- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 08 July 2014 15:33
- Hits: 2285
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“แกว่ง/อ่อนไม่หลุด 1480 ยังคงเป็น Sideway up”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มีภาพตลาดวันก่อน : # ดัชนีปิดที่ 1503.21 (+7.38 จุด) มูลค่าซื้อขายประมาณ 4.2 หมื่นล้านบาท หนุนโดยหุ้นใหญ่อย่าง PTT, PTTEP, SCC,ADVANC, DTAC, KBANK เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีการเลือกซื้อหุ้นขนาดกลาง-เล็กเข้ามาเสริมด้วย นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 1.8 พันล้านบาท สถาบันในประเทศซื้อสุทธิน้อยลงเหลือ 198 ล้านบาท พอร์ตบล.และรายย่อยขายสุทธิปัจจัยและกลยุทธ์ : # Sentiment ภายนอกค่อนไปทางลบ นักลงทุนขายทำกำไรหลังตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นทำ New High อย่างไรก็ตาม การปรับฐานไม่รุนแรง เพราะมีการซื้อเก็งกำไรผลประกอบการ 2Q57 ช่วยพยุงและน่าจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดในระยะต่อไปได้ สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่จับตา คือ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่อาจจะเร็วกว่าคาด หลังจากตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง & อัตราเงินเฟ้อขึ้นแตะเป้าหมายระยะยาวที่ 2%แล้ว
# สำหรับภายใน ยังมีการเลือกซื้อหุ้นที่ธุรกิจกำลังจะฟื้นตัวดีขึ้นใน 2H57 หรือในปี 58 ขณะที่ราคายังไม่ได้ปรับขึ้นมากนัก หรือหุ้นที่ได้มีการปรับฐานรับข่าวลบต่างๆ ไปมากแล้ว แต่ยังมีแนวโน้มธุรกิจที่ดีในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ซึ่งหลักทรัพย์ที่น่าสนใจ เช่น LH, STPI, SIRI, GLOBAL, HMPRO, NWRเป็นต้น
# กลยุทธ์ทางเทคนิค : ซื้อใหม่เน้นซื้อตามค่าบวก การอ่อนตัวต่ำกว่าแนวฟิวเตอร์ 1480 จุด มีแนวเด้ง 1470, 1450-1440 จุด ส่วนการปรับขึ้นต่อมีแนวต้านระยะสั้น 1510-1520 จุด หุ้นพื้นฐานแนะนำซื้อลงทุนระยะยาววันนี้เป็น STPI
Thailand Daily Trading Focus : 8 July 2014
Fundamental Pick
STPI แนะนำซื้อ
ปิด 20.30 บาท ราคาเป้าหมาย 22.70 บาท
# คาด Core Profit 2Q57 เติบโตก้าวกระโดด 51%YoY เป็น 617 ล้านบาท เนื่องจากรับรู้รายได้งาน Ichthys เข้ามามากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่อัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงเพราะงาน Module ของโครงการ Ichthys มีอัตรากำไรขั้นต้นประมาณ 20-25% ขณะที่ปีก่อนรับรู้งาน Piping ซึ่งให้มาร์จิ้นสูงเข้าไปด้วย
# คาดว่าใน 3Q57 จะรับรู้รายได้จากโครงการ Ichthys เพิ่มขึ้นอีก รวมทั้งจะมีรายได้ค่าเร่งงาน20 ล้านดอลลาร์สหรัฐเข้ามาใน 3Q57 ด้วย ซึ่งส่วนนี้มีต้นทุนเพิ่มไม่มาก ยังผลให้อัตรากำไรขั้นต้นใน 3Q57 มีโอกาสที่จะสูงขึ้นจาก 1Q-2Q57 ที่ประมาณ 23-24%
# ราคาหุ้นปรับลดลงมา 14% หลังมีความเสี่ยงว่าอาจจะไม่ได้งาน LNG Module ที่รัสเซีย แต่ส่วนนี้ไม่มีผลกระทบต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 57 ขณะเดียวกันยังมีลุ้นที่จะได้งาน LNGModule ที่แคนาดา & โมซัมบิคซึ่งจะประกาศผลในปลายปี 57 หรือต้นปี 58 แนะนำซื้อ โดยให้ราคาพื้นฐาน 22.70 บาท อิงกับ P/E ปี 57 ที่ 12 เท่า
ปัจจัยต่างประเทศและโภคภัณฑ์
+ สหรัฐ : ตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัวแข็งแกร่ง
# คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดเปิดเผยว่าดัชนีแนวโน้มการจ้างงานในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 119.62 จาก119.03 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเน้นย้ำถึงภาวะตลาดแรงงานสหรัฐที่มีความแข็งแกร่งขึ้นในเดือนที่แล้วและดัชนีปรับขึ้น 6.3%YoY
• สหรัฐ : ตลาดจับตาเรื่องอัตราดอกเบี้ย...เฟดอาจปรับขึ้นเร็วกว่าคาด
# ความแข็งแกร่งของตัวเลขจ้างงานสหรัฐและอัตราเงินเฟ้อที่ปรับขึ้นเหนือระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายเงินเฟ้อในระยะยาว ทำให้ตลาดกังวลงว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม
สหรัฐ : อัตราเงินเฟ้อพ.ค.57 อยู่ที่ 2.1%
ที่มา : Tradingeconomics, Retail Research DBS Vickersเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อระยะยาวอยู่ที่ 2%
Thailand Daily Trading Focus : 8 July 2014
• สถาบันต่างๆของอียูนัดหารือเรื่องยูเครนวันนี้
# สหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยว่าสถาบันต่างๆของอียู, ประเทศสมาชิก, รัฐบาลยูเครนและกลุ่มผู้บริจาคระหว่างประเทศ จะจัดการประชุมระดับสูงในวันนี้ (8 ก.ค.) ที่กรุงบรัสเซลส์ เพื่อหารือเกี่ยวกับประแด็นสำคัญต่างๆ และเพื่อสนับสนุนยูเครน
- ตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนตัวจากแรงขายทำกำไร
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,024.21 จุด ลดลง 44.05 จุด หรือ -0.26% ดัชนีNASDAQ ปิดที่ 4,451.53 จุด ลดลง 34.40 จุด หรือ -0.77% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,977.65 จุดลดลง 7.79 จุด หรือ -0.39% โดยเป็นผลจากแรงขายทำกำไรหลังดัชนีทำ New High ในสัปดาห์ก่อน รวมทั้งรอดูรายงานผลประกอบการของบริษัทเอกชนที่กำลังจะออกมา
- สัญญาน้ำมันดิบลดลง กังวล Supply ที่จะออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น (จากลิเบียที่กลับมาผลิต และจากอิรักที่ผลิตเพิ่ม)
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ลดลงติดต่อเป็นวันที่ 7 ของวันทำการ โดยหลักมาจากรายงานที่ว่าลิเบียเตรียมส่งออกน้ำมันที่ท่าเรือสองแห่งซึ่งปิดทำการนานเกือบ 1 ปี โดยเมื่อคืนนี้สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวลง 53 เซนต์ ปิดที่ 103.53 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 40 เซนต์ ปิดที่110.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
# กระทรวงพลังงานของลิเบียเปิดเผยว่าท่าเรือเอส ซีเดอร์ ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของลิเบียและท่าเรือราส ลานุฟ ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ มีน้ำมันดิบอยู่ราว 7.5 ล้านบาร์เรลที่พร้อมจะส่งออกไปยังต่างประเทศ
# มีรายงานว่าปริมาณการส่งออกน้ำมันอิรักจะเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.5 ล้านบาร์เรล/วันในปัจจุบันเนื่องจากสถานการณ์ความรุนแรงในอิรักไม่ได้ขยายตัวไปยังทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการผลิตน้ำมันคิดเป็น 3 ใน 4 ของอิรัก
- สัญญาทองคำ COMEX อ่อนลง # สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 3.6ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 1,317 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนมีการขายทำกำไรทองคำออกมาหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง ซึ่งหนุนให้ค่าเงิน US$ แข็งค่าขึ้นในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมา
ปัจจัยในประเทศและหลักทรัพย์
• กสทช.เตรียมชี้แจงความจำเป็นเปิดประมูล 4G ต่อคสช.วันที่ 10 ก.ค.นี้
# กสทช.เตรียมเสนอความจำเป็นเรื่องการประมูล1800 MHz และ 900 MHz (4G) ให้คสช.พิจารณาในวันที่ 10 ก.ค.นี้ ทั้งนี้มีลูกค้าราว 4 ล้านรายที่อาจมีปัญหา ถ้าการประมูลต้องเลื่อนออกไปเป็นเวลานาน สำหรับ ADVANC เหลืออายุสัมปทาน อีกประมาณ 1 ปีกว่า (สิ้นสุด 15ก.ย.58) และมีลูกค้าจำนวนมาก ขณะที่มีคลื่นความถี่น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งขัน ซึ่งเป็นความเสียเปรียบทางธุรกิจ แต่บริษัทก็กำลังหารือกับเจ้าของสัมปทาน คือ TOT เพื่อบริหารจัดการในเรื่องนี้ ด้าน DTAC และ TRUE คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากเลื่อนเปิดประมูล 4Gน้อยกว่า ADVANC เพราะมีคลื่นความถี่เหลือมากกว่า
Thailand Daily Trading Focus : 8 July 2014
+ กลุ่มรับเหมา & วัสดุก่อสร้าง & แบงค์ได้ประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐที่เริ่มเดินหน้า
# การเปิดประมูลรถไฟทางคู่จะเปิดประมูลในวันที่ 15 ก.ค.นี้ โดยเป็นสัญญาที่ 1 ของเส้นทางจะเป็นฉะเชิงเทรา-คลองสินเก้า-แก่งคอย มูลค่าโครงการ 1.02 หมื่นล้านบาท
# ความเห็น Retail Research DBSV : การเดินหน้าโครงการลงทุนภาครัฐ เป็นข่าวบวกกับกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง, วัสดุก่อสร้าง และธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้แม้ว่าเม็ดเงินจากการลงทุนจะยังไม่เข้ามาเร็ว แต่การเปิดประมูลก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าจะมีเงินลงทุนภาครัฐเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ปลายปี 57 หรือต้นปี 58 ซึ่งทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจในปีหน้าจะอยู่ที่5%+/- ได้ สำหรับหุ้นที่เป็น Top Picks ของ 3 กลุ่มดังกล่าวข้างต้น เป็นดังนี้ รับเหมาก่อสร้าง-CK, STEC เก็งกำไร ITD, NWR ส่วนวัสดุก่อสร้าง – SCC, SCCC, TASCO และธนาคารพาณิชย์ – BBL, KBANK, KTB
+ LH : ยอดขายโครงการคอนโดใหม่ที่ได้รับการตอบรับดี & การขาย Terminal 21 เข้ากองทุนฯ เป็นปัจจัยกระตุ้น แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 11.30 บาท
# โครงการ "333 Riverside" ที่เปิดขายเมื่อมิ.ย.57 ได้รับการตอบรับดีในรอบ SoftLaunch โดยมียอดจองซื้อกว่า 30% ทั้งนี้โครงการมียูนิตขาย 950 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 6.8 ล้านบาท/ยูนิต ปัจจัยหนุนโครงการนี้ คือ ทำเลที่ดี เพราะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีบางโพเพียง30 เมตร และเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา บริษัทจะเปิดขายโครงการอย่างเป็นทางการ (OfficialLaunch) วันที่ 2 ส.ค.นี้
# Presales 2H57 จะดีขึ้นมาก สำหรับยอดขาย Presales ช่วง 5M57 ลดลง 15%YoY เป็น 1หมื่นล้านบาท เพราะไม่มีการเปิดขายคอนโดใหม่ อย่างไรก็ตามใน 2H57 จะดีขึ้นมากเพราะจะเปิดขายอีก 2 โครงการมูลค่าขาย 5 พันล้านบาท (ไม่รวม 333 Riverside)
# ปัจจัยกระตุ้นอีกประการ คือ การขายศูนย์การค้า Terminal 21 เข้าสู่กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ในช่วง 2H57 ทั้งนี้ LH ได้รับการอนุมัติการออกกองทุนฯจากกลต.แล้ว และการอนุมัติจะหมดอายุปลายปี 57 ดังนั้นจึงคาดว่าบริษัทจะขายสินทรัพย์ดังกล่าวในช่วง 2H57ซึ่งจะบันทึกกำไรเป็นจำนวนมาก เพราะมูลค่าการขายอยู่ที่ประมาณ 6 พันล้านบาท ขณะที่ต้นทุนเป็นเพียง 3 พันล้านบาท
# ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำซื้อ LH โดยฝ่ายวิจัยฯ DBSV ให้ราคาพื้นฐานเท่ากับ 11.30 บาท(Sum-of-Parts)