- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 08 July 2014 15:13
- Hits: 2290
บล.เคที ซีมิโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ผันผวนในกรอบขาขึ้น
Highlight
ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เปิดลง ตามตลาดยุโรปสหรัฐฯ จากแรงขายทำกำไรหลังนักลงทุนเริ่มกังวล เฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด และ ผลผลิตอุตสาหกรรมเยอรมนี ออกมาแย่กว่าคาด
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ USA: Consumer Credit พ.ค. +$18bn. (Vs +26.8bn) Japan : C/A พ.ค. คาด +447.5bn เยน (Vs +187.4bn เยน) Germany: ดุลการค้า พ.ค. คาด +16bn.ยูโร (Vs +17.4bn)
+วันทำการล่าสุด นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อ +1.71 พันลบ. (ซื้อสะสม 5 วัน ใน 6 วันทำการล่าสุดรวม +7.10 พันลบ.) ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อเพิ่ม +197 ลบ. (ซื้อ 7 วันใน 8 วันทำการล่าสุดรวม +5.17 พันลบ.)
+/- การเมือง จับตา แนวทางการเลือกตั้งใหม่ ที่กกต. จะเสนอคสช. วันนี้และการประมูลโครงการรถไฟรางคู่ ประกาศกลางเดือนนี้
คาดดัชนีฯ วันนี้ ผันผวน แต่ยังอยู่ในกรอบขาขึ้น โดยช่วงเช้าอาจอ่อนตัวตามต่างประเทศได้บ้าง แต่ทิศทางหลักยังค่อยๆ ปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 1520 จุด แรงหนุนมาจากแรงซื้อต่างชาติที่กลับเข้ามาซื้อคืนหุ้นบลูชิพขนาดใหญ่ จากมุมมองเศรษฐกิจฟื้นตัวตั้งแต่ครึ่งหลังปีนี้
กลยุทธ์: 2Q57F High earnings Play แนะนำ TMB KTB PTTEP SCCC IVL GOLD ส่วนหุ้นคาดจ่ายปันผลระหว่างกาล แนะนำ INTUCH, SNC, ADVANC, LALIN, LH ,BOL, UEC, JMART, BTS ส่วนเทคนิค สัญญาณขาขึ้นไปถึง 1520 จุดมีโอกาสเกิดขึ้นใน 1-2 สัปดาห์นี้
หุ้นในกระแส:
หุ้นโมเมนตัมบวก (ขึ้นเกิน 5.0%) ได้แก่ ABC BKD TWZ APCO KTC INET RASA หุ้นที่ลงกว่า 3.0 % ได้แก่ WIIK MINT ESTAR SIM
NVDR (หน่วย: ลบ.) สูงสุดด้านซื้อ DTAC+390 BBL+297 KTB+175 SCC+161 ได้แก่ สูงสุดด้านขาย ได้แก่ LH-238 MINT-107
หลักทรัพย์ที่มี Short Sell สูงสุด (หน่วย:ล้านบาท) ได้แก่ PTT 157 SCB 88 ADVANC 84
Market Outlook
คาดดัชนีฯ วันนี้ ผันผวน แนวต้าน 1510/1520 จุด แนวรับ 1500/1495 จุด ทิศทางหลักยังเป็นขาขึ้น จากแรงซื้อต่างชาติที่เริ่มไหลกลับหนุนหุ้นใหญ่ ขณะแรงเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็ก ยังหนาแน่น ส่วนปลายสัปดาห์ จับตาการประกาศผลประกอบการไตรมาสสอง เริ่มโดยกลุ่มธนาคาร
คาดดัชนีฯ วันนี้ ผันผวน แต่ยังอยู่ในกรอบขาขึ้น โดยช่วงเช้าอาจอ่อนตัวตามต่างประเทศได้บ้าง แต่คาดทิศทางหลักยังค่อยๆ ปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 1520 จุด ส่วนแนวรับวันนี้ ที่ 1500/1495 จุด แรงหนุนมาจากแรงซื้อจากต่างชาติ ที่เริ่มไหลกลับเข้าหุ้นใหญ่อย่างต่อเนื่อง เน้นกลุ่ม Laggards Play (อสังหาฯ สื่อสาร ยังเหลืออัพไซด์ที่น่าสนใจ) วันนี้ กกต. เสนอคสช. แนวทางการปรับปรุงการเลือกตั้ง ส่วนปลายสัปดาห์เริ่มเข้าสู่ earning season เริ่มโดยกลุ่มธนาคาร ตัวแรก TISCO (10 ก.ค. คาดกำไร 1050 ลบ -9.4% y-y +12.3% q-q)
ปัจจัยต่างประเทศ ประเด็นต่างประเทศ กลับมาเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นภูมิภาคในวันนี้ หลังนักลงทุนเริ่มให้น้ำหนักต่อคาดการณ์การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งล่าสุดมีบางส่วนคาดว่าอาจเร็วขึ้นเป็นช่วงไตรมาสแรกปีหน้า หลังข้อมูลการว่างงานดีขึ้นมาก ประกอบกับ ราคาหุ้นที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนเริ่มระวังต่อ valuation ที่ค่อนข้างแพง โดยปัจจัยดังกล่าวอาจทำให้ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวในช่วงเช้า แต่ในระยะหลัง สังเกตุได้ว่าตลาดหุ้นไทยไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาคมากนัก จึงคาดมีการดีดตัวขึ้นระหว่างวันได้
ปัจจัยในประเทศ แรงหนุนหลักในช่วงสัปดาห์มาจาก การกลับมาซื้อหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ หลังหุ้นพลังงานคลายความกดดันบางส่วน จากการตั้งบอร์ดปตท. คนใหม่ ประกอบกับราคาหุ้นในกลุ่มใหญ่อย่างพลังงาน และสื่อสารที่ยัง laggard กลุ่มอื่นอยู่มาก ทำให้มีอัพไซด์ค่อนข้างมากจากราคาเป้าหมายปีนี้ ดึงดูดนักลงทุนกลุ่ม bargain hunter
การเมือง วันนี้กกต. จะเสนอผลการหารือเรื่องการเลือกตั้งให้คสช. พิจารณาประเด็นหลักที่มีการแก้ไข เช่น การกำหนดวาระ ส.ส. อยู่ในตำแหน่งแค่ 2 สมัย และให้ปลัดกระทรวงรักษาการแทนในการยุบสภา เป็นต้น พร้อมเพิ่มอำนาจกกต. ในการเลื่อนวันเลือกตั้ง ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับการเลือกตั้งเช่นที่เคยเกิดในช่วงประท้วงครั้งที่แล้ว
Event Plays:
1) Earnings Play: เก็งกำไรหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะรายงานกำไร 2Q57F เติบโตสูง อาทิ TMB KTB PTTEP SCCC IVL GOLD ANAN CSS JUBILE MINT SVI THANI THCOM
2) High Dividend Play: หลักทรัพย์ที่มีประวัติการจ่ายปันผลสูงรายปีเฉลี่ยสูงกว่า 3.5% และจ่ายปันผลระหว่างกาลสม่ำเสมอในช่วงกลางปี รวมถึงมี % Upside ต่อราคาเป้าหมาย ได้แก่ INTUCH, SNC, ADVANC, LALIN, LH ,BOL, UEC, JMART, BTS
3) หุ้น Turnarond/โตก้าวกระโดด ปี 57/58 CFRESH, GOLD, MJD, THRE, TPOLY, TTA, VNG (turnaround) APCO, CSS, DCON, IFEC, IVL (โตก้าวกระโดด)
เทคนิค : ขึ้นสลับย่อ
คาดดัชนีฯ แกว่งตัวในกรอบขาขึ้นต่อเนื่อง หลังวานนี้ขึ้นมายืนปิดเหนือแนวต้านจิตวิทยา 1500 จุดได้ โดยมีแนวต้านต่อไปที่ 1520 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1482 จุด อิงสัญญาณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่เรียงตัวแบบ Bullish Signal อย่างไรก็ดี แม้เรามองว่าตลาดยังอยู่ในช่วงขาขึ้นรอบใหญ่ แต่การปรับฐานย่อยๆ ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้ อิงสัญญาณ Stoch, MACR, RSI ที่เข้าสู่ภาวะ Overbought Area ส่งผลให้ทุกครั้งที่ดัชนีฯ ขึ้นแรง จะมีสัญญาณอ่อนตัวทุกครั้งเช่นกัน
ประเด็นจับตา
1. ประเด็นการเมือง: จับตาแนวทางการตั้งสภาปฏิรูป และกำหนดเวลานำไปสู่การเลือกตั้ง
ประเด็นการเมือง (Update):
ชงรื้อระบบ "เลือกตั้ง" กกต. เสนอ "จำกัดวาระ ส.ส. 2 สมัย - โละครม.รักษาการ" กกต.ถกปฏิรูปกฎหมายเลือกตั้งเสร็จแล้วประธานกกต.ลงนามชงคสช.วันนี้ เสนอเลือกตั้งพวงใหญ่ ส.ส.มาจากทั้งเลือกตั้ง-บัญชีรายชื่อ จำนวนใกล้เคียงกัน จำกัดวาระแค่ 2 สมัย เมื่อยุบสภาให้ปลัดรักษาการแทนครม.พร้อมแบนคนทุจริต-ติดยา-หมิ่นสถาบัน" ห้ามลงเลือกตั้ง ขณะเดียวกันขอเพิ่มอำนาจ กกต. เลื่อนเลือกตั้งได้เอง
+/-2. Earnings Results: คาดการณ์ผลกำไรบจ.ไทย 2Q57F พบว่า แบงก์ทิสโก้จะประกาศงบวันแรก 10 ก.ค. แต่บจ.ที่คาดว่าจะรายงานกำไรเติบโตดีขึ้น y-y q-q ได้แก่ TMB BAY SCB KTB BIGC PTTEP
+/-ผลการดำเนินงาน 2Q57F ของบจ.สหรัฐฯ : จะทยอยประกาศตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป ที่น่าสนใจได้แก่ ALCOA (8/7) Wells Fargo(11/7) Citigroup(14/7) Goldman Sachs, J&J ,Intel, Yahoo(15/7)
-3. กลุ่มหลักทรัพย์
- คาดรายงานกำไรบจ. 2Q57F ลดลงเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน อิงมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของตลาดฯ ลดลง 30.63% y-y เป็น 40,636 ล้านบาทต่อวัน (Vs 58,576 ล้านบาท) ทั้งนี้ TNITY เป็นโบรกเกอร์เดียวที่มีวอลุ่มซื้อขายดีขึ้น 70.34%y-y รองลงมาคือ CIMBS +2.06%y-y ไม่รวม 3 โบรกเกอร์ใหม่ ขณะที่ AIRA ที่เข้าซื้อขายสัปดาห์นี้ มีวอลุ่มซื้อขาย 2Q57 ลดลง 37.5%y-y สะท้อนการปรับขึ้นของราคาหุ้นอาจจะมีจำกัด อย่างไรก็ดี ประเด็นเชิงบวกต่อผลกำไรบล. คือ บล.ที่มีพอร์ตลงทุน อาทิ KGI PHATRA ASP ฯลฯ คาดว่าจะมีรายได้จากพอร์ตลงทุนมาช่วยชดเชย อิงดัชนีตลาดฯ 2Q57 เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 7.96%q-q (Vs 2Q56 ดัชนีฯ -8.17%q-q) รวมถึง การมีรายได้จากค่าธรรมเนียมการนำหุ้นใหม่เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ (IPO) ทั้งนี้ เราคาดว่า กลุ่มหลักทรัพย์มีแนวโน้มที่จะมีรายได้ดีขึ้นตั้งแต่ 2H57F เป็นต้นไป อิงทิศทางดัชนีฯที่ยังคงมี Upside Risks และการกลับมาซื้อคืนของนักลงทุนต่างชาติ สำหรับการลงทุนระยะสั้น
เราแนะนำ TNITY TP 8.86 บาท จากคาดว่าจะเป็นหลักทรัพย์ที่รายงานกำไรเติบโตดีขึ้น y-y สวนทางบล. อื่นๆ ที่รายงานกำไรลดลง
+/- 4.รายงานเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้ :
อังคาร: USA: Consumer Credit พ.ค. +$18bn(Vs +26.8bn) Japan-C/A พ.ค. คาด +447.5bn เยน (Vs +187.4bn เยน) Germany: ดุลการค้า พ.ค. คาด +16bn.ยูโร (Vs +17.4bn)
วันพุธ: USA รายงานประชุม FOMC Meeting ล่าสุด และ China CPI มิย คาด +2.4%y-y (Vs 2.5%)
วันพฤหัสบดี: Chian ดุลการค้า มิ.ย. คาด +$35bn. ส่งออก +10.4%y-y นำเข้า +6%y-y BoE:Central Bank Meeting คาดคงดอกเบี้ยที่ 0.5%
ศุกร์: Germany CPI พ.ค. คาด +0.4%m-m
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจวันทำการผ่านมา:
เยอรมนี เผยผลผลิตอุตฯ ดิ่ง 1.8% ใน พ.ค. ทรุดตัวครั้งใหญ่รอบกว่า 2 ปี กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีรายงานวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีดิ่งลง 1.8 % ในเดือน พ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 2 ปี ก่อนหน้านี้ นักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์คาดการณ์ว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมอาจทรงตัวในเดือน พ.ค. นอกจากนี้ กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีได้ปรับทบทวนตัวเลขเดือน เม.ย. ให้ลดลงจากเดิมเล็กน้อย โดยปรับลดลงสู่ระดับ -0.3 % จากเดิมที่เคยรายงานว่าอยู่ที่ -0.2 %
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
Global Momentum
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลดง วิตกคำเตือนตลาดหุ้นปรับตัว
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วง หลังทำ New High โดยดัชนี DJIA ปิดร่วง 44.05 จุด หรือ -0.26% สู่ระดับ 17,024.21 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 7.93 จุด หรือ -0.4% สู่ระดับ 1,977.51 จุด Nasdaq ปิดลดลง 34.39 จุด หรือ -0.77% สู่ระดับ 4,451.53 จุด
หุ้นสหรัฐปิดตลาดแดนลบ หลังตลาดได้รับคำเตือนจากเหล่ากูรูแวดวงการลงทุน รวมทั้งนักเศรษฐศาสตร์ระดับรางวัลโนเบล โจเซฟ สติกลิสต์ที่ระบุว่า รู้สึกไม่ดีมากๆกับราคาหุ้นในปัจจุบัน และนักวิเคราะห์อีกคนที่คาดการณ์ว่า หุ้นจะร่วงถึง10-12%ในสองสามสัปดาห์ข้างหน้า
นอกจากนี้ บรรดานักลงทุน ต่างรอดูรายงานการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ประจำวันที่ 17-18 มิ.ย. ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพุธนี้ หรือเช้าวันพฤหัสบดี ตามเวลาไทย อีกทั้ง นักลงทุนยังจับตาฤดูการรายงานผลประกอบการช่วงไตรมาส 2 ซึ่งจะเริ่มเปิดฉากขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยบริษัทอัลโค ซึ่งเป็นบริษัทอลูมินัมยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ จะรายงานผลประกอบการในวันพรุ่งนี้ และผลประกอบการของเวลส์ ฟาร์โกจะมีขึ้นในวันศุกร์นี้
- ตลาดหุ้นยุโรป ปิดร่วงลง ผิดหวังตัวเลขการผลิตเยอรมนี
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยุโรป ปิดร่วง FTSE ปิดลดลง 42.54 จุด หรือ -0.62% สู่ 6,823.51 จุด ดัชนี CAC40 ปิดร่วง 63.22 จุด หรือ -1.4% สู่ 4,405.76 จุด และ DAX ปิดดิ่ง 103.01 จุด หรือ -1.03% สู่ 9,906.07 จุด
หุ้นยุโรป ปิดแดนลบหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 1.8% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งต่ำกว่าระดับคาดการณ์ในผลสำรวจของนักเศรษฐศาสตร์จากวอลสตรีท เจอร์นัล ที่อยู่ในระดับทรงตัว โดยข้อมูลเดือน เม.ย. ที่ปรับทบทวนแล้ว ลดลง 0.3% จากตัวเลขที่ปรับตัวขึ้นก่อนหน้า 0.2% ตัวเลขการผลิตตามข้อมูลคำสั่งซื้อในภาคการผลิต ระบุว่า คำสั่งซื้อลดลง 1.7% เมื่อเทียบรายเดือน โดยคำสั่งซื้อทั้งในและต่างประเทศปรับตัวลดลง ทั้งนี้ คำสั่งซื้อภาคการผลิต มักจะเป็นตัวบ่งชี้ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของประเทศในอนาคตการผลิตในภาคการผลิตเดือน พ.ค.ปรับตัวลง 1.6% จากเดือน เม.ย. ขณะที่การผลิตภาคการก่อสร้างหดตัว 4.9%
-ราคาน้ำมันดิบ ปิดลดลงต่ำสุดรอบ 1 เดือน หลังลิเบียอาจส่งออกน้ำมันรอบใหม่
วันทำการที่ผ่านมา Brent ส่งมอบ ส.ค. ปิดลดลง 0.40 ดอลลาร์ สู่ 110.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน Nymex ส่งมอบ ส.ค. อ่อนตัว 0.53 ดอลลาร์ มาปิด ตลาดที่ 103.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดลดลงสู่ระดับต่ำสุดรอบ 1 เดือน ขณะที่ลิเบียเตรียมที่จะเริ่มส่งออกน้ำมันจากท่าเรือ 2 แห่งที่ปิดทำการมาเกือบ 1 ปี และปริมาณน้ำมันจากอิรักยังไม่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในประเทศ
-ราคาทองคำ ร่วงลง จากดอลล์แข็งค่า
วันทำการที่ผ่านมา ราคาสัญญาทองเดือน สิงหาคม ปิดตลาด ลดลง 1 ดอลล์ สู่ 1,320.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ในช่วงต่อไป หลังจากเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐส่งสัญญาณสดใสนั้น จะทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
- ดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index กลับมาปิดลดลงเล็กน้อย
วันทำการที่ผานมา ดัชนี Baltic Dry Index กลับมาปิดลดลง 5 จุด มาปิดที่ 888 จุด หลังจาก ปี 56 เพิ่มขึ้น +28.14%y-y เป็น 2227 จุด (จาก 1738 จุด ณ สิ้นปี 55) โดยระดับสูงสุดอยู่ที่ 2337 จุด เมื่อ 12/12/56 และระดับต่ำสุดอยู่ที่ 698 จุด เมื่อ 2/1/56 ขณะที่ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 554 กลุ่มเรือ (Shipping) คาดผ่านจุดต่ำสุด Bottom Out และฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก (แนะนำ เก็งกำไร PSL TP Consensus 22.84-27.25 บาท TTA TP Consensus 22.83-27.25 บาท)
ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, no. 14501 [email protected] 02-624-6244
ธิดารัตน์ ผโลดม, no. 16564 [email protected] 02-624-6270