเปิดประมูลปลายม.ค.’59 ส่งผลดีต่อ CK และ UNIQ
(2) กลุ่มการบิน ที่คาดราคามีโอกาสฟื้นตัว หลังสายการบินของไทยผ่านการประเมินของสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป (EASA) และสามารถบินได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ลดลง และเริ่มเข้าสู่ช่วง High Season ส่งผลดีต่อ BA, AAV
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA +27.94, NASDAQ -11.47, S&P +1.00
FTSE +96.88, CAC +82.69 และ DAX +142.36
ส่วนหนึ่งจากการเข้าเก็งกำไร หลัง DJIA ปรับลงหนักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จากความกังวลว่า วิกฤตราคาน้ำมันอาจจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมพลังงานและประเทศที่ต้องพึ่งพาการส่งออกน้ำมัน และยังได้รับปัจจัยบวกจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านของสหรัฐฯ –
ม.ค. ทรงตัวที่ระดับ 60 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี สะท้อนว่าแนวโน้มเศรษฐกิจยังคงสดใส อย่างไรก็ตามหุ้นกลุ่มพลังงานยังลดลงตามราคาน้ำมันดิบ และยังเป็นปัจจัยกดดันตลาด
ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ว่า จีนจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังเปิดเผยตัวเลข GDP ปี’58 ขยายตัว 6.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่ปี’33 หรือในรอบ 25 ปี และชะลอลงจาก 7.3% เมื่อปี’57
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. -US$0.97 อยู่ที่ US$ 28.46ต่อบาร์เรล ภายใต้ปัจจัยลบ (1) ตัวเลข GDP ของจีนข้างต้น และ (2) ความกังวลต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้น หลังอิหร่านมีแผนเพิ่มการส่งออกทันที 500,000 บาร์เรล/วัน
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. -US$1.6 อยู่ที่ US$ 1,089.1
ต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งจากเงินสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +934 ล้านบาท สะสม YTD
-10,925 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
22.21 1.71 3.40
ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 45,449.95
สถาบัน +2,313.26
บัญชีหลักทรัพย์ +383.49
ต่างประเทศ +933.95
ในประเทศ -3,630.70
ประเด็นที่ต้องติดตาม 20 - 22 ม.ค. 2559
20/1/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ธ.ค.
ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือน ธ.ค.
EIA เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
21/1/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
22/1/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนธ.ค.
ยอดขายบ้านมือสองเดือน ธ.ค.
ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐฯ เดือน ธ.ค.
(3) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, TOP และ SPRC จะได้รับผลบวกจากค่าการกลั่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจาก 4Q/58-1Q/59 แต่คาดผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 4Q/58 เป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น
(4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น TASCO เป็นต้น
(5) หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT, CENTEL) และ AOT จากแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น และเข้าสู่ช่วง High season ใน 4Q/58 – 1Q/59
(6) เริ่มเข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงาน คาดอาจมีแรงเก็งกำไร จนถึงปลายเดือน ก.พ.’59 โดยเริ่มจากกลุ่มธนาคารที่คาดทยอยประกาศในสัปดาห์นี้
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.01 อยู่ที่ 2.04% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.97 อยู่ที่ 26.05
หุ้นแนะนำ : TOP
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788